เสนอกู้ฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากอีก 1 ล้านล้านบาท

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ส.อ.ท.เสนอรัฐออก พ.ร.ก.กู้เงินเพิ่ม 1 ล้านล้านบาท ช่วยเศรฐษกิจรากหญ้า พร้อมยืดเวลาชำระหนี้ให้เอสเอ็มอีต่ออีก 2 ปี จนถึงสิ้นปี 65 ด้านเอ็กซิมแบงก์เตรียมเสนอยืดหนี้ต่ออีก 1 ปี


นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า หลังการปรับคณะรัฐมนตรีทางภาคเอกชนเห็นว่าเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการ คือ ตั้งคณะกรรมการฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยมีภาคเอกชนเข้าไปมีส่วนร่วม พร้อมมีแนวคิดที่จะเสนอให้ภาครัฐพิจารณากู้เงินผ่านการออก พ.ร.ก.กู้เงินฟื้นฟูเศรษฐกิจเพิ่มอีก 1 ล้านล้านบาท เพราะมองว่าหนี้สาธารณะของประเทศยังต่ำ จึงพอที่จะพิจารณากู้เงินเพิ่มได้อีก โดยเงินกู้ก้อนใหม่อยากให้อย่างน้อยใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจกลุ่มรากหญ้า หรือ เศรษฐกิจฐานราก ผ่านรูปแบบโครงการระยะสั้นและโครงการระยะยาว โดยภาครัฐเป็นหน่วยงานทำหน้าที่กระจายออกไปยังภาคสังคมต่อไป

นอกจากนี้ ทาง ส.อ.ท.ประเมินว่าโควิด-19 ส่งผลกระทบทั่วโลกรวมถึงไทยจะยังคงต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อยปีหน้า ผู้ประกอบการจึงยังไม่สามารถทำกำไรได้ ดังน้ัน จึงมีแนวคิดที่จะเสนอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) พิจารณาออกนโยบายช่วยเหลือโดยเฉพาะผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ด้วยการต่อมาตรการไม่ต้องชำระหนี้ออกไปอีกอย่างน้อย 2 ปี จนถึงปี 2565 แบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงแรก ขอให้พิจารณายืดระยะเวลาไม่ต้องจ่ายชำระดอกเบี้ยต่อไปอีก  6 เดือนต่อเนื่องหลังจากมาตรการช่วยเหลือที่จะสิ้นสุดลงในเดือนตุลาคม 2563 ส่วนในช่วง 1 ปี 6 เดือนที่เหลือไปจนถึงปี 2565 ขอให้พิจารณาผ่อนปรนให้ผู้ประกอบการสามารถจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยเงินกู้ได้ เพื่อช่วยผ่อนคลายทางด้านการเงินให้กับผู้ประกอบการจะได้มีกระแสเงินสดนำไปใช้ในการประกอบธุรกิจต่อไปได้ และไม่ก่อให้เกิดภาวะหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือเอ็นพีแอลเพิ่มขึ้นในระบบสถานบันการเงิน ซึ่งทางธนาคารก็สามารถปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นเช่นกันไม่ติดปัญหาเอ็นพีแอลที่เพิ่มขึ้น  พร้อมกันนี้ต้องการให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ช่วยค้ำประกันเงินกู้ให้กับผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น วงเงินกู้ที่ ธปท.จัดไว้ที่เหลือ 400,000 ล้านบาท จาก 500,000 ล้านบาท จะได้มีการนำมาใช้


นอกจากนี้ จะต้องมีการแก้กฎหมาย กฎระเบียบต่าง ๆ ที่เป็นอุปสรรคในการประกอบธุรกิจ พร้อมกับควรมีมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค ที่สำคัญภาครัฐจะต้องเป็นผู้ที่ใช้จ่ายเงินออกมาให้มากที่สุด เพราะเป็นหน่วยงานเดียวที่จะช่วยได้ ส่วนมาตรการอื่นที่จะขอจากภาครัฐให้พิจารณาช่วยเหลืออีกนั้น ขณะนี้ทางภาคเอกชนอยู่ระหว่างรวบรวมโดยคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ได้มีการร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประทศไทยหรือสภาผู้ส่งออกด้วย  

สำหรับผลกระทบจากโควิด-19 นั้น ล่าสุดประเมินว่าไม่ต่ำกว่า 2 ล้านล้านบาท เฉพาะการท่องเที่ยวธุรกิจไม่สามารถดำเนินการได้สร้างความเสียหายไปแล้วถึง 1.5 ล้านล้านบาท เพราะภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยแต่ละปีสร้างรายได้แก่ประเทศปีละเกือบ 3 ล้านล้านบาท  ด้านแรงงานภาพรวมขณะนี้เท่าที่ทราบข้อมูลตกงานไปแล้วถึง 3 ล้านคน หากภาครัฐไม่ขยายมาตรการช่วยผู้ประกอบการในช่วงที่เหลือของปีนี้ แรงงานจะตกงานเพิ่มเป็น 7 ล้านคน 

นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) กล่าวว่า  มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ด้วยการยืดระยะเวลาการชำระหนี้จะสิ้นสุด 1-2 เดือนข้างหน้าหรือสิ้นเดือนตุลาคม 2563 แต่ผลกระทบจากโควิด-19 ยังคงมี ลูกหนี้บางส่วนยังไม่สามารถกลับมาทำธุรกิจได้เต็มที่ จึงไม่สามารถที่จะผ่อนชำระหนี้ตามปกติได้ในช่วงเวลานี้ ซึ่งทางเอ็กซิมแบงก์ได้ให้การช่วยเหลือไปก่อนและขณะนี้อยูระหว่างทบทวนมาตรการช่วยเหลือและรวบรวมข้อมูล เพื่อจะนำเสนอให้ที่ประชุมสมาคมธนาคารของรัฐพิจารณาต่อไป ซึ่งเห็นว่ามาตรการช่วยเหลือน่าจะอยู่ในรูปของการขยายมาตรการออกไปอีก 1 ปี   เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถกลับสู่สถานปกติได้ในอนาคตและจะต้องหารือกับกระทรวงการคลัง  ธปท. ว่าในภาวะไม่ปกติเช่นนี้ไม่ควรใช้เกณฑ์ปกติในการพิจารณาลูกหนี้ และอีกเรื่องที่ลูกหนี้กังวลมาก คือ การเสียเครดิตถูกบันทึกเป็นหนี้เสียในเครดิตบูโร.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เร่งซ่อมพนังกั้นน้ำยังขาดให้เสร็จภายในคืนนี้

ร้อยเอ็ด 10 ก.ย. – เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมถนนสายบ้านทรายมูล-โพธิ์ตาก ซึ่งเสมือนพนังกั้นน้ำยัง หลังถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนขาด เมื่อช่วงเช้าวานนี้ โดยต้องปรับแผนนำเสาไฟฟ้ามาวางขวางเป็นแนวบิ๊กแบ็ก เพื่อให้แล้วเสร็จภายในคืนนี้. – สำนักข่าวไทย

ส่องสาเหตุรถชนโครมเดียว เสาไฟฟ้าล้ม 77 ต้น

เชียงใหม่ 10 ก.ย. – อุบัติเหตุรถบรรทุกน้ำดื่มแหกโค้งพุ่งชนเสาไฟฟ้าที่ จ.เชียงใหม่ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สร้างความเสียหายหนัก เสาไฟฟ้าล้มกว่า 70 ต้น บ้านเรือนเสียหาย 20 หลัง สาเหตุเกิดจากอะไร. – สำนักข่าวไทย

“ศุภจี” เปิดใจครั้งแรก จะทุ่มเททำงานระยะสั้นให้เกิดประโยชน์

พรรคภูมิใจไทย 10 ก.ย.-“ศุภจี” เปิดใจครั้งแรก ขอนำประสบการณ์ที่มีทั้งหมด ทุ่มเททำงานระยะสั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขอบคุณเสียงชื่นชม-ความคาดหวัง เป็นกำลังใจทำงาน รับทำไม่ได้ทุกเรื่อง แต่จะเลือกทำสิ่งที่เกิดผลอย่างดีที่สุด นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเปิดใจถึงความมุ่งมั่นที่เข้ามารับตำแหน่งในครั้งนี้ว่า ตนมีความตั้งใจเหมือนนายกฯ พูดไปแล้วว่า ระยะเวลาสั้นๆ นี้ เป็นระยะเวลาที่มีความท้าทาย และมีความสำคัญมาก ประเทศเราต้องเดินไปข้างหน้า ไม่ว่าจะระยะเวลาสั้นแค่ไหน “ดิฉันในฐานะที่มีโอกาสได้ทำงานมาหลากหลาย รวมถึงงานระหว่างประเทศด้วย ตั้งใจจะนำเอาประสบการณ์ ความสามารถที่มีอยู่ทั้งหมด มาทุ่มเทให้ในระยะเวลาสั้นๆ นี้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งมีธงเดียวกับนายกฯ คือ ทำประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศชาติและพี่น้องประชาชนให้ได้อย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ” นางศุภจี กล่าว เมื่อถามว่า สังคมชื่นชมและคาดหวังผลงานต่อจากนี้ นางศุภจี กล่าวว่า ขอบคุณที่ได้รับการชื่นชม และได้รับการคาดหวัง ถือเป็นกำลังใจที่ดีอย่างยิ่ง และจะยิ่งเป็นกำลังใจที่ทำให้ทุกคนไม่ผิดหวัง ดังนั้นก็จะประสานมือกับทีมงานทุกคนภายใต้นโยบายของนายกฯ และนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ ทำเรื่องเศรษฐกิจของประเทศไทยให้กลับมาให้ได้ ภายในระยะเวลาอันสั้น เมื่อถามว่า ถือเป็นการบ้านที่หนักหรือไม่ เพราะเข้ามาในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศเป็นแบบนี้ นางศุภจี กล่าวว่า […]

ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ถอนอาวุธหนัก เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์

กัมพูชา 10 ก.ย.- ไทย-กัมพูชา เดินหน้าคืนสันติภาพชายแดน ผลประชุม GBC สมัยพิเศษ ที่เกาะกง สรุป 5 ประเด็นสำคัญ ตั้งแต่ถอนอาวุธหนัก เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์ ไปจนถึงจัดการพื้นที่พิพาท รมช.กลาโหม ย้ำสองประเทศต้องอยู่ร่วมกันด้วยสันติวิธี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ วันที่ 10 กันยายน 2568 ณ จังหวัดเกาะกง ราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการตามผลการประชุม GBC ที่มาเลเซียที่ผ่านมา เพื่อนำสันติภาพและความสงบสุขกลับมาสู่พื้นที่ชายแดนได้อย่างถาวร พร้อมย้ำถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ในภาพรวม หลังการหยุดยิงดำเนินมากว่า 1 เดือน ว่ามีความสงบมากขึ้น แม้ยังมีข้อกังวลบางประการที่ต้องแก้ไข เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้กลับมาเต็มร้อย โดยผลการประชุมสรุปประเด็นสำคัญได้ดังนี้ 1. การถอนอาวุธหนักและยุทโธปกรณ์ทำลายล้างสูง ออกจากพื้นที่ชายแดนกลับสู่ที่ตั้งปกติ โดยฝ่ายเลขานุการ GBC และ RBC จะหารือกันภายใน 3 […]