ศูนย์วิจัยฯ ม.หอการค้าไทยคาดเศรษฐกิจปี 63 ติดลบ 9.4 %

กรุงเทพฯ 3 ส.ค. – ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 63 จะติดลบ 9.4% จากเดือน เม.ย.63 เคยประเมินว่า จะติดลบ 4.9 ถึงติดลบ 3.4% โควิด-19 สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจไทยสูงสุดเป็นประวัติการณ์ด้วย มูลค่าสูงถึง 2.1 ล้านล้านบาท



นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ แถลง “ประมาณการภาวะเศรษฐกิจไทยในปี 2563” ว่า เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ระลอก 2 ในต่างประเทศและยังไม่มีทีท่าจะดีขึ้นในหลายประเทศ ส่งผลกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาในไทยและการส่งออกของไทยลดลงอย่างมาก จึงปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 63 ใหม่ โดยประเมินว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้ จะติดลบลงลึกมากขึ้นในระดับลบ 9.4% จากเดือน เม.ย.63 เคยประเมินไว้ว่า จะติดลบ 4.9% ถึงติดลบ 3.4% และในกรณีแย่กว่า จะติดลบ 11.4% ส่วนกรณีดีกว่าจะติดลบ 8.4%
ด้านการส่งออกรูปเงินดอลลาร์ ปี 63 คาดว่า กรณีฐาน จะติดลบ 10.2% กรณีแย่กว่าลบ 12.5% ส่วนกรณีดีกว่าลบ 8.4% ด้านจำนวนนักท่องเที่ยวกรณีฐาน ลบ 82.3% กรณีแย่กว่าลบ 83% ส่วนกรณีดีกว่าลบ 81.3% จำนวนนักท่องเที่ยวกรณีมีการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศภายใต้แนวทาง travel Bubble แบบจำกัดขอบเขต คาดว่า จะลดลงเหลือ 6.8 ถึง 7.5 ล้านคน ลดลงจากประมาณการเดือน เม.ย.63 ที่คาดว่า จะมีจำนวนนักท่องเที่ยว 10.7 ถึง 18.2 ล้านคน การคาดการณ์นี้ อยู่บนพื้นฐานคาดการณ์เศรษฐกิจโลกโต ติดลบ 5% จากเดิมคาดว่าเศรษฐกิจโลกปีนี้จะติดลบ 3%
ฉะนั้นภาครัฐจะต้องเร่งช่วยเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการทั้งในส่วนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำและการขับเคลื่อนเงินตาม พรก.เงินกู้ 400,000 ล้านบาท ออกมาช่วยเหลือผู้ประกอบการให้เร็วที่สุด เพราะหากช้าหรือทำได้ไม่ดีพอ จะเห็นภาพการปลดคนงานมากขึ้น โดยจะเริ่มตั้งแต่ ต.ค.63 นี้หลังมาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ สิ้นสุดลง ดังนั้นในช่วงเดือน พ.ย.63 จะเริ่มเห็นการว่างงานมากขึ้น โดยข้อมูลจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือ สสว. ระบุว่า จะเอสเอ็มอี จะมีการทยอยเลิกจ้างงานไปจนถึงสิ้นปีนี้รวม 1.93 ล้านคน และมีโอกาสจะมีการเลิกจ้างมากถึง 2-3 ล้านคนได้ ภายใต้เงื่อนไขว่า ภาคเอกชนไม่ได้ตั้งใจที่จะปลดคนออกจากงาน อย่างไรก็ตาม คาดว่า ไตรมาส 2 ปีหน้า จะมีวัคซีนโควิด-19 ออกมาช่วยให้สถานการณ์ต่าง ๆ ดีขึ้น ช่วยหนุนให้เศรษฐกิจไทยมีโอกาสกลับมาเป็นเติบโตเป็นบวกได้อีกครั้ง โดยคาดว่า ปี 64 มีโอกาสที่เศรษฐกิจไทยจะโตเป็นบวกได้ 4-5%
นายธนวรรธน์ กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยผลกระทบจากโควิด-19 ครั้งนี้นับว่า สร้างความเสียหายมากที่สุดในเศรษฐกิจไทย มากกว่าความเสียหายจากสถานการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ที่เสียหาย 1.4 ล้านล้านบาท โดย ณ วันนี้ 3 ส.ค.63 โควิด-19 สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจไทยแล้ว มูลค่าสูงถึง 2.1 ล้านล้านบาท จากการล็อดาวครั้งแรกมูลค่า 1.5 ล้านล้านบาท
สำหรับข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย ได้แก่ อนุมัติให้มีการจ้างงานแบบรายชั่วโมงเป็นการชั่วคราวเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเลิกจ้างแรงงานในภายหลัง , เพิ่มสิทธิประโยชน์ในรูปแบบต่างๆเพื่อจูงใจให้ภาคธุรกิจจ้างแรงงานที่เคยถูกเลิกจ้าง, พิจารณาขยายมาตรการพักชำระหนี้แบบอัตโนมัติออกไปอีกอย่างน้อย 6 เดือนรวมเป็น 12 เดือน ผ่อนคลายเงื่อนไขข้อจำกัดต่าง ๆเพื่อให้ธุรกิจเอสเอ็มอี เข้าถึงวงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ,กลั่นกรองโครงการที่ขอใช้เงินกู้ เงินงบประมาณปี 64 ควรให้น้ำหนักกับโครงการที่เน้นเพิ่มการจ้างงานในตำแหน่งงานที่ถาวร เพิ่มกำลังซื้อในระบบเช่น มาตรการชิมช้อปใช้ มาตรการช้อปช่วยชาติ เป็นต้น, เพิ่มกำลังซื้อในระบบจากคนที่ยังมีกำลัง ด้วยการออกมาตรการเพื่อกระตุ้นการบริโภคการลงทุนในสินค้าคงทน เช่น ที่อยู่อาศัยและรถยนต์ เป็นต้น
นางสาวอุมากมล สุนทรสุรัติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลง Chamber Business Poll ธุรกิจ SME หลังวิกฤติโควิด-19 ซึ่งทำการสำรวจระหว่างวันที่ 20-24 ก.ค.63 จำนวน 800 ตัวอย่าง ทั่วประเทศ พบว่า 61.7 ได้รับผลกระทบมากถึงมากที่สุด รองลงมา 26.9 % ได้รับผลกระทบปานกลาง และ 11.2 % ได้รับผลกระทบน้อย ส่วน 0.2% ไม่ได้รับผลกระทบ โดยกลุ่มตัวอย่างที่ได้รับผลกระทบมากถึงมากที่สุด พบว่า ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากกว่า 70% ได้แก่ ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร สุขภาพ ความงาม อัญมณีและหัตกรรม ส่วนภาคบริการได้รับผลกระทบในระดับมากถึงมากที่สุด 71.1%
เมื่อถามว่า ธุรกิจเดียวกันมีการปลดคนงาน เลิกจ้างบ้างหรือไม่ พบว่า 86.5 % ระบุว่า ไม่มี แต่ 13.5% บอกว่า มีการปลดคนงาน และเลิกจ้าง และโดยเฉลี่ยระบุว่า ในช่วงต่อไปหากยังไม่มีรายได้เข้ามาหรือเข้ามาน้อยมาก จะสามารถประคองกิจการไปได้อีกเฉลี่ยประมาณ 6 เดือน สูงสุดไม่เกิน 9 เดือน ขณะที่ธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ระบุว่า จะประคองกิจการไปได้เพียง 3 เดือนเท่านั้น
สำหรับแหล่งเงินทุนในการเสริมสภาพคล่องในช่วงได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ระบุว่า ใช้แหล่งเงินในระบบอย่างเดียว 62.7% นอกระบบอย่างเดียว 3.4% ส่วนที่ระบุว่า ใช้ทั้งในระบบและนอกระบบ 33.9% สำหรับทัศนะกรณีได้รับเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำมาช่วยเหลือ ระบุว่า จะสามารถประคองธุรกิจไม่ให้ปิดกิจการได้โดยเฉลี่ย 10 เดือน แต่ถ้าหากไม่มีเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเข้ามาช่วยเหลือ ระยะเวลาประคองธุรกิจไม่ให้ปิดกิจการจะลดเหลือเพียง 6 เดือนเท่านั้น
ส่วนมุมมองผู้ประกอบการ SME เกี่ยวกับเงินกู้ภาครัฐ วงเงิน 400,000 ล้านบาท สำหรับช่วยเหลือในการฟื้นฟูเศรษฐกิจนั้น ส่วนใหญ่ 85.4% ต้องการให้ช่วยเงินอุดหนุน แนวทางการช่วยเหลือ คือ ปลอดหลักทรัพย์ค้ำประกัน 57.7% ปลอดดอกเบี้ย 51.0% ภาครัฐจะต้องเร่งช่วยเหลือด้านการเงิน พร้อมให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.)เข้ามาช่วยเหลือ. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” สีหน้ายิ้มแย้ม เครื่องบินส่วนตัวแลนดิ้งดอนเมือง

ดอนเมือง 8 ก.ย.-เครื่องบินส่วนตัว “ทักษิณ” แลนดิ้งเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ โดย “ทักษิณ” มีใบหน้ายิ้มแย้ม ขณะมาขึ้นรถที่จอดรอหน้าอาคารผู้โดยสาร 8 ก.ย.68 บริเวณทางเข้าออกลานจอดเครื่องบินส่วนบุคคล ท่าอากาศยานดอนเมือง พบสื่อมวลชนเดินทางมาติดตามบรรยากาศเดินทางกลับของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังได้รับแจ้งข้อมูลเรดาร์เครื่องบินส่วนตัวรุ่น Bombardier Global 7500 ออกเดินทางจากสนามบินเซเลตาร์ ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเมื่อเวลาประมาณ 14.54 น. ที่ผ่านมา เครื่องบินส่วนตัวของนายทักษิณ ลงจอดบริเวณสนามบินส่วนตัว ประเทศไทย เรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางบรรยากาศฝนตกหนัก ขณะที่นายทักษิณ เดินออกมาขึ้นรถที่จอดรอหน้าอาคารผู้โดยสาร ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้า ก่อนจะขึ้นรถเบนซ์แล่นออกจากสนามบินไป พร้อมกับรถยนต์และรถตู้อีกคัน ทั้งนี้ มีรายงานว่า เครื่องบินส่วนตัวของนายทักษิณ มีผู้โดยสารเดินทางมา 6 คน โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวของนายทักษิณ ซึ่งเป็นภรรยาของนายสมชาย ร่วมเดินทางมาด้วย พร้อมกับผู้ติดตาม.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน 1” คนการเมืองส่งรายชื่อครบแล้ว

พรรคภูมิใจไทย 8 ก.ย.- โผ ครม. “อนุทิน 1” คนการเมืองส่งรายชื่อครบแล้ว “บวรศักดิ์” นั่งรองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย ด้าน “ไผ่ ลิกค์-สัมพันธ์” หลุดโผ กล้าธรรมดัน “นเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ-อามินทร์” เสียบแทน รอลุ้นตรวจคุณสมบัติ 7-10 วัน หากสะดุดต้องหลีกทางทันที ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้าการจัดโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุทิน 1 ว่า ช่วงบ่ายวันนี้ (8 ก.ย.) ได้รับการตอบรับจากนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่มีชื่อนั่งในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ซึ่งมีรายงานว่า ช่วงบ่ายที่ผ่านมาคุยกันลงตัวแล้ว โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้พูดคุยกับนายบวรศักดิ์ ด้วยตัวเอง สำหรับการจัด ครม.ครั้งนี้ มีการใช้รัฐมนตรีคนนอกถึง 6 กระทรวง คือ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และกระทรวงยุติธรรม […]

“แพทองธาร” บอก “ทักษิณ” กลับแน่ เผยส่งข้อความยินดี “อนุทิน” ตั้งแต่วันแรก

พรรคเพื่อไทย 8 ก.ย.- “แพทองธาร” เข้าพรรคเพื่อไทย บอก “ทักษิณ” กลับแน่ เผยส่งข้อความแสดงความยินดี “อนุทิน” นั่งนายกตั้งแต่วันแรก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เดินทางเข้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดยได้ทักทายสื่อมวลชน ผู้สื่อข่าวจึงถามว่าสบายดีหรือไม่ น.ส.แพทองธาร ยิ้ม ก่อนกล่าวว่า สบายดีค่ะ เมื่อถามว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับประเทศไทยวันนี้ (8 ก.ย.) หรือไม่ น.ส.แพทองธาร ถามกลับว่า วันนี้หรือเดี๋ยวรอดูแล้วกัน แต่ว่ากลับมาแน่นอน เมื่อถามว่า น.ส.แพทองธาร จะไปรอรับด้วยตัวเองหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า คงไม่ได้ไปรับ พอดีวันนี้ติดงานตอนบ่ายจึงไม่ได้ไป เมื่อถามว่า ตอนนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูลนายกรัฐมนตรี ได้เป็นนายกฯ มีอะไรฝากถึงหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ได้ส่งข้อความไปยินดีเรียบร้อยแล้ว ส่งตั้งแต่วันแรกเลย ส่วนวันนี้ที่เดินทางเข้าพรรคเพื่อไทยมีประชุมอะไรหรือไม่ น.ส.แพทองธาร ไม่ได้ตอบคำถาม และขึ้นด้านบนอาคารทันที .-316 […]

จันทรุปราคา

ชาวตรังแห่ชม จันทรุปราคาเต็มดวง ที่หอนาฬิกา ท่ามกลางฝนโปรยปราย

ตรัง 8 ก.ย.- ชาวตรังตื่นตา ชมปรากฏการณ์ จันทรุปราคาเต็มดวง ที่หอนาฬิกา ท่ามกลางฝนโปรยปราย เมื่อคืนที่ผ่านมา ค่ำคืนวันที่ 7 กันยายน 2568 ชาวตรังรวมตัวกันที่ จัตุรัสนครตรัง บริเวณสี่แยกหอนาฬิกาตรัง ถนนวิเศษกุล ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง เพื่อเฝ้าชมปรากฏการณ์ จันทรุปราคาเต็มดวง ที่เกิดขึ้นระหว่างเวลา 00.31 – 01.53 น. บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก แม้มีฝนโปรยปรายลงมาบางช่วง แต่ประชาชนไม่พลาดเก็บภาพความสวยงามของพระจันทร์สีแดงอิฐ พร้อมกันนี้ ตำรวจ สภ.เมืองตรัง ได้จัดกำลังดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนอย่างใกล้ชิด คืนวันที่ 7 กันยายน 2568 ท้องฟ้าเหนือจังหวัดตรัง ปรากฏการณ์ จันทรุปราคาเต็มดวง สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับประชาชนชาวตรัง โดยเฉพาะที่ จัตุรัสนครตรัง บริเวณสี่แยกหอนาฬิกา ถนนวิเศษกุล ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง มีประชาชนออกมาเฝ้าชมและบันทึกภาพพระจันทร์ที่ถูกเงาโลกบังจนกลายเป็นดวงจันทร์สีแดงอิฐ สวยงามกลางท้องฟ้ายามค่ำคืน ช่วงเวลาสำคัญเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 00.31 น. ซึ่งเป็นจังหวะที่พระจันทร์ถูกเงาโลกบังทั้งดวง มองเห็นได้ชัดเจนด้วยตาเปล่า […]