กทม. 16 ส.ค. – คลังดึง 47 หน่วยงานรัฐ ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการฯ กลุ่มเป้าหมาย 13-15 ล้านคน ย้ำต้องลงทะเบียนใหม่ทั้งหมด คาดเริ่มใช้สิทธิผ่านบัตรประชาชน ต้นปี 66
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นสักขีพยานการลงนามร่วมกับ 47 หน่วยงานรัฐ เพื่อเป็นหน่วยงานรับลงทะเบียนและหน่วยงานที่ช่วยในการตรวจสอบคุณสมบัติความเป็นผู้มีรายได้น้อย เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ลงทะเบียนมีคุณสมบัติเป็นผู้มีรายได้น้อยตัวจริง ควรได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐ ตลอดจนเป็นการช่วยให้รัฐบาลใช้งบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพในการจัดสรรสวัสดิการให้แก่ผู้ที่ต้องการได้รับความช่วยเหลืออย่างแท้จริง
กระทรวงการคลังจึงได้ปรับปรุงฐานข้อมูลผู้มีรายได้น้อยให้เป็นปัจจุบัน ล่าสุดมีผู้ใช้บัตร 13.3 ล้านคน ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดสรรสวัสดิการให้แก่ประชาชนที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย และมีการเพิ่มเติมคุณสมบัติในการคัดกรองเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการระบุตัวตนผู้มีรายได้น้อยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันใช้เงินอุดหนุน 4,000 ล้านบาทต่อเดือน กระทรวงการคลัง พร้อมแบงก์รัฐ และหน่วยงานอื่น 37 หน่วยงาน แบ่งเป็นหน่วยงานรับลงทะเบียน เช่น ธนาคารออมสิน ธ.ก.ส. ธนาคารกรุงไทย กรมบัญชีกลาง สำนักงานเขต และหน่วยตรวจสอบคุณสมบัติ เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทย

นายสันติ กล่าวย้ำว่า ผู้มีรายได้น้อยทั้งรายเก่าและรายใหม่ ต้องมาลงทะเบียนใหม่ทั้งหมด กลุ่มเป้าหมาย 13-15 ล้านคน ต้องไม่มีบัตรเครดิต รายได้ต่อปีไม่เกิน 1 แสนบาท หรือหารเฉลี่ยทุกคนในครอบครัวไม่เกิน 1 แสนบาท และเปิดให้ทุกคนที่มีอายุเกิน 18 ปี แยกกันยื่นใช้สิทธิได้ คาดเริ่มใช้สิทธิเพื่อซื้อสินค้าผ่านบัตรประชาชนเท่านั้น ช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน 2566 ส่วนยอดเงินใช้บัตรกำลังพิจารณาหาข้อสรุปอีกครั้ง คาดว่าการใช้จ่ายไม่ต่างจากเดิมประมาณ 4,000 ล้านบาทต่อเดือน
คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมได้กำหนดวันลงทะเบียนโครงการฯ เป็นช่วงระหว่างวันที่ 5 กันยายน – 19 ตุลาคม 2565 โดยประชาชนที่มีคุณสมบัติและต้องการได้รับสวัสดิการภายใต้โครงการฯ ปี 2565 ทุกคนจะต้องลงทะเบียนใหม่ทั้งหมด ผ่านช่องทางการลงทะเบียนทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th และช่องทางการลงทะเบียน ณ หน่วยงานรับลงทะเบียนในพื้นที่ทั่วประเทศ มากกว่า 7,000 แห่ง ประชาชนสามารถดูรายละเอียดการดำเนินโครงการฯ เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th .-สำนักข่าวไทย