กรุงเทพฯ 8 ส.ค.-ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย มร.เจมส์ เลย์สันกรรมการผู้จัดการ มูลนิธิสโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เรื่อง “การสร้างความร่วมมือในการส่งมอบอาหารส่วนเกินที่มีความปลอดภัยจากผู้ประกอบการอาหารสู่ผู้ขาดแคลนอาหาร” ระหว่างสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และมูลนิธิสโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยกล่าวว่สการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมกระบวนการทำงานร่วมกันระหว่างผู้ประกอบการสมาชิกสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยมูลนิธิสโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ และเครือข่ายพันธมิตร ในการบริหารจัดการอาหารส่วนเกินจากภาคธุรกิจอาหารไม่ให้กลายเป็นขยะอาหาร ซึ่งปัจจุบันประเทศไทย มีปริมาณสูงถึง 17 ล้านตัน/ปี หรือคิดเป็น 64% ของขยะในประเทศไทยที่มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ก่อให้เกิดมลพิษและก๊าซเรือนกระจกที่ส่งผลให้เกิดภาวะโลกร้อนที่นับวันจะยิ่งรุนแรงมากขึ้น
ทั้งนี้ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยคณะกรรมการธุรกิจอาหารแปรรูปและอาหารแห่งอนาคต ได้ขับเคลื่อนแนวคิด BCG Model จึงให้ความสำคัญกับแนวทางแก้ไขปัญหาในการบริหารจัดการขยะอาหาร คือ การควบคุมการผลิตและการกำจัดขยะอาหาร และการสร้างแรงจูงใจให้ธุรกิจเอกชนได้บริหารจัดการขยะอาหารของตนให้ดีขึ้น ด้วยการสร้างแนวทางใหม่ผ่านการบริจาคอาหารส่วนเกินที่มีความปลอดภัยในการบริโภคเพื่อส่งต่อให้กับผู้ขาดแคลนอาหารในประเทศไทย ซึ่งส่วนใหญ่ยังเป็นผู้เปราะบางในสังคมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ไปพร้อมกับการเผยแพร่องค์ความรู้ด้านการจัดการอาหารอย่างยั่งยืนให้กับผู้ประกอบการอาหารในภูมิภาคต่างๆ เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการป้องกันการเกิดขยะอาหารตลอดห่วงโซ่อุปทาน
ดร.วิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการธุรกิจอาหารแปรรูปและอาหารแห่งอนาคต ได้นำเสนอ แนวทางการบริหารจัดการอาหารส่วนเกินที่มีความปลอดภัยสู่ผู้ขาดแคลนอาหาร ร่วมกับคุณธนาภรณ์ อ้อยอิสรานุกุล ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ มูลนิธิสโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ โดยเน้นย้ำความสำคัญของการมีระบบจัดการอาหารที่ดี ผ่านการสร้างความเข้าใจ และเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการบริโภคอาหาร และการเก็บอาหาร การนำอาหารมาใช้อย่างคุ้มค่า และเมื่ออาหารเหลือเป็นขยะต้องมีกระบวนการจัดการที่ดี มองหาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สร้างจิตสำนึกให้ทุกคนร่วมมือกันเปลี่ยนพฤติกรรมตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้ใหญ่ได้มีส่วนร่วมกันรับผิดชอบในเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม การลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้าง ความมั่นคงทางอาหารให้แก่ประเทศไทย ไปพร้อมกับการพัฒนาระบบการจัดการอาหารอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ BCG Model โดยหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ขอเชิญชวนและประชาสัมพันธ์สมาชิกประกอบกิจการทั่วประเทศ หากประสงค์จะร่วมส่งมอบอาหารส่วนเกินที่มีความปลอดภัยจากผู้ประกอบการอาหารสู่ผู้ขาดแคลนอาหาร สามารถติดต่อฝ่ายส่งเสริมธุรกิจเกษตรและอาหาร หอการค้าไทย หรือมูลนิธิสโกลารส์ออฟ ซัสทีแนนซ์ รายละเอียดเพิ่มเติมเว็บไซต์ : https://th.scholarsofsustenance.org/sos-thailand ได้.-สำนักข่าวไทย