กรมเจ้าท่าครบรอบ 163 ปี มุ่งสู่ “MD NEXT 2023” 

กรุงเทพฯ 5 ส.ค.-กรมเจ้าท่าจัดกิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากรมเจ้าท่า ครบรอบ 163 ปี เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงวางรากฐานการคมนาคมทางน้ำที่มั่นคง โดยมีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นประธานในพิธีและร่วมแสดงความยินดี มอบทุนการศึกษามอบโล่ยกย่องเชิดชูเกียรติคุณรางวัลคนต้นแบบ พร้อมเปิดศูนย์ปฏิบัติการควบคุมความปลอดภัยและการจราจรทางน้ำ กรมเจ้าท่า ในวันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม 2565 ณ กรมเจ้าท่า ถนนโยธา แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ


กรมเจ้าท่า ถือกำเนิดมาตั้งแต่สมัยพระนารายณ์มหาราช ตามประวัติศาสตร์ การค้าขายทางเรือกับชาวต่างชาติปรากฏว่าเจริญรุ่งเรืองกว่าสมัยใด ๆ ครั้นสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้มีการตราพระราชบัญญัติ “กฎหมายท้องน้ำ” และทำสัญญาจ้างกัปตัน จอห์น บุช ชาวอังกฤษเป็นผู้ริเริ่มงานฝ่ายเจ้าท่า ในฐานะเจ้ากรม เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2402 กรมเจ้าท่าจึงถือเอาวันที่ 5 สิงหาคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสถาปนากรมเจ้าท่า

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานในพิธี กล่าวว่า กรมเจ้าท่า ถือเป็นหน่วยงานราชการที่ก่อตั้งมายาวนานที่สุดในกระทรวงคมนาคม จวบจนปัจจุบันนี้ มีอายุถึง 163 ปี ภารกิจของกรมเจ้าท่าครอบคลุมงานหลายด้าน อาทิ การพัฒนาศักยภาพในการขนส่งทางน้ำ พัฒนามาตรการความปลอดภัยของการขนส่งทางน้ำและการพาณิชยนาวี การพัฒนาและบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐานทางน้ำ และการผลิตบุคลากรด้านพาณิชยนาวีให้มีคุณภาพ รวมทั้งการดูแล รักษาสิ่งแวดล้อมทางน้ำ ทั้งแม่น้ำ คูคลอง และชายฝั่งทะเล ด้วยภารกิจดังกล่าวกรมเจ้าท่าได้มุ่งมั่น พัฒนาและยกระดับการบริการที่ดี ตอบสนองความต้องการของประชาชนและประเทศชาติมาโดยตลอด ด้วยภารกิจที่หลากหลาย และยิ่งใหญ่ กลไกสำคัญที่จะทำให้หน่วยงานขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างราบรื่น เข้มแข็ง ก็คือ ผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าทุกคน ที่ต้องมีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมทุ่มเทกำลังกายและกำลังความสามารถในการผลักดันกระบวนการภารกิจต่างๆ ให้สัมฤทธิ์ผล เพื่อพัฒนาและสร้างความเข้มแข็งให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศ ก้าวสู่ปีต่อไปอย่างมั่นคง 


และจากภาพที่ปรากฏต่อหน้า กรมเจ้าท่า ในยุคปัจจุบันได้ปรับปรุง พัฒนา ทั้งด้านการบริหารงาน สถานที่ และบุคลากร ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์เป็นองค์กร ที่ตื่นตัวในการพัฒนาด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง นับเป็นหน่วยงานที่เป็นตัวอย่างที่ดีในการนำองค์กรสู่ความสำเร็จในอนาคต และขอขอบคุณผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ที่ร่วมกันทุ่มเทแรงกาย แรงใจอย่างเต็มกำลังความสามารถในการปฏิบัติงาน เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนากรมเจ้าท่าสร้างประโยชน์ให้กับสังคมและประเทศชาติต่อไป

นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า นับจากอดีตจนถึงปัจจุบัน กรมเจ้าท่า ได้ปรับปรุงและพัฒนาหน่วยงานมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการปรับบทบาทการบริหารงานให้เป็นเชิงรุกมากขึ้น พร้อมมุ่งยกระดับการให้บริการที่ดีตอบสนองความต้องการของประชาชนและประเทศชาติ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชาติให้ได้รับความสะดวก ทั่วถึง และปลอดภัย รวมถึงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรของกรมเจ้าท่า ให้มีความรู้ ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ปัจจุบัน และมีความพร้อมในการให้บริการประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ ในปี พ.ศ. 2565 – 2566 กรมเจ้าท่า ได้พัฒนาปรับปรุงการปฏิบัติภารกิจ ให้มุ่งสู่ “ MD NEXT 2023 ” ผ่านการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อให้การพัฒนาการคมนาคมขนส่งทางน้ำ ไม่เป็นเพียงการส่งเสริมการเดินทางและการขนส่งสินค้าทางน้ำแต่ยังช่วยสนับสนุนในมิติด้านสิ่งแวดล้อม การป้องกันภัยแล้งและอุทกภัย การส่งเสริมการท่องเที่ยว การเพิ่มรายได้และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวก ทั่วถึงและปลอดภัย

หลังจากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิด ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมความปลอดภัยและการจราจรทางน้ำ กรมเจ้าท่า โดยมีผู้บริหารสังกัดกระทรวงคมนาคมและหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมร่วมพิธีฯ พร้อมเยี่ยมชมศูนย์ปฏิบัติการควบคุมความปลอดภัยและการจราจรทางน้ำ กรมเจ้าท่า


ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมความปลอดภัย และการจราจรทางน้ำ กรมเจ้าท่า จัดตั้งขึ้นภายใต้โครงการระบบตรวจการณ์ชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่างและอันดามัน (VTS 3 ) โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณกลางจากรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยศูนย์ฯ แห่งนี้ทำหน้าที่เป็นศูนย์อำนวยการบูรณาการข้อมูลสารสนเทศ ด้านการขนส่งทางน้ำของประเทศไทยอย่างเต็มระบบ เพื่อยกระดับมาตรฐานการรักษาความปลอดภัย การตรวจตรา ดูแล และติดตามเส้นทางการเดินเรือ ทั้งในและต่างประเทศการป้องกันการกระทำผิดกฎหมายในทะเล และเป็นศูนย์กลางในการประสานระบบสื่อสารทางทะเล 

พร้อมบูรณาการข้อมูลสารสนเทศเพื่อประโยชน์ของชาติ ด้านขนส่งทางน้ำของประเทศไทย และช่วยในการสนับสนุนของศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หรือ ศรชล เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติทางทะเลได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงเพิ่มศักยภาพเส้นทางการขนส่งสินค้าทางเรือ เชื่อมโยงเศรษฐกิจของประเทศไทย และสนับสนุนการพัฒนาประเทศ และสอดคล้องตามอนุสัญญาความตกลงระหว่างประเทศที่ประเทศไทยให้สัตยาบันเป็นภาคีในอนุสัญญาต่าง ๆ กับองค์การทางทะเลระหว่างประเทศ หรือ IMO

นายศักดิ์สยามกล่าวอีกว่า ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม ได้กำหนดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย ปี 2561 – 2580 ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขันพัฒนามุ่งเน้นการยกระดับศักยภาพของประเทศในหลากหลายมิติ และสร้างความเชื่อมั่นในฐานะประเทศไทยเป็นสมาชิกถาวรในเวทีองค์การทางทะเลระหว่างประเทศ หรือ IMO

ความสำเร็จโครงการระบบตรวจการณ์ชายฝั่ง (VTS 3) และการจัดสร้างศูนย์ปฏิบัติการควบคุมความปลอดภัยและการจราจรทางน้ำของกรมเจ้าท่าในครั้งนี้ จะเป็นสัญญาณในการสร้างความมั่นใจให้กับอุตสาหกรรมการเดินเรือ และการขนส่งสินค้าทางน้ำของประเทศไทย ในด้านการอำนวยความสะดวก และความปลอดภัยอย่างเต็มระบบ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสร้างโอกาสในการแข่งขันของประเทศ โดยเฉพาะในปีหน้า ประเทศไทย จะต้องรับการตรวจการปฏิบัติตามพันธกรณีที่ประเทศไทยให้สัตยาบันไว้จากองค์กรทางทะเลระหว่างประเทศ ซึ่งศูนย์ปฏิบัติการฯ ที่มีความพร้อมในระบบต่าง ๆ เหล่านี้จะแสดงผู้ตรวจสอบ ได้เห็นว่าประเทศไทยได้นำระบบมาใช้ในการกำกับ ติดตาม ตรวจสอบ การปฏิบัติ ของเรือ ท่าเรือ และการตรวจสอบมาตรฐานคนประจำเรือ อย่างต่อเนื่อง ตามมาตรฐานขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ 

และในโอกาสที่ประเทศไทยกำลังเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก จึงควรมีความพร้อมของระบบและมาตรฐานด้านความปลอดภัยทางน้ำ เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุให้กับนักท่องเที่ยว ระบบตรวจการณ์ชายฝั่ง และศูนย์ปฏิบัติควบคุมความปลอดภัยในการจราจรทางน้ำ ของกรมเจ้าท่า แห่งนี้ จะเป็นศูนย์ปฏิบัติการที่จะสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย ทางน้ำให้กับพี่น้องประชาชน และนักท่องเที่ยวพร้อมสร้างความอุ่นใจในการแจ้งเตือนภัย และเป็นศูนย์อำนวยการในการบริการ กำกับ ติดตาม ด้านความปลอดภัยในการคมนาคมขนส่งทางน้ำของประเทศอย่างยั่งยืน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

ลอบวางระเบิด 2 จุด กลางตลาดโต้รุ่งเมืองปัตตานี

ปัตตานี 8 มิ.ย. – คนร้ายลอบวางระเบิดกลางตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี รถจักรยานยนต์เสียหาย 2 คัน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต วันที่ 8 มิ.ย.68 เวลา 20.00 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มจำนวน ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ลูก โดยจุดแรก วางระเบิดในถังขยะ หน้าร้านทอง บริเวณตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน และจุดที่ 2 วางระเบิดในถังขยะ บริเวณในซอยข้างโรงแรม หลังตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต การก่อเหตุครั้งนี้ คาดว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลข่าวสารที่หน่วย ส.จว.ปัตตานี ได้ออกข่าวแจ้งเตือนไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 พ.ค.68 เวลา 15.00 น. ปรากฏข่าวสารว่า นายมะกอเซ็ง หม้าแอ สมาชิก ผกร.ระดับปฏิบัติการ และสมาชิกจำนวน […]

นายกฯ เผยหารือกัมพูชา ตกลงปรับกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ลดเผชิญหน้า

ทำเนียบรัฐบาล 8 มิ.ย. – นายกฯ เผยหารือกับรัฐบาลกัมพูชา ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดการเผชิญหน้า เดินหน้าใช้กลไก JBC 14 มิ.ย.นี้ นำพาความสัมพันธ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน โดยการปฏิบัติงานของทั้งระดับนโยบาย โดยรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับค่ะ ดิฉันได้หารือกับรัฐบาลกัมพูชา มีข้อสรุปที่ส่งผลดีต่อสถานการณ์ โดยทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร ณ จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดบรรยากาศการเผชิญหน้า และจะพัฒนาความร่วมมือโดยใช้กลไก JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ และจะมีการพูดคุยกันในทุกระดับ เพื่อนำพาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วค่ะ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงจากรัฐบาล พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจนประสบผลสำเร็จต่อไป สุดท้ายนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้โปรดคลายความกังวล และมีความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลว่า จะไม่มีเหตุกระทบกระทั่งที่รุนแรงเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ.-316-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งกองกำลังสุรนารี ปรับเวลาเปิด-ปิด จุดผ่านแดนกัมพูชา 

8 มิ.ย.- เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แม่ทัพภาค 2 ลงนามคำสั่งให้อำนาจผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พิจารณาปรับเวลาเปิด-ปิด ด่านถาวรและจุดผ่อนปรนการค้า 4 ด่าน มีผลทันทีเมื่อคืนนี้ กองทัพภาคที่ 2 ออกหนังสือคำสั่ง การควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ตามคำสั่งกองทัพบก เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังกำลังสุรนารีมีอำนาจการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี วิธีการและเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลา ที่จำเป็นเหมาะสม ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ดังนี้