กรมเจ้าท่าครบรอบ 163 ปี มุ่งสู่ “MD NEXT 2023” 

กรุงเทพฯ 5 ส.ค.-กรมเจ้าท่าจัดกิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากรมเจ้าท่า ครบรอบ 163 ปี เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงวางรากฐานการคมนาคมทางน้ำที่มั่นคง โดยมีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นประธานในพิธีและร่วมแสดงความยินดี มอบทุนการศึกษามอบโล่ยกย่องเชิดชูเกียรติคุณรางวัลคนต้นแบบ พร้อมเปิดศูนย์ปฏิบัติการควบคุมความปลอดภัยและการจราจรทางน้ำ กรมเจ้าท่า ในวันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม 2565 ณ กรมเจ้าท่า ถนนโยธา แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ


กรมเจ้าท่า ถือกำเนิดมาตั้งแต่สมัยพระนารายณ์มหาราช ตามประวัติศาสตร์ การค้าขายทางเรือกับชาวต่างชาติปรากฏว่าเจริญรุ่งเรืองกว่าสมัยใด ๆ ครั้นสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้มีการตราพระราชบัญญัติ “กฎหมายท้องน้ำ” และทำสัญญาจ้างกัปตัน จอห์น บุช ชาวอังกฤษเป็นผู้ริเริ่มงานฝ่ายเจ้าท่า ในฐานะเจ้ากรม เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2402 กรมเจ้าท่าจึงถือเอาวันที่ 5 สิงหาคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสถาปนากรมเจ้าท่า

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานในพิธี กล่าวว่า กรมเจ้าท่า ถือเป็นหน่วยงานราชการที่ก่อตั้งมายาวนานที่สุดในกระทรวงคมนาคม จวบจนปัจจุบันนี้ มีอายุถึง 163 ปี ภารกิจของกรมเจ้าท่าครอบคลุมงานหลายด้าน อาทิ การพัฒนาศักยภาพในการขนส่งทางน้ำ พัฒนามาตรการความปลอดภัยของการขนส่งทางน้ำและการพาณิชยนาวี การพัฒนาและบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐานทางน้ำ และการผลิตบุคลากรด้านพาณิชยนาวีให้มีคุณภาพ รวมทั้งการดูแล รักษาสิ่งแวดล้อมทางน้ำ ทั้งแม่น้ำ คูคลอง และชายฝั่งทะเล ด้วยภารกิจดังกล่าวกรมเจ้าท่าได้มุ่งมั่น พัฒนาและยกระดับการบริการที่ดี ตอบสนองความต้องการของประชาชนและประเทศชาติมาโดยตลอด ด้วยภารกิจที่หลากหลาย และยิ่งใหญ่ กลไกสำคัญที่จะทำให้หน่วยงานขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างราบรื่น เข้มแข็ง ก็คือ ผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าทุกคน ที่ต้องมีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมทุ่มเทกำลังกายและกำลังความสามารถในการผลักดันกระบวนการภารกิจต่างๆ ให้สัมฤทธิ์ผล เพื่อพัฒนาและสร้างความเข้มแข็งให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศ ก้าวสู่ปีต่อไปอย่างมั่นคง 


และจากภาพที่ปรากฏต่อหน้า กรมเจ้าท่า ในยุคปัจจุบันได้ปรับปรุง พัฒนา ทั้งด้านการบริหารงาน สถานที่ และบุคลากร ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์เป็นองค์กร ที่ตื่นตัวในการพัฒนาด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง นับเป็นหน่วยงานที่เป็นตัวอย่างที่ดีในการนำองค์กรสู่ความสำเร็จในอนาคต และขอขอบคุณผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ที่ร่วมกันทุ่มเทแรงกาย แรงใจอย่างเต็มกำลังความสามารถในการปฏิบัติงาน เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนากรมเจ้าท่าสร้างประโยชน์ให้กับสังคมและประเทศชาติต่อไป

นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า นับจากอดีตจนถึงปัจจุบัน กรมเจ้าท่า ได้ปรับปรุงและพัฒนาหน่วยงานมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการปรับบทบาทการบริหารงานให้เป็นเชิงรุกมากขึ้น พร้อมมุ่งยกระดับการให้บริการที่ดีตอบสนองความต้องการของประชาชนและประเทศชาติ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชาติให้ได้รับความสะดวก ทั่วถึง และปลอดภัย รวมถึงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรของกรมเจ้าท่า ให้มีความรู้ ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ปัจจุบัน และมีความพร้อมในการให้บริการประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ ในปี พ.ศ. 2565 – 2566 กรมเจ้าท่า ได้พัฒนาปรับปรุงการปฏิบัติภารกิจ ให้มุ่งสู่ “ MD NEXT 2023 ” ผ่านการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อให้การพัฒนาการคมนาคมขนส่งทางน้ำ ไม่เป็นเพียงการส่งเสริมการเดินทางและการขนส่งสินค้าทางน้ำแต่ยังช่วยสนับสนุนในมิติด้านสิ่งแวดล้อม การป้องกันภัยแล้งและอุทกภัย การส่งเสริมการท่องเที่ยว การเพิ่มรายได้และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวก ทั่วถึงและปลอดภัย

หลังจากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิด ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมความปลอดภัยและการจราจรทางน้ำ กรมเจ้าท่า โดยมีผู้บริหารสังกัดกระทรวงคมนาคมและหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมร่วมพิธีฯ พร้อมเยี่ยมชมศูนย์ปฏิบัติการควบคุมความปลอดภัยและการจราจรทางน้ำ กรมเจ้าท่า


ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมความปลอดภัย และการจราจรทางน้ำ กรมเจ้าท่า จัดตั้งขึ้นภายใต้โครงการระบบตรวจการณ์ชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่างและอันดามัน (VTS 3 ) โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณกลางจากรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยศูนย์ฯ แห่งนี้ทำหน้าที่เป็นศูนย์อำนวยการบูรณาการข้อมูลสารสนเทศ ด้านการขนส่งทางน้ำของประเทศไทยอย่างเต็มระบบ เพื่อยกระดับมาตรฐานการรักษาความปลอดภัย การตรวจตรา ดูแล และติดตามเส้นทางการเดินเรือ ทั้งในและต่างประเทศการป้องกันการกระทำผิดกฎหมายในทะเล และเป็นศูนย์กลางในการประสานระบบสื่อสารทางทะเล 

พร้อมบูรณาการข้อมูลสารสนเทศเพื่อประโยชน์ของชาติ ด้านขนส่งทางน้ำของประเทศไทย และช่วยในการสนับสนุนของศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หรือ ศรชล เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติทางทะเลได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงเพิ่มศักยภาพเส้นทางการขนส่งสินค้าทางเรือ เชื่อมโยงเศรษฐกิจของประเทศไทย และสนับสนุนการพัฒนาประเทศ และสอดคล้องตามอนุสัญญาความตกลงระหว่างประเทศที่ประเทศไทยให้สัตยาบันเป็นภาคีในอนุสัญญาต่าง ๆ กับองค์การทางทะเลระหว่างประเทศ หรือ IMO

นายศักดิ์สยามกล่าวอีกว่า ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม ได้กำหนดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย ปี 2561 – 2580 ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขันพัฒนามุ่งเน้นการยกระดับศักยภาพของประเทศในหลากหลายมิติ และสร้างความเชื่อมั่นในฐานะประเทศไทยเป็นสมาชิกถาวรในเวทีองค์การทางทะเลระหว่างประเทศ หรือ IMO

ความสำเร็จโครงการระบบตรวจการณ์ชายฝั่ง (VTS 3) และการจัดสร้างศูนย์ปฏิบัติการควบคุมความปลอดภัยและการจราจรทางน้ำของกรมเจ้าท่าในครั้งนี้ จะเป็นสัญญาณในการสร้างความมั่นใจให้กับอุตสาหกรรมการเดินเรือ และการขนส่งสินค้าทางน้ำของประเทศไทย ในด้านการอำนวยความสะดวก และความปลอดภัยอย่างเต็มระบบ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสร้างโอกาสในการแข่งขันของประเทศ โดยเฉพาะในปีหน้า ประเทศไทย จะต้องรับการตรวจการปฏิบัติตามพันธกรณีที่ประเทศไทยให้สัตยาบันไว้จากองค์กรทางทะเลระหว่างประเทศ ซึ่งศูนย์ปฏิบัติการฯ ที่มีความพร้อมในระบบต่าง ๆ เหล่านี้จะแสดงผู้ตรวจสอบ ได้เห็นว่าประเทศไทยได้นำระบบมาใช้ในการกำกับ ติดตาม ตรวจสอบ การปฏิบัติ ของเรือ ท่าเรือ และการตรวจสอบมาตรฐานคนประจำเรือ อย่างต่อเนื่อง ตามมาตรฐานขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ 

และในโอกาสที่ประเทศไทยกำลังเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก จึงควรมีความพร้อมของระบบและมาตรฐานด้านความปลอดภัยทางน้ำ เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุให้กับนักท่องเที่ยว ระบบตรวจการณ์ชายฝั่ง และศูนย์ปฏิบัติควบคุมความปลอดภัยในการจราจรทางน้ำ ของกรมเจ้าท่า แห่งนี้ จะเป็นศูนย์ปฏิบัติการที่จะสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย ทางน้ำให้กับพี่น้องประชาชน และนักท่องเที่ยวพร้อมสร้างความอุ่นใจในการแจ้งเตือนภัย และเป็นศูนย์อำนวยการในการบริการ กำกับ ติดตาม ด้านความปลอดภัยในการคมนาคมขนส่งทางน้ำของประเทศอย่างยั่งยืน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

กทม. 13 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะภาคเหนือ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 6 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทยและคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 12-13 กรกฎาคม 2568) ในวันที่ 13 กรกฎาคม 2568 ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งโดยเฉพาะภาคเหนือบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก มีดังนี้ ในวันที่ 13 กรกฎาคม […]

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ หลังเมียนมาปะทะรุนแรง

ตาก 12 ก.ค. – ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด่วน พร้อมเฝ้าระวังชายแดนอำเภอพบพระอย่างใกล้ชิด หลังเหตุปะทะในเมียนมาทวีความรุนแรง มีรายงานการโจมตีค่ายทหารเมียนมาด้วยโดรน กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีใส่ฐาน “ทีตาแหล่” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลายครั้ง ขณะที่ทหารเมียนมาก็ยิงปืนเล็กยาวตอบโต้ โดยยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น และยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมคณะนายทหารระดับสูง และฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณบ้านวาเล่ย์ และบ้านมอเกอร์ไทย อำเภอพบพระ อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในการเตรียมแผนเผชิญเหตุจากผลกระทบของการสู้รบใกล้แนวชายแดนในด้านมนุษยธรรม โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาจำนวน 457 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง ในอำเภอพบพระ และได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ความร่วมมือของศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก และแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลตรี ไมตรี เน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกองกำลังนเรศวรยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของตนเอง .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กทม. 12 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเอี่ยวสีกากอล์ฟ เชื่อพระเป็นเหยื่อ หากไม่เสร็จพร้อมดำเนินการ เผยอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เข้าให้ข้อมูล เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันนี้ (12 ก.ค.) หลังจากอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เมื่อเวลา 12.30 น. แต่งกายด้วยชุดโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าเข้ามาให้ปากคำกรณีที่ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสไม่ตอบ เมื่อถามเพิ่มเติมว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน จากนั้นในเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเดินทางขึ้นตึกด้านหลัง ใช้ลิฟต์ลานจอดรถ หลังเดินทางกลับจากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยหลบผู้สื่อข่าวที่มารออยู่ด้านหน้า และได้สอบปากคำอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ในเวลา 16.20 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์ว่าการหารือกับพระผู้ใหญ่ในวันนี้ ก็ถือเป็นการทำงานร่วมกันกับ ปปท. ซึ่งมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ […]