สินค้าบางรายการขึ้นราคา 1 ส.ค. แนะผู้บริโภคซื้อที่ยังไม่ปรับขึ้นทดแทน

กรุงเทพฯ 31 ก.ค.-พ่อค้าแม่ค้าตลาดสด แจ้งมีหลายรายการสินค้าขยับขึ้นราคาจากผลกระทบค่าขนส่ง มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.นี้ ขณะที่รองอธิบดีกรมการค้าภายใน รับแม้สินค้าบางรายการขึ้นราคา แต่สินค้าชนิดเดียวกันยังไม่ปรับขึ้น แนะผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าอื่นที่ไม่ได้ขึ้นราคา

ผู้สื่อข่าวรายงานจากตลาดสดห้วยขวาง เพื่อติดตามสำรวจราคาสินค้าอุปโภคและบริโภค แม่ค้ายอมรับสินค้าส่วนใหญ่ในหลายรายการ น้ำตาลทรายบางยี่ห้อ ผลไม้กระป๋อง และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำปลาบางยี่ห้อ ขอปรับขึ้นราคาจริง บางรายการจะขยับขึ้นราคาแน่นอนตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมนี้


ทั้งนี้ สินค้าที่คาดว่าจะปรับขึ้นราคาตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป จากการบอกเล่าของแม่ค้าในตลาดสดห้วยขวาง เช่น น้ำตาลทรายยี่ห้อหนึ่ง 1 บาท/ถุง 1 กก. น้ำตาลปี๊บ 1 บาท/ถุง 500 กรัม ผงชูรส บางยี่ห้อ 10 บาท/ถุง (1 กก.) ผงปรุงรสยังไม่ขึ้นราคาแต่ลดปริมาณ ผู้ผลิตและจำหน่ายผลไม้กระป๋องบางยี่ห้อขึ้นอีก 12% หรือ 11 บาท/กระป๋อง เป็นการขึ้นจากปัญหาต้นทุนค่าขนส่งเป็นส่วนใหญ่ แม้ขณะนี้ต้นทุนการผลิตจะสูงขึ้น แต่ผู้ผลิตปรับบริหารจัดการ สตอกผลิตสินค้า ทำให้ต้นทุนช่วงนี้ยังพอแบกรับภาระได้ หากต้นทุนผลิตยังสูงต่อเนื่องจาก จำเป็นต้องปรับเพิ่มราคาสินค้าอีกได้

นอกจากนี้ สินค้าที่ขึ้นลงตามฤดูกาล แต่ราคาแพงขึ้น พริกแห้งขึ้น 5 บาท/กก. ราคาอยู่ที่ 170-230 บาท/กก. ขึ้นอยู่แต่ละชนิด หอมแดงเล็กขึ้น 5 บาท จาก 95 บาท เป็น 100 บาท/กก. พริกขี้หนูสวนราคายังคงสูงต่อเนื่องอยู่ที่ 220-300 บาท/กก. ขึ้นอยู่กับแหล่งที่เก็บและการขนส่ง พริกกะเหรี่ยงขึ้น 50 บาท จาก 150 บาท เป็น 200 บาท/กก. ผักชีขึ้น 20 บาท จาก 160 บาท เป็น 180 บาท/กก. หรือประเภทผักสดชนิดต่างๆ ที่อาจมีราคาแพงขึ้นบ้าง เหตุจากอากาศร้อนจัด ผักออกช้า ปริมาณออกมาน้อย ภาครัฐผ่อนคลายมาตรการการแพร่ระบาดโควิด คนท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาวต่อเนื่อง เชื่อช่วงฤดูฝนทำให้ปริมาณผลผลิตผักสดชนิดต่างๆ มีมากขึ้น ราคาผักสดมีราคาลดลงตามลำดับได้ ส่วนกลุ่มสินค้าน้ำมันพืชราคาลดลงอยู่ที่ 60 บาท/ขวด น้ำมันพืชถั่วเหลืองที่ 67 บาท เดิม 70-80 บาทขวด


นอกจากนี้ ปัญหาต้นทุนค่าขนส่งที่สูงมาต่อเนื่อง แม้ภาครัฐจะตรึงราคาน้ำมันทั้งดีเซลและกลุ่มเบนซินก็ตาม แต่ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปบางยี่ห้อพยายามแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นมาหลายเดือน แม้ราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปราคาต่อซองยังขายอยู่ที่ซองละ 6 บาท แต่ผู้ผลิตปรับขึ้นสินค้ากลุ่มนี้ไปยังกลุ่มผู้ค้าส่งปลีกหลายรอบ ล่าสุดผู้ผลิตแจ้งราคาขายส่งใหม่เป็น 155 บาทต่อกล่อง (30 ซอง) จากเดิมราคาขายส่ง 145 บาทต่อกล่อง (30 ซอง) ส่วนราคาขายปลีกใหม่ปรับขึ้นเป็นซองละ 7 บาท จากเดิมราคาซองละ 6 บาท โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม กรณีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจะปรับขึ้นราคาขายปลีกเป็นซองละ 7 บาท โดยช่วงก่อนหน้านี้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หรือแม้แต่ผู้บริหารกรมการค้าภายในออกมาปฏิเสธและตอกย้ำว่าจะไม่มีการให้ปรับราคาสินค้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจากซองละ 6 บาทเป็นซองละ 7 บาทอย่างแน่นอน ขอให้ผู้ผลิตตรึงสินค้ากลุ่มนี้ไปให้นานที่สุด

นายจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่าแม้หลายสินค้าจะออกมาประกาศปรับราคาขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.นี้เป็นต้นไป ถือว่าเป็นการคาดเดากันไป ยอมรับแม้มีบางรายการสินค้า เช่น ผลไม้กระป๋อง ผงชูรส น้ำปลาบางยี่ห้อปรับขึ้นจากผลกระทบค่าขนส่งไปบ้าง และเพื่อรักษาส่วนแบ่งทางการตลาด แต่สินค้าเหล่านี้มีสินค้าเดียวกันทดแทนได้ ดังนั้น ผู้บริโภคมีทางเลือกให้ไปซื้อสินค้าชนิดเดียวกันแทนและปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด หรือแม้แต่สินค้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป “มาม่า” ที่มีข่าวจะขึ้นต่อซองเป็น 7 บาท เริ่มวันพรุ่งนี้ สอบถามผู้ผลิตมาม่าแล้ว ยังไม่มีการปรับขึ้นและกรมการค้าภายในยังไม่มีการอนุมัติให้ขึ้นสินค้ากลุ่มนี้แต่อย่างใด


ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ติดตามราคาสินค้าทุกรายการอย่างใกล้ชิด สินค้าประเภทตามฤดูกาลถือว่าปรับขึ้นและลดลงตามฤดูกาลอยู่แล้ว ส่วนสินค้าชนิดใดที่ขึ้นจากผลกระทบค่าขนส่งและอื่นๆ เวลานี้ โดยเฉพาะสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพใน 18 กลุ่มสินค้า กรมฯ ยังไม่ได้อนุมัติให้ปรับขึ้นและขอให้ผู้ผลิตตรึงสินค้าให้นานที่สุด ขณะที่บางรายการสินค้าไม่ได้อยู่ในหมวดสินค้าจำเป็นต่อการครองชีพและมีการขึ้นราคาบ้างเชื่อ ผู้บริโภคเลือกซื้อสินค้าที่ไม่ได้ขึ้นราคามาบริโภคทดแทนได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์แนวทางดำเนินคดีกัมพูชา

10 ส.ค. – ฟังการวิเคราะห์ปมดำเนินคดีกัมพูชา กับ รศ.ดร. ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์ประจำสาขาวิชาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากหลักฐานที่มีชัดเจน กระสุนกัมพูชายิงตกฝั่งไทย เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินพลเรือน และมีกระสุนที่ต้องเก็บกู้มากกว่า 800 นัด ขณะที่หลังการเจรจา GBC ผ่านไป พบกัมพูชายังเสริมกำลังทหารต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย

ชาวบ้านศรีสะเกษสุดช้ำ บ้านเรือนถูกกัมพูชายิงถล่มเหลือแต่ซาก

ศรีสะเกษ 10 ส.ค. – ชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กลับจากศูนย์อพยพเจอสภาพบ้านเหลือแต่ซาก หลังถูกลูกปืนใหญ่กัมพูชายิงถล่ม ขณะที่พบหัวจรวด BM-21 กลางทุ่งนา อีก 2 จุด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายเรียบร้อย ปลัดอำเภอน้ำยืน เน้นย้ำหากชาวบ้านพบหลุมลึก-ปากหลุมแคบ ให้รีบแจ้งทันที ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นนาทีกระสุนโจมตีของกัมพูชายิงตกใส่บ้านเรือนประชาชนอย่างรุนแรงจนฝุ่นฟุ้งกระจาย จากภาพจะเห็นว่ามีรถอีแต๋นคันหนึ่งวิ่งผ่านจุดที่กระสุนพุ่งตกลงมาเพียงเสี้ยววินาที เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ วันนี้ นายกุลนที อายุ 45 ปี เดินทางกลับมาบ้าน หลังอพยพออกจากพื้นที่ไปกว่า 2 สัปดาห์ ในช่วงเหตุปะทะแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทันทีที่เห็นบ้าน นายกุลนทีถึงกับน้ำตาคลอ เพราะบ้านเสียหายอย่างหนัก ทั้งโครงสร้างไม้และปูนได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด ประตู หน้าต่าง กระจก และหลังคาถูกกระสุนถล่มจนแทบไม่เหลือสภาพเดิม […]

มทภ.2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด

10 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ จากการตรวจสอบพบเป็นทุ่นใหม่ ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยภายหลังการรับมอบสิ่งของช่วยเหลือทหารและเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน จากภาครัฐและเอกชน ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ เมื่อวานว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นทุ่นใหม่ที่ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานเพื่อป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ก่อนที่จะถอนกำลังออกไป ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง จึงสั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวัง พร้อมใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักร เช่น รถไถ รถตักในการเคลียร์เส้นทางและค้นหาทุ่นระเบิดบุคคล เพื่อป้องกันไม่ให้กำลังพลได้รับอันตรายซ้ำ สำหรับพื้นที่แนวปะทะที่มีการวางกำลังของทหารกัมพูชายังถือว่าไม่ปลอดภัยสำหรับทหาร เนื่องจากมีการวางระเบิดไว้มาก ส่วนพื้นที่ชาวบ้านซึ่งอยู่นอกแนวชายแดนลึกเข้ามา ไม่น่าเป็นห่วงจากทุ่นระเบิดบุคคล แต่ยังมีความเสี่ยงจากจรวดที่ยิงเข้ามาแล้วไม่ระเบิด หากประชาชนพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ห้ามเข้าไปจับ ดึง หรือเก็บเอง อย่างไรก็ตาม พื้นที่ส่วนใหญ่ เช่น ภูมะเขือ อานม้า ซำแปร และตาเมือนธม ไทยสามารถครอบครองได้ […]

นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องชาติมากถึง 75%

กทม. 10 ส.ค.-นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มากถึง 75% แนะเปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายจริงจัง รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า -กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ -กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 […]