กรุงเทพฯ 18 ก.ค.- รมช. มนัญญาเป็นประธานในพิธีรับถ้วยรางวัลประกวดสุดยอดกาแฟไทย ปี 2565 ซึ่งจัดโดยกรมวิชาการเกษตร หวังเพิ่มมูลค่ากาแฟไทยเพื่อสร้างรายได้แก่เกษตรกร พร้อมผลักดันกาแฟอัตลักษณ์ไทยสู่เวทีกาแฟระดับโลก โดยจะนำไปจัดแสดงให้ชิมในงานมหกรรมพืชสวนโลก ณ ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานในพิธีรับถ้วยรางวัลพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี การประกวดสุดยอดกาแฟไทย ปี 2565 (Thai Coffee Excellence 2022) ณ โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ ฟิวเจอร์พาค รังสิต อำเภอธัญบุรีจังหวัดปทุมธานี
รมช. มนัญญา กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมวิชาการเกษตรร่วมกับหลายภาคส่วนจัดการประกวดสุดยอดกาแฟไทยเป็นปีที่ 2 เพื่อแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและสานต่อแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวงในการส่งเสริมให้เกษตรกรบนพื้นที่สูงปลูกกาแฟเพื่อสร้างรายได้และดูแลผืนป่า นอกจากนี้ ยังเป็นการประชาสัมพันธ์กาแฟไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคกาแฟรุ่นใหม่ และยังเป็นการพัฒนาองค์ความรู้ เพิ่มทักษะให้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการธุรกิจกาแฟเพื่อเพิ่มมูลค่าของกาแฟไทย
จากการประกวดสุดยอดกาแฟไทยปีที่ผ่านมา ส่งผลทำให้มีการนำกาแฟที่ได้คะแนนสูงสุด ลำดับที่ 1-10 จากการประกวดไปจัดประมูล โดยกาแฟโรบัสตาได้ราคาประมูลสูงถึงกิโลกรัมละ 20,000 บาท เกษตรกรสามารถจำหน่ายกาแฟได้ในราคาที่สูงขึ้น เป็นที่น่าพอใจและไม่มีผลผลิตคงค้างเหมือนในอดีต เกษตรกรได้เรียนรู้และมีการพัฒนาการผลิตกาแฟพิเศษหรือ specialty coffee มากขึ้น ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค พร้อมขอให้ผู้เข้าประกวดรักษามาตรฐานการผลิตและพัฒนาคุณภาพกาแฟให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตรเปิดเผยว่า การจัดการประกวดในครั้งนี้ กรมวิชาการเกษตรได้คัดสรรเมล็ดกาแฟคุณภาพดีจากแหล่งปลูกทั่วประเทศซึ่งมีเกษตรกรส่งตัวอย่างกาแฟที่ส่งประกวด 245 ตัวอย่าง แบ่งเป็น กาแฟอะราบิกา 184 ตัวอย่าง และกาแฟโรบัสตา 61 ตัวอย่าง จนกระทั่งได้เมล็ดกาแฟไทยชั้นเลิศ หวังให้เป็นแรงกระตุ้นให้เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟใส่ใจและพัฒนากระบวนการผลิต การแปรรูป รวมถึงการรวมกลุ่มในการผลิตกาแฟทำให้กาแฟมีคุณภาพที่ดีขึ้น ขณะที่ผู้ประกอบการได้ทราบอัตลักษณ์ของกาแฟเฉพาะถิ่น สามารถนำไปประชาสัมพันธ์ต่อยอดสร้างรายได้ ส่วนหน่วยงานภาครัฐได้สนับสนุนยกระดับเป็นการผลิตแบบวิสาหกิจชุมชนเป็นจุดชมงาน อบรมสาธิตการผลิตกาแฟให้เกษตรกรอื่น ๆ ด้วย เช่น การผลิตกาแฟโรบัสตาของจังหวัดชุมพร เพื่อร่วมกันยกระดับกาแฟไทยสู่มาตรฐานสากล
สำหรับประเภทของการประกวด ได้แก่ กาแฟอะราบิกา กระบวนการแปรรูปโดยวิธีแห้ง กระบวนการแปรรูปโดยวิธีเปียก และกระบวนการแปรรูปโดยวิธีกึ่งแห้ง อีกประเภทคือ กาแฟโรบัสตา โดยผู้ที่ได้คะแนนประเมินคุณภาพกาแฟสูงสุด 3 ลำดับแรกในแต่ละประเภทจะได้รับถ้วยรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัล โดยรางวัลที่ 1 จำนวน 50,000 บาท รางวัลที่ 2 จำนวน 30,000 บาท รางวัลที่ 3 จำนวน 10,000 บาท สิ่งประกวดทุกประเภทที่เข้าทดสอบคุณภาพด้านประสาทสัมผัส (cup Tasting) ได้รับประกาศนียบัตรจากกรมวิชาการเกษตร แบ่งเป็น 3 ระดับ ตามเกณฑ์ได้รับรางวัลตามมาตรฐานการตัดสินของสมาพันธ์กาแฟโลก
ทั้งนี้ กรมวิชาการเกษตรจะจัดโรดโชว์กาแฟสุดยอดกาแฟไทย โดยนำผลิตภัณฑ์กาแฟของผู้ที่ได้คะแนนสูงสุด 5 อันดับแรกของแต่ละประเภทไปจัดแสดงให้ชิมในงานมหกรรมพืชสวนโลกประจำปีนี้ (EXPO 2022 Floriade Almere) ณ ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ เพื่อประชาสัมพันธ์อัตลักษณ์กาแฟไทยให้เป็นรู้จักในเวทีกาแฟระดับโลก.-สำนักข่าวไทย