กรุงเทพฯ 30 มี.ค.-ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
คงจีดีพีไทยปีนี้ คาดขยายตัวร้อยละ 3.3 ได้อานิสงค์ส่งออกโตร้อยละ 2
มาชดเชยการลงทุนภาคเอกชนที่หดตัว ขณะที่การลงทุนภาครัฐเป็นตัวขับเคลื่อนหลักครึ่งปีหลัง
แต่ผลสำรวจความเห็นพบว่าในไตรมาส 2 ปีนี้
คนกรุงเทพยังกังวลค่าครองชีพและหนี้ครัวเรือน
นางสาวณัฐพร ตรีรัตน์ศิริกุล ผู้บริหารงานวิจัย
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า ยังประมาณการอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจไทยในปีนี้ขยายตัวร้อยละ
3.3
โดยครึ่งปีแรกเติบโตร้อยละ 3.1 และเติบโตร้อยละ 3.4 ในครึ่งปีหลัง
แม้จะปรับลดการลงทุนภาคเอกชนเป็นหดตัวร้อยละ 1.5 จากเดิมคาดว่าขยายตัวร้อยละ 2.8 แต่เนื่องจากการส่งออกดีกว่าที่คาด
ขยายตัวร้อยละ 2
จากเดิมคาดขยายตัวเพียงร้อยละ 0.8 มาช่วยชดเชยการลงทุนภาคเอกชนที่ลดลง
แต่ยังห่วงการแข็งค่าของเงินบาทมีผลทำให้กำไรของผู้ส่งออกลดลง
และต้นทุนการผลิตสูงขึ้น อย่างไรก็ตามให้น้ำหนักกับการใช้จ่ายภาครัฐเป็นตัวขับเคลื่อนหลักโดยเฉพาะในครึ่งปีหลังที่จะมีการเบิกจ่ายเงินลงทุนโครงการที่ประมูลแล้ว
และคาดว่างบกลางปี2560 ที่จะมีการเบิกจ่ายสูงกว่าในช่วงครึ่งปีแรก
นายเชาวน์ เก่งชน กรรมการผู้จัดการ
บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวว่า แม้ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด จะปรับขึ้นดอกเบี้ย
3 ครั้งในปีนี้
ทำให้ดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐมาอยู่ที่ร้อยละ 1.50 เท่ากับดอกเบี้ยนโยบายของไทย
แต่เชื่อว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ
กนง.จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามทันที
เพราะต้องพิจารณาการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และ กระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย
เพราะคาดว่าค่าเงินบาทจะมีแนวโน้มอ่อนค่าในช่วงปลายปีมาอยู่ที่ 35.70
บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เพราะเงินดอลลาร์สหรัฐจะกลับมาแข็งค่า
ได้รับความสนใจจากนักลงทุน หลังเฟดขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้
และแนวโน้มปรับดอกเบี้ยขึ้นต่อในปี 2561
นางสาวเกวลิน หวังพิชญสุข
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวว่า จากผลสำรวจความเห็นพบว่าในไตรมาส 2 ปีนี้
คนกรุงเทพยังกังวลค่าครองชีพและหนี้ครัวเรือน
โดยมีผลต่อพฤติกรรมการใช้จ่ายในช่วงสงกรานต์ปีนี้ ผลสำรวจถึงร้อยละ 64
พบว่าประชาชนปรับพฤติกรรมการใช้จ่าย โดยลดการเลี้ยงสังสรรค์ ปาร์ตี้ งานรื่นเริง
ลดการซื้อของ และลดการท่องเที่ยว
รวมทั้งเก็บเตรียมสำรองเงินไว้ใช้จ่ายในช่วงเปิดเทอม
อย่างไรก็ตามคาดว่ากำลังซื้อผู้บริโภคฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงครึ่งปีหลัง
ผลบวกจากรายได้เกษตรกรที่ฟื้นตัวในบางสินค้า การใช้จ่ายภาครัฐ
จากโครงการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยรอบ 2 และ
การส่งออกที่ดีขึ้นหนุนการเพิ่มกำลังกานผลิตบางกลุ่มสินค้า
ซึ่งจะเป็นผลดีทำให้ธุรกิจค้าปลีกฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง
ส่งผลให้ค้าปลีกฟื้นตัวเติบโตร้อยละ 5-6
ด้านนางสาวกาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย
บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวว่า สินเชื่อธนาคารพาณิชย์ปีนี้จะขยายตัวร้อยละ 4โดยสินเชื่อภาคธุรกิจจะเป็นตัวนำตลาด
คาดว่าขยายตัวร้อยละ 3 ความต้องการสินเชื่อธุรกิจเพิ่มขึ้น
หลังธุรกิจบางส่วนปรับจากการกู้เงินผ่านตลาดตราสารหนี้มาเป็นสินเชื่อ ขณะเดียวกันต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น
ยังเป็นตัวหนุนความต้องการสินเชื่อเพิ่มเติม
ส่วนสินเชื่อรายย่อยอาจโตในกรอบจำกัดนำโดยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย.-
สำนักข่าวไทย
