fbpx

ตั้งเป้าสนับสนุน 110 ล้านบาท/ปี ยกระดับคุณภาพชีวิตคนพิการ ครอบคลุมคนทุกกลุ่ม

กรุงเทพฯ 28 มิ.ย.-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมมอบอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการสำหรับผู้พิการอันเนื่องมาจากการประสบภัยที่เกิดจากการใช้รถใช้ถนน ตั้งเป้าสนับสนุน 110 ล้านบาท/ปี เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนพิการพัฒนาบริการสาธารณะครอบคลุมคนทุกกลุ่ม


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีมอบอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการ สำหรับผู้พิการอันเนื่องมาจากการประสบภัยที่เกิดจากการใช้รถใช้ถนน โดยมี นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม และประธานกรรมการกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ร่วมในพิธี และมีนายจิรุตม์วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวความเป็นมาของความร่วมมือทั้งสองกระทรวง นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เป็นผู้กล่าวต้อนรับและกล่าวรายงานในวันที่ 28 มิถุนายน 2565 ณ สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ  

ทั้งนี้ การสร้างสังคมไทยให้เป็น “สังคมแห่งโอกาส” มีความเสมอภาคและเท่าเทียมโดย “ไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง” คือ เจตนารมณ์อันมุ่งมั่นของรัฐบาลภายใต้การนำของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กระทรวงคมนาคมและกระทรวงสาธารณสุข จึงได้ร่วมกันนำนโยบายดังกล่าวขับเคลื่อนผ่านหน่วยงานภายใต้สังกัดอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้พิการ เพื่อดูแลผู้พิการให้เข้าถึงสิทธิ สวัสดิการ ได้รับการพัฒนาศักยภาพเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขอย่างต่อเนื่อง โดยกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขและกรมการแพทย์ ได้จัดทำ “บันทึกข้อตกลงความร่วมมือการจัดสรรเงินเป็นค่าอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการอันเนื่องมาจากการประสบภัยที่เกิดจากการใช้รถใช้ถนน” เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2564 ซึ่งก่อนมีบันทึกข้อตกลงความร่วมมือข้างต้นนั้น กองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) ได้จัดสรรเงินเป็นค่าอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการฯ ตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา มีผู้พิการที่ได้รับความช่วยเหลือทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค รวมจำนวน 15,735 ราย รวมเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 748,737,301 บาท 


ทั้งนี้ ต่อมาเมื่อกระทรวงคมนาคม และกระทรวงสาธารณสุขได้ยกระดับการบริหารจัดการเพื่อให้ผู้พิการได้รับอุปกรณ์ที่มีคุณภาพและเหมาะสม โดยผ่านการตรวจจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และมีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฯแล้ว ขบ. โดย กปถ. ได้สนับสนุนเงินค่าอุปกรณ์ฯ ในรอบแรกให้กับหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อจัดซื้อให้แก่ผู้พิการที่ยื่นคำขอ จำนวน 944 ราย เป็นเงินทั้งสิ้น 61,968,511 บาท แบ่งเป็นส่วนกลาง จำนวน 64 ราย เป็นเงิน 3,690,000 บาท ส่วนภูมิภาค จำนวน 880 ราย เป็นเงิน 58,278,411 บาท โดยอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการฯ ที่มีการจัดสรรให้กับผู้พิการนั้น ประกอบด้วยรถนั่งสำหรับคนพิการแบบธรรมดา รถนั่งสำหรับคนพิการแบบขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า แขนเทียม ขาเทียม เครื่องดูดเสมหะ เตียงนอนธรรมดา ที่นอนลมป้องกันแผลกดทับ และเบาะรองนั่งสำหรับแผลกดทับ เป็นต้น สำหรับรอบสองได้เปิดรับคำขอเมื่อต้นเดือนเมษายน 2565-17 พฤษภาคม 2565 ขณะนี้ ขบ.ได้ตรวจคุณสมบัติผู้พิการที่ยื่นคำขอและส่งเรื่องให้หน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อตรวจประเมินร่างกายและพิจารณาอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับความพิการตามขั้นตอนต่อไปแล้ว จำนวน 905 ราย โดยคาดว่า กปถ.จะใช้งบประมาณสนับสนุนในรอบที่สองนี้ประมาณ 50,000,000 บาท

สำหรับความร่วมมือในการจัดหาอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการที่ดำเนินการร่วมกับสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขและสถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ กรมการแพทย์ในครั้งนี้ ขบ.ได้ดำเนินการตามนโยบายของกระทรวงคมนาคมและมติของคณะกรรมการกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน โดยมีการดำเนินการดังนี้

1. ขบ.เป็นผู้เปิดรับคำขอและตรวจสอบคุณสมบัติของผู้พิการจากการประสบอุบัติเหตุในการใช้รถใช้ถนนแล้วส่งเรื่องให้หน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข โดยส่วนกลาง ได้แก่ สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ กรมการแพทย์ และในส่วนภูมิภาค ได้แก่ โรงพยาบาลในจังหวัดต่าง ๆ จำนวน 85 แห่ง ตามที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขกำหนด เพื่อทำการตรวจสภาพความพิการของผู้ยื่นขอและอุปกรณ์ที่เหมาะสมโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ


2. หน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุขดังกล่าวจะส่งคำขอพร้อมผลการตรวจสภาพความพิการของผู้ยื่นขอและอุปกรณ์ที่เหมาะสมโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมราคาอุปกรณ์ให้คณะอนุกรรมการพิจารณาการขอรับจัดสรรเงินค่าอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการอันเนื่องมาจากการประสบภัยที่เกิดจากการใช้รถใช้ถนนเป็นผู้พิจารณาอนุมัติ

3. เมื่อคณะอนุกรรมการฯ อนุมัติแล้ว ขบ.จะโอนเงินของ กปถ.ให้หน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุขเพื่อดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างตามมติของคณะอนุกรรมการฯ และระเบียบของทางราชการที่เกี่ยวข้อง แล้วส่งมอบให้กับผู้พิการฯ ต่อไป

ทั้งนี้ การมีบันทึกข้อตกลงความร่วมมือข้างต้น นอกจากจะเป็นการช่วยเหลือผู้พิการอันเนื่องมาจากการประสบภัยที่เกิดจากการใช้รถใช้ถนนแล้ว ยังเป็นการบูรณาการของหน่วยราชการเพื่อยกระดับมาตรฐานในการจัดหาอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการ โดยอุปกรณ์ทุกชิ้นจะต้องผ่านการตรวจประเมินจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้มีคุณภาพและจัดสรรได้เหมาะสมกับผู้พิการมากที่สุด และสำหรับในรอบถัดไปจะเปิดรับคำขอเป็นประจำในช่วงต้นปีงบประมาณของทุกปี ๆละ 1 ครั้ง โดย กปถ. ได้ตั้งกรอบงบประมาณสนับสนุนในเรื่องนี้ประมาณ 110 ล้านบาทต่อปี และจะประเมินทบทวนกรอบงบประมาณทุกปี เพื่อให้ผู้พิการได้รับอย่างทั่วถึงต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัด-กลางวันฟ้าหลัว

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวตอนกลางวัน แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนอง 10%

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

คลี่ปมฆ่าโหดหนุ่มไทใหญ่ ทิ้งศพเชียงใหม่

ขมวดปมเข้ามาเรื่อยๆ สำหรับคดีฆ่าโหดใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ลากขึ้นรถนำศพไปทิ้งที่ อ.แม่ริม เชียงใหม่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่แกะรอยกล้องวงจรปิด พบรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ขนศพ จ่อออกหมายจับอย่างน้อย 3 คน คาดปมสังหารจากเรื่องทะเลาะวิวาท

ไฟไหม้โกดังพระราม 2 เหตุร้อนจัด สารเคมีติดไฟเอง

กระทรวงอุตสาหกรรม เผยสาเหตุไฟไหม้โกดังย่านพระราม 2 มาจากอากาศร้อนจัด ทำให้สารไทโอยูเรียไดออกไซด์ติดไฟเอง เตือนสถานประกอบการให้แยกสารเคมีที่ติดไฟเองได้หรือสามารถทำปฏิกิริยาออกจากกัน หวั่นเกิดเหตุซ้ำ เพราะอากาศยังคงร้อนจัดต่อเนื่อง