fbpx

เร่งทำฝนหลวงลดพายุลูกเห็บและหมอกควันภาคเหนือ

กรุงเทพฯ 19 เม.ย.- กรมฝนหลวงฯ เร่งปฏิบัติการทำฝนเพื่อบรรเทาความรุนแรงของพายุลูกเห็บและหมอกควันไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ นอกจากนี้ยังเติมน้ำในอ่างเก็บน้ำของเขื่อนต่างๆ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยรายงานว่า มีพื้นที่ประสบวาตภัย 21 จังหวัด


นายสำเริง แสงภู่วงค์ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า ได้ให้หน่วยฝนหลวงในพื้นที่ที่สภาพอากาศเอื้อต่อการบินปฏิบัติการขึ้นบินทำฝนต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภาคเหนือเนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศว่าบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมบริเวณดังกล่าว ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อน ทำให้ด้านตะวันตกของภาคกลางและภาคใต้ตอนบน มีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยมีลูกเห็บตกและมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อประชาชนและเกิดความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร

ทั้งนี้ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง 9 หน่วยขึ้นบินปฏิบัติการเพื่อช่วยบรรเทาความรุนแรงของพายุลูกเห็บให้กับบางพื้นที่ของ จ.เชียงใหม่ ลพบุรี ชัยภูมิ เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ บรรเทาปัญหาหมอกควันและไฟป่าบริเวณพื้นที่ อ.สามเงา จ.ตาก เพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้กับเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนห้วยหลวง และอ่างเก็บน้ำคลองสียัด รวมถึงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรบางส่วนของ จ.กาญจนบุรี สุพรรณบุรี สระบุรี ลพบุรี นครสวรรค์ อุดรธานี นครราชสีมา ชลบุรี และสระแก้ว


กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยรายงานว่า ยังคงมีสถานการณ์วาตภัยใน 21 จังหวัด ได้แก่ ตาก แม่ฮ่องสอนเชียงราย พะเยา เชียงใหม่ น่าน ลำปาง กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ พิจิตร ลำพูน สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา นครนายก ปราจีนบุรี สกลนคร มหาสารคาม อุดรธานี ชัยภูมิ และกาฬสินธุ์ รวม 58 อำเภอ 137 ตำบล 405 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 3,241 หลัง มีผู้เสียชีวิต 2 ราย (เชียงราย และตาก) ผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย (ตาก) ประกอบด้วย 

1. ภาคเหนือ 11 จังหวัด รวม 38 อำเภอ 89 ตำบล 331 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 2,819 หลัง ผู้เสียชีวิต2 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ดังนี้ 

– ตาก เกิดวาตภัยในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองตาก อำเภอบ้านตาก อำเภอวังเจ้า และอำเภอสามเงา รวม 10 ตำบล 12 หมู่บ้าน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย 


– แม่ฮ่องสอน เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปาย และอำเภอปางมะผ้า รวม 3 ตำบล 4 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 3 หลัง 

– เชียงราย เกิดวาตภัยในพื้นที่ 13 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเวียงเชียงรุ้ง อำเภอดอยหลวง อำเภอเชียงของ อำเภอเมืองเชียงราย อำเภอเวียงแก่น อำเภอพญาเม็งราย อำเภอเทิง อำเภอพาน อำเภอแม่สาย อำเภอเวียงชัย อำเภอป่าแดด อำเภอเวียงป่าเป้า และอำเภอแม่สรวย รวม 38 ตำบล 177 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 2,559 หลังมีผู้เสียชีวิต 1 ราย 

– พะเยา เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองพะเยา และอำเภอจุน รวม 9 ตำบล 65 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 72 หลัง 

– เชียงใหม่ เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอกัลยานิวัฒนา รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน 

– น่าน เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอ เวียงสา รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 1 หลัง 

– ลำปาง เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวังเหนือ อำเภอเมืองปาน และอำเภอเถิน รวม 4 ตำบล 4 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 4 หลัง 

– กำแพงเพชร เกิดวาตภัยในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองกำแพงเพชร อำเภอขาณุวรลักษบุรี อำเภอปางศิลา และอำเภอคลองขลุง รวม 11 ตำบล 30 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 121 หลัง 

– เพชรบูรณ์ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหล่มสัก อำเภอหล่มเก่า และอำเภอวังโป่ง รวม 3 ตำบล 7 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 59 หลัง 

– พิจิตร เกิดวาตภัยในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอตะพานหิน อำเภอบางมูลนาก อำเภอโพทะเล และอำเภอดงเจริญ รวม 5 ตำบล 7 หมู่บ้าน 

– ลำพูน เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอเมืองลำพูน รวม 4 ตำบล 23 หมู่บ้าน 

2. ภาคกลาง 3 จังหวัด รวม 4 อำเภอ 13 ตำบล 26 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 336 หลัง ดังนี้ 

– สิงห์บุรี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอท่าช้าง และอำเภอบางระจัน รวม 5 ตำบล 17 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 100 หลัง 

– อ่างทอง เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอป่าโมก รวม 1 ตำบล 2 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 6 หลัง 

– พระนครศรีอยุธยา เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอบางบาล รวม 7 ตำบล 7 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 230 หลัง 

3. ภาคตะวันออก 2 จังหวัด รวม 6 อำเภอ 21 ตำบล 25 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 31 หลัง ดังนี้ 

– นครนายก เกิดวาตภัยในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครนายก อำเภอบ้านนา อำเภอปากพลี และอำเภอองครักษ์ รวม 18 ตำบล 21 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 28 หลัง 

– ปราจีนบุรี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนาดี และอำเภอประจันตคาม รวม 3 ตำบล 4 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 3 หลัง

4. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 จังหวัด รวม 10 อำเภอ 14 ตำบล 23 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 55 หลังดังนี้ 

– กาฬสินธุ์ เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอหนองกุงศรี รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 3 หลัง 

– สกลนคร เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอวานรนิวาส รวม 1 ตำบล 3 หมู่บ้าน 

– มหาสารคาม เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองมหาสารคาม และอำเภอกันทรวิชัย รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 1 หลัง 

– อุดรธานี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเพ็ญ และอำเภอบ้านดุง รวม 4 ตำบล 9 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 36 หลัง 

– ชัยภูมิ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอภักดีชุมพล อำเภอบำเหน็จณรงค์ อำเภอซับใหญ่ และอำเภอบ้านแท่น รวม 7 ตำบล 9 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 15 หลัง

ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เร่งสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.  รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” ได้ทุกที่ทุกเวลา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

ข่าวแนะนำ

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก กทม.ครั้งแรกของปี

วันนี้เป็นครั้งแรกของปีที่ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับพื้นที่ กทม. ส่งผลให้ดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะ หรือตั้งฉากกับพื้นที่บริเวณต่างๆ ของไทย 2 ครั้งต่อปี คือช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. และเดือน ก.ค.-ก.ย.

“บิ๊กต่าย” ยันทำตามหน้าที่ ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก”

“บิ๊กต่าย” แถลงข่าวการจับยาเสพติด ยันไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก” ย้ำทำตามหน้าที่รักษาการฯ ไม่มีเวลาเอาสมองไปคิดเรื่องปลดป้ายชื่อ

ระทึกถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิดอีก

วิ่งหนีอลหม่าน! ถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิด ย่านตลาดสดเทศบาลนางัว อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี คาดสาเหตุจากอากาศร้อนจัด