เปิดข้อมูลโครงการจัดซื้อเครื่องบินฝนหลวงที่กมธ. งบฯ เรียกอธิบดีชี้แจง

กรุงเทพฯ 11 ก.พ. – อธิบดีกรมฝนหลวงเตรียมเข้าชี้แจงต่อกมธ. งบประมาณเกี่ยวกับการจัดซื้อเครื่องบิน 2 ลำในวันที่ 15 ก.พ. นี้ ตามที่กมธ. ออกหนังสือเชิญ โดยโครงการจัดซื้อเครื่องบินดังกล่าว ตั้งราคากลางไว้ที่ 1,180 ล้านบาทซึ่งมีการยื่นประกวดราคาไปเมื่อวันที่ 5 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยมีเพียงบริษัทเดียวยื่นประกวดราคา ผ่านไป 1 เดือนกว่า ยังไม่มีการประกาศว่า บริษัทนี้ได้รับคัดเลือกหรือไม่


คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณได้ส่งหนังสือเชิญนายสุพิศ พิทักษ์ธรรม อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตรเข้าชี้แจงเกี่ยวกับโครงการจัดซื้อเครื่องบิน 2 ลำซึ่งนายศรีสุวรรณ จรรยาและนายยศวริศ ชูกล่อมมาร้องเรียนให้คณะกรรมาธิการฯ ตรวจสอบเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2566 โดยนายศรีสุวรรณและนายยศวริศตั้งข้อสังเกตว่า มีการล็อกสเปกให้เครื่องบินของผู้ผลิตเพียงรายเดียวเข้ายื่นประกวดราคาได้หรือไม่ อีกทั้งระบุว่า ส่อพิรุธทุจริต

นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตรตอบรับจะเข้าชี้แจงด้วยตัวเองวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567


สำหรับโครงการจัดซื้อเครื่องบิน 2 ลำดังกล่าว มีระยะเวลาดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 – 2570 วงเงินงบประมาณ 1,314,000,000 บาท กำหนดราคากลางที่ 1,188,770,000 บาท ในเดือนตุลาคม 2566 บริษัทที่เป็นตัวแทนของจำหน่ายเครื่องบินรายหนึ่งเชิญผู้บริหารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรไปดูงานที่โรงงานผลิตเครื่องบินที่สาธารณรัฐเช็ก ต่อมากรมฝนหลวงฯ ออกประกาศเรื่อง ประกวดราคาซื้อเครื่องบินขนาดกลาง 2 ลำ ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2566 โดยมีการประกวดราคาเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2567 มีบริษัทยื่นเสนอราคาเพียง 1 ราย ขณะนี้ยังไม่มีการประกาศว่า บริษัทดังกล่าวได้รับคัดเลือกหรือไม่ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตรกล่าวก่อนหน้านี้ว่า อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาราคา

ทั้งนี้มีรายงานว่า รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะและเงื่อนไขทางเทคนิคถูกปรับลดลงจากเดิม ทำให้ราคากลางในการจัดซื้อต่ำกว่า เครื่องบินขนาดกลางที่กรมฝนหลวงฯ ใช้ปฏิบัติงานมานานคือ Casa ผลิตซึ่งมี 16 ลำ ตัวแทนของผู้ผลิตเครื่องบิน Casa จึงไม่สามารถแข่งขันได้

Casa

เมื่อปรากฏว่า มีผู้ยื่นประกวดราคาเพียงรายเดียว ทำให้ต่อมานายศรีสุวรรณ จรรยากับพวกร้องเรียนทั้งต่อกมธ. งบประมาณและร้องต่อกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ตรวจสอบเนื่องจากตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการกำหนดสเปกเพื่อเอื้อประโยชน์แก่บริษัทรายใดรายหนึ่ง


สำหรับเครื่องบินขนาดกลาง 2 ลำที่อยู่ระหว่างจัดซื้อ มีสเปกใกล้เคียงกับเครื่องบิน LET L-410 NG ที่ผลิตโดยบริษัท Aircraft Industries ของสาธารณรัฐเช็ก

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยได้รับรายงานจากแหล่งข่าวในกรมฝนหลวงและการบินเกษตรในประเด็นที่เป็นข้อกังวลของผู้ปฏิบัติงานในส่วนของนักบินและช่างซ่อมเครื่องบินเกี่ยวกับการจัดซื้อเครื่องบิน 2 ลำครั้งนี้คือ หากได้เครื่องบิน LET L-410 NG จะทำให้เครื่องบินที่ใช้ปฏิบัติการฝนหลวงมีจำนวนแบบเครื่องบินเพิ่มขึ้นอีก โดยก่อนหน้านี้กรมฝนหลวงฯ เพิ่งจัดซื้อเครื่องบินขนาดกลาง 2 เครื่อง (ยังไม่ได้มีการส่งมอบ) โดยได้เป็นเครื่อง SkyCourier ตัวแทนจำหน่ายคือ บริษัท เอ็ม-แลนดาร์ช จำกัด

SkyCourier

การมีเครื่องบินหลายแบบจะทำให้ยากต่อการบริหารจัดการเนื่องจากต้องใช้เครื่องบินต่างแบบมาบินผสมกันในการปฏิบัติงาน ขณะที่จำนวนนักบินไม่เพียงพอ อีกทั้งมีนักบินลาออกและสมัครเข้าใหม่บ่อยครั้ง ปกติแล้วกรมฝนหลวงฯ มีระบบให้นักบินที่มีชั่วโมงบินสูงทำหน้าที่ครูการบินสอนนักบินใหม่ให้เกิดความชำนาญ เมื่อมีเครื่องบินแบบใหม่เข้ามาจะต้องใช้เวลาในการสร้างครูการบินในแบบเครื่องบินนั้นๆ นอกจากนี้ยังจะเกิดความยุ่งยากในการสำรองอะไหล่ เครื่องยนต์ รวมถึงอุปกรณ์การบินเฉพาะแบบ เมื่อเปรียบเทียบกับสายการบินพาณิชย์ส่วนใหญ่จะพบว่า ส่วนใหญ่ใช้เครื่องบินแบบเดียวเพื่อให้สะดวกต่อการบริหารจัดการ

L-410 NG

สำหรับเครื่องบิน LET L-410 NG มีน้ำหนักบรรทุกน้อยกว่าเครื่องบิน Casa ในการขึ้นบินทำฝนหลวงจะต้องใช้สารฝนหลวง 2 ตันต่อ 1 รอบปฏิบัติงาน โดย Casa รับน้ำหนักบรรทุกได้ 1 ตันจึงใช้ 2 ลำต่อ 1 รอบปฏิบัติงาน ระยะเวลาในการบินแต่ละรอบปฏับัติงานประมาณ 1ชั่วโมง 40 นาทีถึง2 ชั่วโมง Casa เติมน้ำมันเต็มถัง บินได้นานประมาณ 5 ชั่วโมง กรณีที่ต้องปฏิบัติงานต่อเนื่องจึงสามารถบินได้ 2 เที่ยว โดยยังมีเชื้อเพลิงสำรองด้วย ขณะที่ LET L-410 NG ซึ่งน้ำหนักบรรทุกน้อยกว่า Casa นั้น จะต้องเพิ่มเที่ยวบินให้ถี่ขึ้นต่อรอบการปฏิบัติงาน หรือหากจะบรรทุกสารฝนหลวงให้เท่ากับ Casa จะต้องลดปริมาณเชื้อเพลิงที่เติม ในการปฏิบัติงานต่อเนื่อง ต้องพักเติมเชื้อเพลิงซึ่งอาจมีผลต่อการช่วงชิงจังหวะที่สภาพอากาศเข้าเงื่อนไขในการทำฝนหลวง

L-410 NG

นอกจากนี้ยังมีรายงาน บริษัทเพียงรายเดียวที่ยื่นประกวดราคาเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2567 ได้เสนอราคาประมาณ 1,200 ล้านบาท แม้จะต่ำกว่าวงเงินงบประมาณที่กำหนดไว้ 1,300 ล้านบาท แต่สูงกว่าราคากลางที่กำหนดไว้ที่ประมาณ 1,180 ล้านบาท จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ยังไม่ประกาศว่า ใครเป็นผู้ชนะการประกวดราคาเนื่องจากมีการร้องเรียนของบริษัทอื่นที่เสียประโยชน์ต่อเข้ายื่นประกวดราคาครั้งนี้ รวมถึงการร้องเรียนของแก็งตบทรัพย์ของนายศรีสุวรรณกับพวก

Cessna Caravan

สำหรับอากาศยานของกรมฝนหลวงฯ มี 2 ประเภทคือ อากาศยานปีกตรึงและอากาศยานปีกหมุน โดยอากาศยานปีกตรึงประกอบด้วย เครื่องบินขนาดเล็กคือ Cessna Caravan 12 เครื่อง เครื่องบินขนาดกลางคือ Casa 16 เครื่อง ขนาดใหญ่คือ CN 2 เครื่อง และเครื่องบินปรับความดันอากาศคือ Super King Air 3 เครื่อง

Super King Air

ส่วนอากาศปีกหมุนหรือเฮลิคอปเตอร์มี BELL 206B3 จำนวน 3 เครื่อง BELL 407GXP 3 เครื่อง BELL 412EP 1 เครื่อง และ AS 350 B2 (ECUREUIL) 1 เครื่อง. – 512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทหารกัมพูชาขุด “คูเลต” ลากยาว 650 เมตร

อุบลราชธานี 28 พ.ค.- เปิดภาพ! “คูเลต” ทหารกัมพูชาขุดลากยาว 650 เมตร จากต้นสัตบรรณถึงสามแยกลาว จุดปะทะทหารไทย เมื่อวันที่ 28 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ภายหลังเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี หลังพบขุดคูเลต จากจุดต้นสัตบรรณถึงสามแยกลาว ระยะทาง 650 เมตร ซึ่งเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยก่อนจะเกิดเหตุปะทะกัน ทหารไทยได้เข้าไปเจรจา เพราะเป็นการละเมิด MOU 2543 เป็นครั้งที่ 2 แต่ทางทหารกัมพูชากับยิงสวนออกมา จึงเกิดการปะทะกัน โดยช่วงนี้อยู่ระหว่างการเจรจาของผู้นำในพื้นที่ทั้งสองฝ่าย โดยฝ่ายทหารไทยยืนยันว่าให้ทหารกัมพูชา ออกจากพื้นที่อ้างสิทธิพร้อมกัน-313 .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ

อุบลราชธานี 28 พ.ค.- มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ ทหารไทยเข้าเจรจากลับยิงสวน ลั่นปกป้องอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 เต็มที่ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึง เหตุปะทะระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมา กำลังพลของกองกำลังสุรนารีได้ลาดตระเวนและพบว่า ทหารกัมพูชาขุดคูเลต เช่นเดียวกับเนิน 745 ช่องบก ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยก่อนจะเกิดเหตุปะทะกัน ทหารไทยได้เข้าไปเจรจา แต่ทางกัมพูชา ยิงสวนออกมา จึงเกิดการปะทะกัน อย่างที่เป็นข่าว สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อจากนี้ ผู้บังคับบัญชาในระดับพื้นที่กำลังพูดคุยเจรจา “ยืนยันว่าทหารไทยทำหน้าที่รักษาอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 ซึ่งในพื้นที่ทับซ้อนของทั้ง 2 ประเทศ จะมีการออกลาดตระเวนอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายล้ำเข้ามา ซึ่งทุกฝ่ายต้องยึดตาม MOU 2543”.-313.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารกัมพูชา

ทบ.แจงเหตุปะทะทหารกัมพูชาบริเวณช่องบก คลี่คลายแล้ว

กองทัพบก 28 พ.ค.-ทบ.แจงเหตุปะทะทหารกัมพูชาบริเวณชายแดนช่องบก จ.อุบลราชธานี ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว อยู่ระหว่างรอการเจรจา พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา โดยระบุว่าได้รับรายงานจาก กองกำลังสุรนารีเกี่ยวกับเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เวลา 05.30 น. โดย หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี ได้รับการรายงานว่ามีทหารกัมพูชาเข้ามาวางกำลังในพื้นที่อ้างสิทธิ์ ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อตกลง ฝ่ายไทยจึงจัดชุดประสานงานเพื่อเข้าพูดคุยเจรจาตามแนวทางการปฏิบัติที่เคยกระทำมา เมื่อถึงบริเวณดังกล่าว กำลังส่วนระวังเหตุของทหารกัมพูชา ได้เข้าใจผิด และเริ่มใช้อาวุธ ฝ่ายไทยจึงใช้อาวุธตอบโต้กลับไป โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที ต่อมาเวลา 05.55 น. พลตรี ทล โซะวัน รองผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ฝ่ายกัมพูชา ได้โทรศัพท์ประสานงานกับ พันเอก บุญเสริม บุญบำรุง รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายยุติ โดยทั้งสองฝ่ายได้ตกลงหยุดยิงและตรึงกำลังบริเวณจุดปะทะ ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการเจรจาผ่านกลไกทวิภาคี เพื่อจัดการกรณีอ้างสิทธิในพื้นที่ และกำหนดแนวทางร่วมกันในการปฏิบัติอย่างสันติ ตามข้อตกลงที่มีอยู่ […]

มติเอกฉันท์ สภาอนุมัติ “พ.ร.ก.ไซเบอร์-สินทรัพย์ดิจิทัล”

รัฐสภา 28 พ.ค.- สภาเอกฉันท์อนุมัติ “พ.ร.ก.ไซเบอร์-สินทรัพย์ดิจิทัล” ให้ธนาคารร่วมชดใช้ค่าเสียหายจาก “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” เร่งคืนเงินผู้เสียหาย ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญ วาระการพิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 และ พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ซึ่งแบ่งเวลาในการอภิปรายฝ่ายละ 2 ชั่วโมง รวม 4 ชั่วโมง และจะเป็นการรวมพิจารณา และแยกลงมติทีละฉบับ โดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เสนอหลักการว่า เนื่องจากปัจจุบัน มี พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญกรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ยังมีมาตรการบังคับทางกฎหมายที่ยังไม่เพียงพอ กับรูปแบบอาชญากรรม กลุ่มมิจฉาชีพ จึงต้องแก้ไขปรับปรุงให้ทันสมัย เช่น การเร่งคืนเงินให้ผู้เสียหาย, การอาญัติบัญชีม้า, การกำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบของสถาบันการเงิน ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ และมาตรการการโอนเงินผิดกฎหมาย ผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล จากนั้น ได้เปิดโอกาสให้ สส.อภิปรายอย่างกว้างขวาง โดยนายจุติ […]

ข่าวแนะนำ

ปิดเส้นทางงดให้ชาวบ้านขึ้น “ช่องบก” หลังเหตุปะทะไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 29 พ.ค. – บรรยากาศภายในจุดเฝ้าระวัง ภจ12 (ฐานมรกต) อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ในหมู่บ้านโนนสูง หมู่ 3 ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นทางขึ้นสู่ช่องบก ยังคงตึงเครียดต่อเนื่อง หลังเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.68) เช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้ปิดเส้นทางไม่ให้ชาวบ้านขึ้นไปยังพื้นที่ด้านบน พร้อมมีการตรึงกำลังทหารเพื่อดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ขณะเดียวกัน มีรถพยาบาลทยอยขึ้นไปยังพื้นที่เกิดเหตุอย่างต่อเนื่อง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้มีการบันทึกภาพบริเวณที่ตั้งกำลังของทหารไทย นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งจุดอำนวยการฉุกเฉิน โดยขนย้ายเต็นท์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ขึ้นไปเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ ชาวบ้านในพื้นที่แสดงความกังวลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายสิทธิ์ อายุ 73 ปี กล่าวว่า ปกติจะขึ้นป่าเป็นประจำ แต่ตอนนี้เจ้าหน้าที่ห้ามเข้าพื้นที่ ทำให้ขาดรายได้ ขณะที่นางพวย อายุ 61 ปี เล่าว่า นี่เป็นครั้งที่ 3 ที่พบเหตุการณ์ในลักษณะนี้ ก่อนหน้านี้เคยมีกระสุนตกลงมาในหมู่บ้าน แม้รู้สึกกลัว แต่ก็พอทำใจได้ เพราะเคยผ่านเหตุการณ์คล้ายกันมาแล้ว ในช่วงบ่ายวันนี้ นายอำเภอน้ำยืนเตรียมเรียกประชุมหน่วยงานราชการในพื้นที่ เพื่อวางแนวทางรับมือและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขณะที่เวลา […]

นายกฯ ยันศาลฯ เบรกภาษี “ทรัมป์” ไม่กระทบแผนเจรจาไทย

กรุงเทพฯ 29 พ.ค. – นายกฯ ยันศาลการค้ารัฐบาลกลางเบรกภาษี “ทรัมป์” ไม่ส่งผลกระทบแผนเจรจาไทย ทีมงานยังเดินหน้าต่อ จนถึงวันนี้ยังไม่ได้วันนัดชัดเจน รู้สึกสบายใจหลายประเทศอาเซียนก็อยู่ระดับเดียวกับไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ มีคำวินิจฉัยว่า ทรัมป์ ไม่สามารถใช้อำนาจฉุกเฉินในการกำหนดภาษีศุลกากรทั่วโลกได้ เรื่องนี้จะส่งผลกับประเทศไทยที่กำลังรอเจรจาเรื่องภาษีสหรัฐอเมริกาอยู่หรือไม่ ว่า ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการไปตกลงจะมีผลอย่างไร ซึ่งตนเองก็ไม่แน่ใจแต่เราก็ต้องทำต่อ เตรียมความพร้อมต่อไป จะหยุดชะงักเลยก็คงไม่ได้และไม่แน่ใจว่ารับฟังหรือยัง เพราะระหว่างที่ไปประชุมที่มาเลเซียได้มีโอกาสได้คุยกับทุกประเทศ ได้คุยกันเรื่องของภาษีสหรัฐอเมริกา ทุกคนพูดเหมือนกันว่าหลายประเทศอยู่ในระดับเดียวกับประเทศไทย คือส่งรายงานเข้าไปและรอวันที่จะตอบกลับมาว่าจะได้ไปคุยวันไหน ยืนยันว่าเราไม่ได้ช้าและอยู่ในขั้นตอนของการรอวันที่จะไปคุยเช่นกันตามกรอบ 90 วัน จึงขอให้สบายใจได้ และจนถึงตอนนี้ยังไม่ได้วันชัดเจนว่าจะได้คุยวันไหนต้องรอให้ทางสหรัฐอเมริกานัดมา แต่ในทีมทำงานไม่เป็นทางการยังติดต่อกันได้ ยังได้คุยและอัพเดทสถานการณ์กันอยู่ และก็เป็นสัญญาณบวก และย้ำอีกครั้งว่า ตนเองไม่ได้ถูกแบนวีซ่าสหรัฐอเมริกาขอให้สบายใจได้. -420-สำนักข่าวไทย

หุ้นบวก-บาทอ่อน-ทองลง รับข่าวที่ศาลฯ ระงับมาตรการภาษีตอบโต้ของ “ทรัมป์”

กรุงเทพฯ 29 พ.ค. – หุ้นไทยบวก-บาทอ่อนค่า-ทองลง รับข่าวที่ศาลฯ ระงับมาตรการภาษีตอบโต้ของ “ทรัมป์” ขณะ บล.กรุงศรี คาด SET จะกลับเหนือ 1,200-1,210 จุด ใน 1-3 วัน เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 32.84-32.86 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (เวลา 09.56 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 32.62 บาทต่อดอลลาร์ฯ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุเงินบาทอ่อนค่าลงสอดคล้องกับสกุลเงินเอเชียอื่นๆ เงินเยน และเงินฟรังก์ สวนทางเงินดอลลาร์ฯ ที่แข็งค่าขึ้น รับข่าวที่ศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ในนิวยอร์กระงับการใช้มาตรการภาษีศุลกากรของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ออกมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขต ในการเก็บภาษีแบบครอบคลุมจากประเทศที่ส่งออกสินค้ามายังสหรัฐฯ มากกว่าที่นำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ด้านทำเนียบขาวได้ยื่นอุทธรณ์คำตัดสินดังกล่าว และอาจยื่นเรื่องต่อไปจนถึงศาลสูงหากจำเป็น แต่ในระหว่างนี้ ตลาดมองว่าเป็นสัญญาณบวกว่าทรัมป์อาจยอมถอยจากการกำหนดภาษีในระดับสูงสุดที่เคยขู่ไว้ นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทยังสอดคล้องกับการปรับตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลก และสัญญาณสะท้อนสถานะ outflows ของนักลงทุนต่างชาติออกจากตลาดพันธบัตรไทยในวันนี้ด้วยเช่นกัน สมาคมค้าทองคำ […]

“วันนอร์” ชมการอภิปรายงบฯ 69 วันแรก ไม่น่าเบื่อ ประเด็นไม่ซ้ำ

รัฐสภา 29 พ.ค.-“วันนอร์” ชมการอภิปรายงบฯ 69 วันแรก ทุกคนเตรียมตัวมาดี ข้อมูลเป็นประโยชน์ ไม่น่าเบื่อ ประเด็นไม่ซ้ำ ระบุแม้ สส. – รมต. – นายกฯ ไม่อยู่ห้องประชุม แต่รับฟังจากทีวี – วิทยุ ด้านนอกได้ บอก “กุสุมาลวตี” ยื่นสอบจริยธรรม “อนุทิน” ทำได้ โยนฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงภาพรวมการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 วันแรก ว่า ตั้งแต่นายกรัฐมนตรีได้เสนอรายละเอียดในทุกแง่มุม ซึ่งสภา และประชาชนที่ได้รับฟัง น่าจะเข้าใจว่ารัฐบาลมีความตั้งใจในการใช้งบประมาณในปีนี้ ส่วนผู้นำฝ่ายค้าน ก็อยากให้รัฐบาล และผู้ใช้งบประมาณปรับปรุงแนวทางในการทำงาน เพื่อให้งบประมาณเกิดประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด ซึ่งทุกคนไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน อภิปรายอย่างมีคุณค่าสำหรับประชาชน และผู้ที่จะใช้งบประมาณทุกภาคส่วน ก็จะนำข้อคิดเห็นนี้ไปดูแลงบประมาณ โดยหลังจากวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 จะมีการตั้งกรรมาธิการวิสามัญ 72 คน […]