เปิดข้อมูลโครงการจัดซื้อเครื่องบินฝนหลวงที่กมธ. งบฯ เรียกอธิบดีชี้แจง

กรุงเทพฯ 11 ก.พ. – อธิบดีกรมฝนหลวงเตรียมเข้าชี้แจงต่อกมธ. งบประมาณเกี่ยวกับการจัดซื้อเครื่องบิน 2 ลำในวันที่ 15 ก.พ. นี้ ตามที่กมธ. ออกหนังสือเชิญ โดยโครงการจัดซื้อเครื่องบินดังกล่าว ตั้งราคากลางไว้ที่ 1,180 ล้านบาทซึ่งมีการยื่นประกวดราคาไปเมื่อวันที่ 5 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยมีเพียงบริษัทเดียวยื่นประกวดราคา ผ่านไป 1 เดือนกว่า ยังไม่มีการประกาศว่า บริษัทนี้ได้รับคัดเลือกหรือไม่


คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณได้ส่งหนังสือเชิญนายสุพิศ พิทักษ์ธรรม อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตรเข้าชี้แจงเกี่ยวกับโครงการจัดซื้อเครื่องบิน 2 ลำซึ่งนายศรีสุวรรณ จรรยาและนายยศวริศ ชูกล่อมมาร้องเรียนให้คณะกรรมาธิการฯ ตรวจสอบเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2566 โดยนายศรีสุวรรณและนายยศวริศตั้งข้อสังเกตว่า มีการล็อกสเปกให้เครื่องบินของผู้ผลิตเพียงรายเดียวเข้ายื่นประกวดราคาได้หรือไม่ อีกทั้งระบุว่า ส่อพิรุธทุจริต

นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตรตอบรับจะเข้าชี้แจงด้วยตัวเองวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567


สำหรับโครงการจัดซื้อเครื่องบิน 2 ลำดังกล่าว มีระยะเวลาดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 – 2570 วงเงินงบประมาณ 1,314,000,000 บาท กำหนดราคากลางที่ 1,188,770,000 บาท ในเดือนตุลาคม 2566 บริษัทที่เป็นตัวแทนของจำหน่ายเครื่องบินรายหนึ่งเชิญผู้บริหารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรไปดูงานที่โรงงานผลิตเครื่องบินที่สาธารณรัฐเช็ก ต่อมากรมฝนหลวงฯ ออกประกาศเรื่อง ประกวดราคาซื้อเครื่องบินขนาดกลาง 2 ลำ ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2566 โดยมีการประกวดราคาเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2567 มีบริษัทยื่นเสนอราคาเพียง 1 ราย ขณะนี้ยังไม่มีการประกาศว่า บริษัทดังกล่าวได้รับคัดเลือกหรือไม่ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตรกล่าวก่อนหน้านี้ว่า อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาราคา

ทั้งนี้มีรายงานว่า รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะและเงื่อนไขทางเทคนิคถูกปรับลดลงจากเดิม ทำให้ราคากลางในการจัดซื้อต่ำกว่า เครื่องบินขนาดกลางที่กรมฝนหลวงฯ ใช้ปฏิบัติงานมานานคือ Casa ผลิตซึ่งมี 16 ลำ ตัวแทนของผู้ผลิตเครื่องบิน Casa จึงไม่สามารถแข่งขันได้

Casa

เมื่อปรากฏว่า มีผู้ยื่นประกวดราคาเพียงรายเดียว ทำให้ต่อมานายศรีสุวรรณ จรรยากับพวกร้องเรียนทั้งต่อกมธ. งบประมาณและร้องต่อกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ตรวจสอบเนื่องจากตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการกำหนดสเปกเพื่อเอื้อประโยชน์แก่บริษัทรายใดรายหนึ่ง


สำหรับเครื่องบินขนาดกลาง 2 ลำที่อยู่ระหว่างจัดซื้อ มีสเปกใกล้เคียงกับเครื่องบิน LET L-410 NG ที่ผลิตโดยบริษัท Aircraft Industries ของสาธารณรัฐเช็ก

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยได้รับรายงานจากแหล่งข่าวในกรมฝนหลวงและการบินเกษตรในประเด็นที่เป็นข้อกังวลของผู้ปฏิบัติงานในส่วนของนักบินและช่างซ่อมเครื่องบินเกี่ยวกับการจัดซื้อเครื่องบิน 2 ลำครั้งนี้คือ หากได้เครื่องบิน LET L-410 NG จะทำให้เครื่องบินที่ใช้ปฏิบัติการฝนหลวงมีจำนวนแบบเครื่องบินเพิ่มขึ้นอีก โดยก่อนหน้านี้กรมฝนหลวงฯ เพิ่งจัดซื้อเครื่องบินขนาดกลาง 2 เครื่อง (ยังไม่ได้มีการส่งมอบ) โดยได้เป็นเครื่อง SkyCourier ตัวแทนจำหน่ายคือ บริษัท เอ็ม-แลนดาร์ช จำกัด

SkyCourier

การมีเครื่องบินหลายแบบจะทำให้ยากต่อการบริหารจัดการเนื่องจากต้องใช้เครื่องบินต่างแบบมาบินผสมกันในการปฏิบัติงาน ขณะที่จำนวนนักบินไม่เพียงพอ อีกทั้งมีนักบินลาออกและสมัครเข้าใหม่บ่อยครั้ง ปกติแล้วกรมฝนหลวงฯ มีระบบให้นักบินที่มีชั่วโมงบินสูงทำหน้าที่ครูการบินสอนนักบินใหม่ให้เกิดความชำนาญ เมื่อมีเครื่องบินแบบใหม่เข้ามาจะต้องใช้เวลาในการสร้างครูการบินในแบบเครื่องบินนั้นๆ นอกจากนี้ยังจะเกิดความยุ่งยากในการสำรองอะไหล่ เครื่องยนต์ รวมถึงอุปกรณ์การบินเฉพาะแบบ เมื่อเปรียบเทียบกับสายการบินพาณิชย์ส่วนใหญ่จะพบว่า ส่วนใหญ่ใช้เครื่องบินแบบเดียวเพื่อให้สะดวกต่อการบริหารจัดการ

L-410 NG

สำหรับเครื่องบิน LET L-410 NG มีน้ำหนักบรรทุกน้อยกว่าเครื่องบิน Casa ในการขึ้นบินทำฝนหลวงจะต้องใช้สารฝนหลวง 2 ตันต่อ 1 รอบปฏิบัติงาน โดย Casa รับน้ำหนักบรรทุกได้ 1 ตันจึงใช้ 2 ลำต่อ 1 รอบปฏิบัติงาน ระยะเวลาในการบินแต่ละรอบปฏับัติงานประมาณ 1ชั่วโมง 40 นาทีถึง2 ชั่วโมง Casa เติมน้ำมันเต็มถัง บินได้นานประมาณ 5 ชั่วโมง กรณีที่ต้องปฏิบัติงานต่อเนื่องจึงสามารถบินได้ 2 เที่ยว โดยยังมีเชื้อเพลิงสำรองด้วย ขณะที่ LET L-410 NG ซึ่งน้ำหนักบรรทุกน้อยกว่า Casa นั้น จะต้องเพิ่มเที่ยวบินให้ถี่ขึ้นต่อรอบการปฏิบัติงาน หรือหากจะบรรทุกสารฝนหลวงให้เท่ากับ Casa จะต้องลดปริมาณเชื้อเพลิงที่เติม ในการปฏิบัติงานต่อเนื่อง ต้องพักเติมเชื้อเพลิงซึ่งอาจมีผลต่อการช่วงชิงจังหวะที่สภาพอากาศเข้าเงื่อนไขในการทำฝนหลวง

L-410 NG

นอกจากนี้ยังมีรายงาน บริษัทเพียงรายเดียวที่ยื่นประกวดราคาเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2567 ได้เสนอราคาประมาณ 1,200 ล้านบาท แม้จะต่ำกว่าวงเงินงบประมาณที่กำหนดไว้ 1,300 ล้านบาท แต่สูงกว่าราคากลางที่กำหนดไว้ที่ประมาณ 1,180 ล้านบาท จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ยังไม่ประกาศว่า ใครเป็นผู้ชนะการประกวดราคาเนื่องจากมีการร้องเรียนของบริษัทอื่นที่เสียประโยชน์ต่อเข้ายื่นประกวดราคาครั้งนี้ รวมถึงการร้องเรียนของแก็งตบทรัพย์ของนายศรีสุวรรณกับพวก

Cessna Caravan

สำหรับอากาศยานของกรมฝนหลวงฯ มี 2 ประเภทคือ อากาศยานปีกตรึงและอากาศยานปีกหมุน โดยอากาศยานปีกตรึงประกอบด้วย เครื่องบินขนาดเล็กคือ Cessna Caravan 12 เครื่อง เครื่องบินขนาดกลางคือ Casa 16 เครื่อง ขนาดใหญ่คือ CN 2 เครื่อง และเครื่องบินปรับความดันอากาศคือ Super King Air 3 เครื่อง

Super King Air

ส่วนอากาศปีกหมุนหรือเฮลิคอปเตอร์มี BELL 206B3 จำนวน 3 เครื่อง BELL 407GXP 3 เครื่อง BELL 412EP 1 เครื่อง และ AS 350 B2 (ECUREUIL) 1 เครื่อง. – 512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ทุ่นระเบิดใหม่ตอกย้ำกัมพูชาละเมิดกติกาสากล

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – วันนี้ รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูตภาคีอนุสัญญาออตตาวา ลงพื้นที่ดูปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิด บนภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมเรียกร้องให้ตัดงบช่วยเหลือกัมพูชา หลังใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ผู้บริจาค ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ยืนยันเป็นทุ่นระเบิดใหม่ที่เพิ่งพบช่วงเหตุปะทะล่าสุด.-สำนักข่าวไทย

ผลถก RBC กัมพูชาเมินกู้ทุ่นระเบิด-ปราบสแกมเมอร์

ตราด 16 ส.ค. – กัมพูชายังไม่ให้ความร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด หลังฝ่ายไทยผลักดันในเวที “RBC ไทย-กัมพูชา” พื้นที่ชายแดนจันทบุรี-ตราด พร้อมการแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ แขวนไว้หารือในการประชุมครั้งต่อไป พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า วันนี้ (16 สิงหาคม 2568) พลเรือโท อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด และพลตรี อุย เฮียง ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 3 ของกองทัพบกกัมพูชา ตลอดจนคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคของทั้งสองฝ่าย จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ (Regional Border Committee) หรือ RBC ณ ประเทศไทย ที่บ้านทะเลภูรีสอร์ท อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เพื่อร่วมกันหารือในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และการดำเนินชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศด้วยสันติวิธี โดยได้ลงนามใน “บันทึกความตกลงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ราชอาณาจักรไทย กับภูมิภาคที่ 3 […]

วัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะแจงดำเนินคดีอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท

กทม. 16 ส.ค.-ไวยาวัจกรฝ่ายกฎหมายวัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะชี้แจงการดำเนินคดีกับอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท ตรวจสอบประวัติย้อนหลัง 10 ปี พบปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาส 240 ครั้ง ด้านเจ้าอาวาสยอมรับเสียใจ ผิดหวังที่ไว้ใจคนใกล้ตัว ไวยาวัจกรวัดฝ่ายกฎหมาย ตั้งโต๊ะชี้แจง กรณีที่มีบุคคลภายในวัดปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาสวัดเครือวัลย์วรวิหาร ไปถอนเงินออกจากบัญชีวัดกว่า 240 ครั้ง ยักยอกเงินกว่า 56 ล้านบาท ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน ปี 67 ที่ผ่านมา ในส่วนการดำเนินการขณะนี้แบ่งเป็น 3 คดี คดีแรก พบการกระทำความผิดคือเมื่อเดือนเมษายน 2567 ทางวัดได้รับบริจาคจากกองทัพเรือเป็นแคชเชียร์เช็ค 1.5 ล้านบาท ลงวันที่ 10 เมษายน 2567 โดยในแคชเชียร์เช็คระบุว่ามอบให้ทางวัด จึงต้องเอาเข้าบัญชีวัด ทางเจ้าอาวาสจึงมีการมอบให้นายกฤษณ์ ที่เป็นไวยาวัจกรวัดในตอนนั้น เอาแคชเชียร์เช็คดังกล่าวไปขึ้นเงินและเอาเข้ายังบัญชีของวัด ต่อมาทางเจ้าอาวาสได้ทวงถามไปยังนายกฤษณ์ เพราะในขณะนั้นจำเป็นจะต้องบูรณะศาสนสถาน แต่นายกฤษณ์ อ้างว่าไม่ว่าง และได้มอบหมายให้นายชัยณรงค์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยไวยาวัจกรในตอนนั้นนำเงินไปเข้าธนาคาร ทางเจ้าอาวาสเลยมีการติดต่อไปยังนายชัยณรงค์ เพื่อทวงถามเรื่องเงิน แต่ก็บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด […]

“มาริษ” นำคณะทูตดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูต 33 ประเทศ ดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ เตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง ให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ หลังจากฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในภาพรวมที่โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะทูตประเทศภาคีอนุสัญญาออตตาวา และตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศ รวม 33 ประเทศ ขึ้นไปสำรวจพื้นที่และดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ ที่อยู่ใกล้แนวปราสาทพระวิหาร เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือสื่อมวลชนที่ขึ้นภูมะเขือ งดถ่ายภาพติดพื้นที่ทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ระหว่างทางขึ้น ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง และเพื่อนบ้านใกล้เคียง ถูกสะเก็ดเสียหายอีก 2 หลัง โดยจุดนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายด้วย เพื่อให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ.-สำนักข่าวไทย