เปิดข้อมูลโครงการจัดซื้อเครื่องบินฝนหลวงที่กมธ. งบฯ เรียกอธิบดีชี้แจง

กรุงเทพฯ 11 ก.พ. – อธิบดีกรมฝนหลวงเตรียมเข้าชี้แจงต่อกมธ. งบประมาณเกี่ยวกับการจัดซื้อเครื่องบิน 2 ลำในวันที่ 15 ก.พ. นี้ ตามที่กมธ. ออกหนังสือเชิญ โดยโครงการจัดซื้อเครื่องบินดังกล่าว ตั้งราคากลางไว้ที่ 1,180 ล้านบาทซึ่งมีการยื่นประกวดราคาไปเมื่อวันที่ 5 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยมีเพียงบริษัทเดียวยื่นประกวดราคา ผ่านไป 1 เดือนกว่า ยังไม่มีการประกาศว่า บริษัทนี้ได้รับคัดเลือกหรือไม่


คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณได้ส่งหนังสือเชิญนายสุพิศ พิทักษ์ธรรม อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตรเข้าชี้แจงเกี่ยวกับโครงการจัดซื้อเครื่องบิน 2 ลำซึ่งนายศรีสุวรรณ จรรยาและนายยศวริศ ชูกล่อมมาร้องเรียนให้คณะกรรมาธิการฯ ตรวจสอบเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2566 โดยนายศรีสุวรรณและนายยศวริศตั้งข้อสังเกตว่า มีการล็อกสเปกให้เครื่องบินของผู้ผลิตเพียงรายเดียวเข้ายื่นประกวดราคาได้หรือไม่ อีกทั้งระบุว่า ส่อพิรุธทุจริต

นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตรตอบรับจะเข้าชี้แจงด้วยตัวเองวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567


สำหรับโครงการจัดซื้อเครื่องบิน 2 ลำดังกล่าว มีระยะเวลาดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 – 2570 วงเงินงบประมาณ 1,314,000,000 บาท กำหนดราคากลางที่ 1,188,770,000 บาท ในเดือนตุลาคม 2566 บริษัทที่เป็นตัวแทนของจำหน่ายเครื่องบินรายหนึ่งเชิญผู้บริหารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรไปดูงานที่โรงงานผลิตเครื่องบินที่สาธารณรัฐเช็ก ต่อมากรมฝนหลวงฯ ออกประกาศเรื่อง ประกวดราคาซื้อเครื่องบินขนาดกลาง 2 ลำ ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2566 โดยมีการประกวดราคาเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2567 มีบริษัทยื่นเสนอราคาเพียง 1 ราย ขณะนี้ยังไม่มีการประกาศว่า บริษัทดังกล่าวได้รับคัดเลือกหรือไม่ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตรกล่าวก่อนหน้านี้ว่า อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาราคา

ทั้งนี้มีรายงานว่า รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะและเงื่อนไขทางเทคนิคถูกปรับลดลงจากเดิม ทำให้ราคากลางในการจัดซื้อต่ำกว่า เครื่องบินขนาดกลางที่กรมฝนหลวงฯ ใช้ปฏิบัติงานมานานคือ Casa ผลิตซึ่งมี 16 ลำ ตัวแทนของผู้ผลิตเครื่องบิน Casa จึงไม่สามารถแข่งขันได้

Casa

เมื่อปรากฏว่า มีผู้ยื่นประกวดราคาเพียงรายเดียว ทำให้ต่อมานายศรีสุวรรณ จรรยากับพวกร้องเรียนทั้งต่อกมธ. งบประมาณและร้องต่อกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ตรวจสอบเนื่องจากตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการกำหนดสเปกเพื่อเอื้อประโยชน์แก่บริษัทรายใดรายหนึ่ง


สำหรับเครื่องบินขนาดกลาง 2 ลำที่อยู่ระหว่างจัดซื้อ มีสเปกใกล้เคียงกับเครื่องบิน LET L-410 NG ที่ผลิตโดยบริษัท Aircraft Industries ของสาธารณรัฐเช็ก

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยได้รับรายงานจากแหล่งข่าวในกรมฝนหลวงและการบินเกษตรในประเด็นที่เป็นข้อกังวลของผู้ปฏิบัติงานในส่วนของนักบินและช่างซ่อมเครื่องบินเกี่ยวกับการจัดซื้อเครื่องบิน 2 ลำครั้งนี้คือ หากได้เครื่องบิน LET L-410 NG จะทำให้เครื่องบินที่ใช้ปฏิบัติการฝนหลวงมีจำนวนแบบเครื่องบินเพิ่มขึ้นอีก โดยก่อนหน้านี้กรมฝนหลวงฯ เพิ่งจัดซื้อเครื่องบินขนาดกลาง 2 เครื่อง (ยังไม่ได้มีการส่งมอบ) โดยได้เป็นเครื่อง SkyCourier ตัวแทนจำหน่ายคือ บริษัท เอ็ม-แลนดาร์ช จำกัด

SkyCourier

การมีเครื่องบินหลายแบบจะทำให้ยากต่อการบริหารจัดการเนื่องจากต้องใช้เครื่องบินต่างแบบมาบินผสมกันในการปฏิบัติงาน ขณะที่จำนวนนักบินไม่เพียงพอ อีกทั้งมีนักบินลาออกและสมัครเข้าใหม่บ่อยครั้ง ปกติแล้วกรมฝนหลวงฯ มีระบบให้นักบินที่มีชั่วโมงบินสูงทำหน้าที่ครูการบินสอนนักบินใหม่ให้เกิดความชำนาญ เมื่อมีเครื่องบินแบบใหม่เข้ามาจะต้องใช้เวลาในการสร้างครูการบินในแบบเครื่องบินนั้นๆ นอกจากนี้ยังจะเกิดความยุ่งยากในการสำรองอะไหล่ เครื่องยนต์ รวมถึงอุปกรณ์การบินเฉพาะแบบ เมื่อเปรียบเทียบกับสายการบินพาณิชย์ส่วนใหญ่จะพบว่า ส่วนใหญ่ใช้เครื่องบินแบบเดียวเพื่อให้สะดวกต่อการบริหารจัดการ

L-410 NG

สำหรับเครื่องบิน LET L-410 NG มีน้ำหนักบรรทุกน้อยกว่าเครื่องบิน Casa ในการขึ้นบินทำฝนหลวงจะต้องใช้สารฝนหลวง 2 ตันต่อ 1 รอบปฏิบัติงาน โดย Casa รับน้ำหนักบรรทุกได้ 1 ตันจึงใช้ 2 ลำต่อ 1 รอบปฏิบัติงาน ระยะเวลาในการบินแต่ละรอบปฏับัติงานประมาณ 1ชั่วโมง 40 นาทีถึง2 ชั่วโมง Casa เติมน้ำมันเต็มถัง บินได้นานประมาณ 5 ชั่วโมง กรณีที่ต้องปฏิบัติงานต่อเนื่องจึงสามารถบินได้ 2 เที่ยว โดยยังมีเชื้อเพลิงสำรองด้วย ขณะที่ LET L-410 NG ซึ่งน้ำหนักบรรทุกน้อยกว่า Casa นั้น จะต้องเพิ่มเที่ยวบินให้ถี่ขึ้นต่อรอบการปฏิบัติงาน หรือหากจะบรรทุกสารฝนหลวงให้เท่ากับ Casa จะต้องลดปริมาณเชื้อเพลิงที่เติม ในการปฏิบัติงานต่อเนื่อง ต้องพักเติมเชื้อเพลิงซึ่งอาจมีผลต่อการช่วงชิงจังหวะที่สภาพอากาศเข้าเงื่อนไขในการทำฝนหลวง

L-410 NG

นอกจากนี้ยังมีรายงาน บริษัทเพียงรายเดียวที่ยื่นประกวดราคาเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2567 ได้เสนอราคาประมาณ 1,200 ล้านบาท แม้จะต่ำกว่าวงเงินงบประมาณที่กำหนดไว้ 1,300 ล้านบาท แต่สูงกว่าราคากลางที่กำหนดไว้ที่ประมาณ 1,180 ล้านบาท จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ยังไม่ประกาศว่า ใครเป็นผู้ชนะการประกวดราคาเนื่องจากมีการร้องเรียนของบริษัทอื่นที่เสียประโยชน์ต่อเข้ายื่นประกวดราคาครั้งนี้ รวมถึงการร้องเรียนของแก็งตบทรัพย์ของนายศรีสุวรรณกับพวก

Cessna Caravan

สำหรับอากาศยานของกรมฝนหลวงฯ มี 2 ประเภทคือ อากาศยานปีกตรึงและอากาศยานปีกหมุน โดยอากาศยานปีกตรึงประกอบด้วย เครื่องบินขนาดเล็กคือ Cessna Caravan 12 เครื่อง เครื่องบินขนาดกลางคือ Casa 16 เครื่อง ขนาดใหญ่คือ CN 2 เครื่อง และเครื่องบินปรับความดันอากาศคือ Super King Air 3 เครื่อง

Super King Air

ส่วนอากาศปีกหมุนหรือเฮลิคอปเตอร์มี BELL 206B3 จำนวน 3 เครื่อง BELL 407GXP 3 เครื่อง BELL 412EP 1 เครื่อง และ AS 350 B2 (ECUREUIL) 1 เครื่อง. – 512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2

กทม. 18 มิ.ย.- ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2 ส่วนหน้าสโมสรกองทัพบก ถ.วิภาวดีรังสิต ขึ้นข้อความให้กำลังใจผ่านจอแอลอีดี ขณะที่เพจโซเชียลกองทัพ แห่โพสต์ข้อความ #ศักดิ์ศรีของทหาร 18 มิ.ย.68 ภายหลังจากที่มีคลิปเสียงการพูดคุยระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา หลุดออกมา และมีการพูดถึง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ว่าอยู่ฝั่งตรงข้าม ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กของหน่วยทหารต่างๆ อาทิ กรมกิจการพลเรือนทหารบก ได้โพสต์ข้อความว่า พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เรื่อง #ศักดิ์ศรีของทหาร 1. ทหาร คือ ผู้ที่ได้รับเกียรติอย่างสูงจากประชาชนทั้งชาติ ให้เป็นสุภาพบุรุษ ถืออาวุธเพื่อป้องกันประเทศ 2. ทหาร เป็นผู้เสียสละประโยชน์สุขส่วนตัว เพื่อความผาสุกของประชาชนและความอยู่รอดของชาติ 3. ทหาร คือ ผู้ที่รักและบูชาเกียรติยศมากกว่าเงิน นอกจากนี้ เพจ Smart Soldiers Strong […]

“อนุทิน” บอก “จบแล้วครับนาย” ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู

กทม. 18 มิ.ย.-“อนุทิน” สั่ง จนท.ขนของออกจากกระทรวง บอก “จบแล้วครับนาย” ไม่ต้องคุยนายกฯ หลัง “หมอมิ้ง” ยื่นไพ่ใบสุดท้าย ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู เตรียมซ้อมกับ “ไอซ์ รักชนก” เวลา 13.35 น. วันที่ 18 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังนายกฯ ระบุว่ายังไม่แจ้งเงื่อนไขการปรับ ครม. ว่า ตนยังไม่ได้ยิน ซึ่งเมื่อวานนี้ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเราก็บอกท่าทีเราไปแล้ว เมื่อถามว่า การขนของออกจากห้องทำงาน ถือเป็นการปิดประตูเจรจาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ ชัดเจนแล้วว่า เราคงไม่ได้เปลี่ยนอะไร และ นพ.พรหมินทร์ ได้ย้ำเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยว่าเป็นแบบนี้ เมื่อถามต่อว่า ต้องคุยกับนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายกฯ และเมื่อวาน […]

“ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงฉบับเต็ม 17 นาที

กัมพูชา 18 มิ.ย. – “ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงคุย “แพทองธาร” ฉบับเต็ม 17 นาที เผยบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส ส่งต่อให้บุคคลอื่นราว 80 คน เว็บไซต์ขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า “นายฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชาเปิดเผยผ่านสื่อโซเชียล มีเนื้อหาระบุว่า “เมื่อเย็นวันที่ 15 มิถุนายน ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นเวลา 17 นาที 6 วินาที โดยมีนายเคลียง ฮวต รองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา ซึ่งตามปกติแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือตีความหมายผิดในเรื่องที่เป็นทางการ จึงจำเป็นต้องทำการบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ภายในของกัมพูชาด้วย และจากนั้นเป็นต้นมา ตนเอง ก็ได้แชร์เทปเสียงสนทนานี้ให้กับบุคคลอื่นๆ ราว 80 คน ที่รวมถึงสมาชิกคณะกรรมการถาวรของพรรค คณะทำงานวุฒิสภา หน่วยงานเฉพาะกิจด้านการต่างประเทศ หน่วยงานด้านการศึกษาและการเข้าถึงกลุ่มกิจการชายแดน และสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งในจำนวนคนเหล่านี้อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีบางคนที่ไม่พอใจนายกรัฐมนตรีของไทย ฮุน เซนโพสต์ต่อว่า “แต่หลังจากการสนทนาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ผู้นำไทยกลับออกมากล่าวหาผู้นำกัมพูชาอย่างเปิดเผยว่าทำงานการเมืองอย่างไม่เป็นมืออาชีพ และขับเคลื่อนประเด็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊ก […]

ข่าวแนะนำ

กต. ทำหนังสือประท้วงกัมพูชากรณีปล่อยคลิปเสียงหลุด

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – กระทรวงการต่างประเทศ ส่งหนังสือประท้วงกรณีคลิปเสียงบทสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีไทย-ฮุน เซน ย้ำผิดมารยาทและผิดหลักปฏิบัติสากล และทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงพัฒนาการความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา หลังจากที่ได้มีการเปิดเผยบทสนทนาส่วนตัวระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฯ ฮุนเซน ประธานวุฒิสภา ของกัมพูชา ต่อสาธารณชนวานนี้ (18 มิ.ย.68) ว่า การกระทำดังกล่าวขัดต่อจรรยาบรรณ และมารยาทพื้นฐานของการปฏิสัมพันธ์ระหว่างรัฐที่ไม่อาจยอมรับได้ ถือเป็นการทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน ซึ่งส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ และความพยายามที่จะใช้กลไกทวิภาคีในการแก้ไขปัญหาของทั้งสองฝ่ายตามแนวปฏิบัติสากล และการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี พร้อมเน้นย้ำว่า ไม่ว่าผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะเป็นใคร ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคือหัวหน้ารัฐบาลของประเทศ ที่ควรได้รับการเคารพ และให้เกียรติ ตามแนวปฏิบัติสากลในการเจริญสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศจึงได้ออกหนังสือประท้วงกรณีดังกล่าว ผ่านช่องทางทางการทูต โดยได้เชิญให้เอกอัครราชทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทย มารับหนังสือดังกล่าว เพื่อแจ้งว่าการกระทำข้างต้นของทางกัมพูชาเป็นการกระทำที่ไม่สามารถยอมรับได้ ถือว่าผิดมารยาทพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างรัฐ เป็นการทำลายความไว้ใจระหว่างประเทศเพื่อนบ้านอย่างร้ายแรง ซึ่งการออกหนังสือดังกล่าวเป็นไปตามแนวปฏิบัติทางการทูต มีความรอบคอบ โปร่งใส มีวุฒิภาวะ ใช้สันติวิธี และดำเนินการอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและการดูแลคนไทยที่อยู่ในกัมพูชาแล้ว พร้อมยืนยันว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการดำเนินการทางการทูต […]

นายกฯ แถลงขอโทษคนไทยปมคลิปเสียงหลุดคุย “ฮุน เซน”

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – นายกฯ แถลงขอโทษคนไทยทุกคน กรณีคลิปเสียงหลุดคุย “ฮุน เซน” เป็นเรื่องไม่น่าเกิดขึ้น ได้คุย มทภ.2 และทำความเข้าใจกับกองทัพ โดยได้อธิบายถึงเจตนาที่แท้จริง ยอมรับไม่ทราบจริงๆ ว่ามีการอัดคลิปเผยแพร่ ย้ำวันนี้ไทยต้องร่วมมือผนึกกำลัง ปกป้องอธิปไตย ทุกภาคส่วนสรุปว่า “เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าพบ เพื่อรายงานผลการประชุมของศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) รวมถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ภายหลังเกิดกรณีคลิปเสียงการโทรศัพท์เจรจาระหว่าง น.ส.แพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ว่าได้เชิญหน่วยงานด้านความมั่นคงมาพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ก่อนอื่นต้องขออภัยพี่น้องประชาชนและคนไทยทุกคนในเรื่องกรณีที่มีคลิปเสียงหลุดออกมาระหว่างที่ตนคุยกับผู้นำกัมพูชา ความจริงเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ต้องขออภัยพี่น้องประชาชนที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจ ได้มีโอกาสคุยกับเจ้าหน้าที่และกองทัพ อธิบายถึงเหตุผลว่าเป็นเพียงแท็กติกของการสื่อสารที่จะเจรจาต่อไปว่าเราจะต้องแสดงความเข้าใจก่อน เพื่อจะคุยถึงต่อไป เป็นการต่อรองเพื่อให้การปะทะนั้นหยุดลง ด้วยความตั้งใจที่แท้จริงว่าต้องการจะให้สถานการณ์สงบสุขเท่านั้นเอง และไม่ทราบจริงๆ ว่าจะมีการอัดคลิปและเผยแพร่เช่นนี้ ก็ได้ทำความเข้าใจกับทางกองทัพเรียบร้อยแล้ว และรับฟังว่าวันนี้เราต้องร่วมมือกันผนึกกำลังเอาไว้ คนไทยทุกคนต้องผนึกกำลังเอาไว้ วันนี้ทุกภาคส่วนได้สรุปว่ากรณีดังกล่าวเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ ไม่ใช่ภัยคุกคามเล็กๆ ของประชาชนหรือของอะไร ที่จะพูดถึงว่ารัฐบาลหรือกองทัพต้องมาสู้กัน วันนี้เราไม่มีเวลาที่จะมาทะเลาะกันเองแบบนี้ เราต้องปกปกอธิปไตย ยินดีสนับสนุนกองทัพทุกรูปแบบ และวันนี้การที่เราจะทำอะไรหรือตัดสินใจในเรื่องต่างๆ เราต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยที่อยู่ในกัมพูชาด้วย รวมทั้งประชาชนตรงชายแดน […]

ผบ.ทบ. แสดงจุดยืนยึดมั่น ปชต. ย้ำเวลานี้ “คนไทยต้องสามัคคี”

กองทัพบก 19 มิ.ย. – ผบ.ทบ. แสดงจุดยืนยึดมั่นระบอบประชาธิปไตย พร้อมทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ ย้ำสถานการณ์บ้านเมืองในเวลานี้ “คนไทยต้องสามัคคี” พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันที่ปรากฏข้อมูลหรือการแสดงความคิดเห็นต่างๆ ที่หลากหลายและส่งผลกระทบต่อสังคมเป็นบริเวณกว้าง พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ในประเทศที่เกิดขึ้นโดยขอให้คนไทยได้เชื่อมั่นในกองทัพบก ที่มีจุดยืนในการยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และพร้อมทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างสุดความสามารถ ภายใต้กลไกที่มีอยู่ ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบกได้เน้นย้ำว่า หากพิจารณาอย่างรอบด้านแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในห้วงเวลานี้คือ “คนไทยต้องสามัคคี” ร่วมกันปกป้องอธิปไตยจากผู้ไม่หวังดี โดยยึดถือผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ-313 .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ โพสต์สำนวนก่อนลบทิ้ง เตรียมเข้าทำเนียบฯ

ทำเนียบ 19 มิ.ย.- นายกฯ โพสต์สำนวน “ผู้คน ไม่ได้แกล้งเศร้า แต่แกล้งโอเค” ก่อนลบทิ้ง ยกเลิกประชุมทีมคณะที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลก เข้าทำเนียบ เมื่อเวลา 08.15 น. ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ช่วงเช้าวันนี้ (19 มิ.ย.) พบว่า มีการแชร์สตอรี่อินสตาแกรม เป็นสำนวนภาษาอังกฤษ ระบุว่า “People don’t fake depression.They fake being okay. Remember that. Be kind.” ซึ่งมีความหมายว่า “คนเราไม่ได้แกล้งเศร้า แต่แกล้งว่าตัวเองโอเคต่างหาก, จำไว้นะ จงมีเมตตา” พร้อมซาวด์ดนตรี Another love อย่างไรก็ตามในเวลา 08.54 น. นายกรัฐมนตรี ได้ลบโพสต์ดังกล่าว ออกจากสตอรี่อินสตราแกรม ทำให้ไม่มีข้อความปรากฏแล้ว ขณะเดียวกัน ยังรายงานอีกว่า วันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ยกเลิกภารกิจ […]