ไฟเขียวผู้ค้าปุ๋ยยื่นปรับราคาได้ตามต้นทุนจริง ป้องกันปุ๋ยขาดตลาด

นนทบุรี 29 มี.ค.-อธิบดีกรมการค้าภายใน ไฟเขียวผู้ค้าปุ๋ยยื่นขอปรับราคาได้ตามต้นทุนที่แท้จริง ป้องกันปุ๋ยขาดตลาด หลังประชุม​ 3 สมาคมปุ๋ย ​รับฟังผลกระทบต้นทุนแพงจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน และอีกหลายปัจจัย ย้ำเพื่อเร่งหาแนวทางเตรียมความพร้อมรองรับฤดูกาลเพาะปลูกใหม่​นี้


นายวัฒนศักดิ์​ เสือเอี่ยม​ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับ​ 3 สมาคม​ผู้ผลิต​ ผู้จำหน่ายและนำเข้าปุ๋ยเคมี​ ประกอบด้วย​ สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย สมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย และสมาคมคนไทยธุรกิจเกษตร เพื่อประเมินปริมาณปุ๋ยเคมี และหาแนวทางเตรียมความพร้อมสำหรับฤดูกาลเพาะปลูกเดือนพฤษภาคม​นี้ ทั้งนี้ ปริมาณปุ๋ยที่มีอยู่ในขณะนี้​ ซึ่งเอกชนยืนยันว่ามีเพียงพอต่อการผลิตใน 2-3 เดือนนี้​ และจะมีการสั่งนำเข้าเพิ่มเติมเป็นระยะ​ ตั้งแต่ปุ๋ยสูตรหลัก​ เช่น ยูเรีย​โปรแตส และฟอสเฟส เพื่อเตรียมไว้ให้เพียงพอ

อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตระบุว่า การนำเข้าปุ๋ยขณะนี้มีอุปสรรคจากสงครามยูเครนและรัสเซีย ทำให้ต้องหาปุ๋ยจากแหล่งใหม่ทดแทน ขณะเดียวกัน ต้นทุนในด้านต่างๆ ก็สูงขึ้นด้วย เพราะหลายประเทศมีการสำรองปุ๋ยไว้ในประเทศ เพื่อความมั่นคงทางอาหาร​


นอกจากนี้ ประเทศอินเดียก็เตรียมเปิดประมูลซื้อปุ๋ย ยิ่งเป็นปัจจัยกดดันราคาปุ๋ยสูงขึ้นในตลาดโลก​ ดังนั้น กรมการค้าภายในจะพิจารณาการปรับราคาปุ๋ย เพื่อให้สะท้อนต้นทุน และป้องกันปุ๋ยขาดแคลน ซึ่งเอกชนสามารถยื่นขอปรับราคามาได้ โดยกรมการค้าภายในจะพิจารณาจาก​ 3 ปัจจัย คือ เกษตรกรไม่แบกรับภาระเกินไป ผู้ประกอบการสามารถประกอบธุรกิจอยู่ได้ และต้นทุนที่เกิดขึ้นไม่กระทบต่อประชาชน และหากพบว่ามีผู้แทนจำหน่ายรายใดฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาปุ๋ยก่อนที่กรมการค้าภายในอนุมัติ สมาคมฯ จะตัดจากการเป็นผู้แทนจำหน่ายทันที

นายเทพวิทย์​ เตียวสุรัตน์กุล​ อุปนายกสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย ​กล่าวว่า สถานการณ์ราคาปุ๋ยปรับตัวสูงขึ้นมาก ​โดยราคาปุ๋ยยูเรียจากตะวันออกกลาง​ ราคาเอฟโอบีไม่รวมค่าเรือ อยู่ที่ตันละ ​960-1,000 ดอลลาร์สหรัฐ ปุ๋ย​ 18-46-0 ที่นำมาผลิตวัตถุดิบแม่ปุ๋ย​ NPK ตันละ​ 1,100-1,200 ดอลลาร์สหรัฐ และ​สูตร ​0-0-60 โปแตส ​อยู่ที่ตันละ 950-1,000 ดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ การอนุญาตให้ปรับราคาตามต้นทุน ทำให้เอกชนมีความมั่นใจในการนำเข้าปุ๋ยมากขึ้น และเชื่อว่าปุ๋ยจะไม่ขาดตลาด ดังนั้น ประเมินว่า ในช่วงฤดูกาลเพาะปลูก 4 เดือน​ พฤษภาคม-สิงหาคมนี้ ความต้องการใช้ปุ๋ยจะอยู่ที่ ​2.5 ล้านตัน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สั่งระดมสรรพกำลังแก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5

นายกฯ ไม่นิ่งนอนใจปัญหา PM 2.5 วิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากดาววอส สั่งการทุกหน่วยงานระดมสรรพกำลังแก้ปัญหา ทำทุกมาตรการให้เกิดผลโดยเร็ว

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่