กรุงเทพฯ 25 มี.ค. -บางจากฯเปิดตัว “โครงการ Bangchak 100x Climate Action : ทุกคนช่วยได้”ประกาศเป็น “ผู้บริหารไร้คาร์บอน” .ในขณะที่ กฟผ. มุ่งเป้าลดก๊าซเรือนกระจก เพิ่มพื้นที่ปลูกป่า เชิญชวนประชาชนร่วมโครกงารล้างแอร์ช่วยชาติ
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มบริษัทบางจาก นำคณะผู้บริหารร่วมเปิดตัว “โครงการ Bangchak 100x Climate Action : ทุกคนช่วยได้” ของกลุ่มบางจากฯ เพื่อรณรงค์เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและเชิญชวนให้ทุกคนมีส่วนช่วยบรรเทาภาวะโลกร้อน เริ่มต้นจากขบวนรณรงค์การเดินทางโดยใช้พลังงานน้อยที่สุด ด้วยมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า Winnonie และจักรยาน จากโรงกลั่นบางจากสู่สำนักงานใหญ่ อาคารเอ็ม ทาวเวอร์ พร้อมทั้งประกาศเจตจำนงเป็น“คณะผู้บริหารไร้คาร์บอน (Carbon Free Management Team)” องค์กรแรกในไทย
กลุ่มบางจากฯ ได้ตั้งเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2030 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2050 และพนักงานมีส่วนร่วม ทั้งปรับเปลี่ยนรูปแบบการเดินทางลดใช้พลังงาน , การแยกขยะและนำขยะกำพร้ามาส่งมอบให้กับ N15 Technology , การเพิ่มพื้นที่สีเขียว และลดการใช้พลังงาน ผ่านการร่วมกิจกรรม 60+ Earth Hour ปิดไฟ 1 ชั่วโมง ช่วยลดโลกร้อน ในวันที่ 26 มีนาคม 2565 ซึ่งเป็นโครงการร่วมมือระดับนานาชาติที่รณรงค์และกระตุ้นให้ประชาชน องค์กร และหน่วยงานต่าง ๆ ตระหนักถึงการมีส่วนร่วมบรรเทาปัญหาภาวะโลกร้อน
นายประเสริฐศักดิ์ เชิงชวโน รองผู้ว่าการพัฒนาโรงไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ส่งเสริมการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกในภาคพลังงาน เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission)ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกมาโดยตลอด นับตั้งแต่ปี 2556 ถึงปัจจุบัน กฟผ. สามารถลดก๊าซเรือนกระจกในระดับมาตรการจากการดำเนินงานได้มากกว่า 42 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า โดย กฟผ. ได้เดินหน้านโยบายมุ่งสู่ Carbon Neutrality ภายในปี ค.ศ. 2050 เพื่อตอบสนองนโยบายของประเทศ ผ่านการเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดที่ติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานเพิ่มเสถียรภาพการผลิตไฟฟ้า ศึกษาเทคโนโลยีการกักเก็บคาร์บอนมาใช้กับโรงไฟฟ้า และพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะเพื่อเพิ่มความมั่นคงของระบบผลิตไฟฟ้าของประเทศ นอกจากนี้ยังได้บูรณาการงานด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมตามกรอบแนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืนร่วมกับพันธมิตร ดำเนินโครงการปลูกป่า 1 ล้านไร่ ภายในปี 2574 เพื่อเป็นแหล่งดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถดูดซับคาร์บอนฯ ได้ถึง 1.2 ล้านตันต่อปี
ล่าสุด กฟผ. จัดแคมเปญ “Save Energy for ALL ร่วมใจประหยัดพลังงาน ผ่านวิกฤตไปด้วยกัน” เชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมมือร่วมใจประหยัดพลังงานและใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งประชาชนจะสามารถประหยัดพลังงานได้ถึง 1.3 ล้านหน่วยต่อปี ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ 804 ตันต่อปี โดยแบ่งเป็น 2 กิจกรรม คือ
• ล้างแอร์ช่วยชาติ (Clean your air, Clean your life) กฟผ. ร่วมกับสมาคมผู้ค้าเครื่องปรับอากาศไทยให้บริการล้างแอร์แก่ประชาชนทั่วประเทศฟรีจำนวน 10,000 สิทธิ์ จำกัดครัวเรือนละ 1 สิทธิ์ต่อการล้างแอร์ฟรี 1 เครื่อง โดยต้องเป็นแอร์แบบติดผนังขนาดไม่เกิน 24,000 บีทียู เพียงลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่านทาง www.egat.co.th ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2565 เป็นต้นไป การล้างแอร์ทุก 6 เดือน สามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้ถึง 10%
• ส่งเสริมการเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง กฟผ. ร่วมกับห้างสรรพสินค้าและผู้ค้าปลีก มอบส่วนลด 500 บาท เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 มูลค่า 1,000 บาท ขึ้นไป จำนวน 10,000 สิทธิ์ เพียงแสดงบัตรประชาชน ณ จุดขายในร้านค้าที่เข้าร่วมกิจกรรม และแสดงหลักฐานการเพิ่มเพื่อนใน LINE@EGAT หรือ Facebook : กฟผ. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 30 มิถุนายน 2565
กฟผ.ยังแนะนำว่า การปรับพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้ายังสามารถช่วยลดค่าไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้น เช่น เลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ติดดาว ปิดสวิตซ์และถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทันทีเมื่อเลิกใช้งาน เลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าให้เหมาะสมกับการใช้งานและขนาดของห้อง ปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้สูงขึ้น หรือไม่ต่ำกว่า 26 องศาเซลเซียส สวมใส่เสื้อเชิ้ตหรือเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดีแทนการสวมเสื้อสูท ลดการเปิด-ปิดประตูตู้เย็นทิ้งไว้นานเกินความจำเป็นและไม่ใส่ของแน่นเกินไป ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและประหยัดไฟฟ้าได้มากขึ้นอีกด้วย-สำนักข่าวไทย