กรุงเทพฯ 21 มี.ค.- กรมควบคุมมลพิษหารือกับหลายหน่วยงาน เตรียมออกมาตรการห้ามร้านรับซื้อของเก่ารับซื้อทองแดงจากการเผาและห้ามเผาสายไฟในที่โล่งเด็ดขาดเนื่องจากการเผาทำให้มีสารก่อมะเร็งและฝุ่น PM2.5 โดยหวังแก้ปัญหามลพิษในชุมชน
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศเปิดเผยว่า ได้หารือกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) อบต. และเทศบาลในพื้นที่เสี่ยงจังหวัดกาฬสินธุ์ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี สมาคมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อบจ. เทศบาล อบต.) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมซาเล้งและร้านรับซื้อของเก่า ผู้ประกอบกิจการร้านรับซื้อของเก่า ศูนย์รับซื้อทองแดง โรงหลอมและโรงงานรีไซเคิลทองแดงเพื่อกำหนดมาตรการแก้ปัญหามลพิษทางอากาศในชุมชนจากการเผาสายไฟเพื่อคัดแยกทองแดงแล้วไปจำหน่ายที่ร้านรับซื้อของเก่า
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ออกติดตามการประกอบกิจการถอดแยกซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อเอาวัสดุมีค่าไปขายในหลายจังหวัด ยังพบการเผาซากผลิตภัณฑ์และเศษวัสดุที่เหลือจากการคัดแยกเช่น สายไฟ จอภาพแอลซีดี เศษพลาสติก โฟมฉนวนตู้เย็นซึ่งก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศได้แก่ ฝุ่นละออง PM2.5 ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ก๊าซไฮโดรเจนคลอไรด์ ก๊าซฟอสจีน สารไดออกซิน โดยหลายชนิดเป็นสารก่อมะเร็ง ทำให้ส่งผลกระทบต่อผู้ถอดแยกและประชาชนในชุมชนที่จะได้รับก๊าซพิษหรือฝุ่นละอองขนาดเล็กเข้าสู่ร่างกาย หากรับสัมผัสต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานจะทำให้เป็นอันตรายต่อร่างกาย
นายอรรถพลกล่าวต่อว่า ชาวบ้านมักรวบรวมสายไฟขนาดเล็กในซากผลิตภัณฑ์ไปเผาในบ่อขยะหรือตามที่รกร้าง จากนั้นนำทองแดงที่คัดแยกได้ขายให้ร้านรับซื้อของเก่าในพื้นที่ ซึ่งจะส่งต่อไปยังร้านรับซื้อของเก่ารายใหญ่ ก่อนขายให้แก่โรงหลอมและโรงงานรีไซเคิลทองแดง ดังนั้นรัฐบาลและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ จึงได้เดินหน้าจัดการปัญหาในเรื่องนี้ด้วยการจัดการแหล่งกำเนิดมลพิษ
ที่ประชุมมีข้อเสนอดังนี้
1. อปท. ออกข้อบัญญัติท้องถิ่นเพื่อควบคุมการเผาในที่โล่งและให้ประกอบกิจการถอดแยกอย่างถูกต้อง
2. ให้ อปท. รวมชุมชนและผู้ประกอบการขนาดเล็กจัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชนและสนับสนุนเครื่องจักรบดย่อยสายไฟเพื่อใช้คัดแยกทองแดงแทนการเผา
3. ให้มีการประชาสัมพันธ์ถึงอันตรายที่เกิดจากการเผาสายไฟและขยะอิเล็กทรอนิกส์
4. ห้ามการเผาสายไฟในที่โล่งอย่างเด็ดขาด
5.ให้ผู้ประกอบกิจการร้านรับซื้อของเก่าและโรงงานรีไซเคิลทองแดงส่งขายทองแดงที่ได้จากการเผาที่รับซื้อหรือมีครอบครองไว้ภายใน 60 วัน และให้ยกเลิกการรับซื้อทองแดง ที่ได้จากการเผาอย่างเด็ดขาดต่อไป
6. ผู้ที่มีสายไฟขนาดเล็กให้ระบายไปสู่โรงงานหลอมทองแดง
หลังจากนี้จะตรวจบังคับใช้กฎหมายต่อไป โดยผู้เผาสายไฟจะมีความผิดในหลายกฎหมายได้แก่ พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ และผู้ที่รับซื้ออาจมีความผิดที่สนับสนุนการกระทำความผิด ซึ่งจะมีโทษทั้งจำคุกหรือการปรับ
ทั้งนี้ ทุกภาคส่วนเห็นด้วยและพร้อมให้ความร่วมมือตามแนวทางที่เสนอและจะร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) เพื่อแสดงเจตนารมย์ร่วมกับกรมควบคุมมลพิษที่จะป้องกันและควบคุมการคัดแยกทองแดงจากสายไฟให้เป็นไปอย่างถูกต้อง ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม.-สำนักข่าวไทย