ธปท.เผยผลสำรวจ ก.พ.65 โอไมครอนกระทบภาคธุรกิจยังไม่ฟื้นตัว

กรุงเทพฯ 1 มี.ค. – ธปท.เผยผลสำรวจภาคธุรกิจ ก.พ.65 โอไมครอนทำธุรกิจทรงตัว มองอสังหาฯ-บริการ ยังไม่ขึ้นราคา แม้ต้นทุนขยับขึ้น เนื่องจากแข่งขันสูง กำลังซื้อยังไม่ฟื้นตัว ขณะที่ความเชื่อมั่นค้าปลีกดีขึ้น จากโปรโมชันส่งเสริมการขายและมาตรการรัฐ


ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยผลสำรวจเรื่องผลกระทบจากไวรัส COVID-19 ต่อภาคธุรกิจไทย (BSI COVID) และผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีก (Retailer Sentiment Index : RSI) เดือนกุมภาพันธ์ 2565 โดยสำรวจความคิดเห็นผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่ และเอสเอ็มอี จำนวน 208 ราย ระหว่าง วันที่ 1-23 กุมภาพันธ์ 2565 สามารถสรุปสาระสำคัญของแต่ละผลสำรวจได้ดังนี้

ผลสำรวจเรื่องผลกระทบจากไวรัส COVID-19 ต่อภาคธุรกิจไทย (BSI COVID) พบว่าในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 การฟื้นตัวของธุรกิจโดยรวมทรงตัวใกล้เคียงกับเดือนก่อนหน้า โดยกำลังซื้อที่อ่อนแอยังคงเป็นปัจจัยฉุดรั้งการฟื้นตัวของภาคธุรกิจ ทั้งนี้ การฟื้นตัวในภาคการผลิตต้องเผชิญอุปสรรคเกี่ยวกับ Supply disruption เพิ่มขึ้น ขณะที่อุปสรรคของธุรกิจนอกภาคการผลิตยังคงเป็นกำลังซื้อที่อ่อนแอ และความกังวลเกี่ยวกับการระบาดระลอกใหม่ อย่างไรก็ดี ธุรกิจส่วนใหญ่เห็นว่า ผลกระทบต่อรายได้ของธุรกิจจากการระบาดของสายพันธุ์ Omicron น้อยกว่าหรือใกล้เคียง เมื่อเทียบกับการระบาดของสายพันธุ์ Delta


การฟื้นตัวของระดับการจ้างงานปรับลดลงจากเดือนก่อนเล็กน้อยจากธุรกิจนอกภาคการผลิตเป็นสำคัญ ทั้งในด้านจำนวนและรายได้แรงงาน โดยเฉพาะการค้ายานยนต์ เนื่องจากเดือนก่อนหน้า มีการเร่งส่งมอบสินค้า หลังจากมีการจัดงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ในเดือนธันวาคม 2564 สำหรับสภาพคล่องของธุรกิจปรับลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อน สะท้อนจากสัดส่วนของบริษัทที่มีสภาพคล่องเพียงพอรองรับการดำเนินธุรกิจมากกว่า 6 เดือนปรับลดลง และสัดส่วนบริษัทที่สภาพคล่องน้อยกว่า 3 เดือนปรับเพิ่มขึ้น

ผู้ประกอบการมองว่า ภายใต้ภาวะต้นทุนที่เพิ่มขึ้นตามราคาวัตถุดิบ ธุรกิจส่วนใหญ่ยังไม่มีแนวโน้มปรับขึ้นราคาสินค้าภายใน 12 เดือนข้างหน้า เนื่องจากการแข่งขันสูง และกำลังซื้อยังไม่ฟื้นตัว โดยเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจในภาคบริการ นอกจากนี้ ธุรกิจส่วนใหญ่ไม่มีปัญหาขาดแคลนแรงงาน และยังไม่ปรับเพิ่มค่าจ้าง แม้ว่าบางส่วนจะขาดแคลนแรงงาน แต่จะเลือกจ้าง Part-time หรือเพิ่มชั่วโมงการทำงานของแรงงานเดิมมากกว่า

ขณะที่ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีก (RSI) เดือนกุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งจัดทำร่วมกับสมาคมผู้ค้าปลีกไทย พบว่าความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีก ทั้งปัจจุบันและอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับดีขึ้น จากการทำโปรโมชันส่งเสริมการขายของร้านค้า และมาตรการรัฐ ขณะที่ความกังวลต่อการแพร่ระบาดสายพันธุ์ Omicron ที่เร่งขึ้นในช่วงครึ่งหลังของเดือน และกำลังซื้อที่ฟื้นตัวช้า ส่งผลต่อการฟื้นตัวของความเชื่อมั่นฯ ในระยะ 3 เดือนข้างหน้าให้ปรับเพิ่มขึ้นไม่มากนัก


ผู้บริโภคมีแนวโน้มใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน โดยเฉพาะในช่วงครึ่งแรกของเดือนที่มีโครงการช้อปดีมีคืน ซึ่งสินค้าอุปโภค-บริโภคได้รับความนิยมสูง อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคยังกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดฯ และกำลังซื้อที่ฟื้นตัวช้า สะท้อนจากการเลือกซื้อสินค้าที่มีโปรโมชัน และขนาดสินค้าที่เล็กลง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ครู-ผู้ปกครอง ห่วงยกเลิก “ทรงผมนักเรียน” กระทบระเบียบวินัย

ครูและผู้ปกครองใน จ.ขอนแก่น แสดงความกังวล หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งยกเลิกกฎกระทรวง ข้อกำหนด “ผมทรงนักเรียน” ห่วงการปล่อยเสรีอาจกระทบต่อระเบียบวินัยและความเรียบร้อยของนักเรียน ขณะที่นักเรียนจำนวนมากพอใจคำตัดสินดังกล่าว

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุด

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุดจากร้านแอร์ กลางเมืองสมุทรสงคราม เชื่อคนร้ายมีความรู้เรื่องแอร์ เพราะเลือกหยิบชุดเดียวกัน

นายกฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย บนเวที “ITB Berlin 2025”

นายกฯ ชู soft power ไทย บนเวทีท่องเที่ยวโลก “ITB Berlin 2025” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัด มุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

Trudeau tells Trump that tariffs are 'very dumb,' says Canada striking back

ประเทศคู่ค้าตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

ออตตาวา 5 มี.ค.- ประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทั้งแคนาดา เม็กซิโก และจีน ออกมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทั้งนี้หลังจากมาตรการของสหรัฐที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นมาตรการที่โง่เขลาอย่างยิ่ง และแคนาดาได้มีมาตรการโต้กลับด้วยการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทันทีกับสินค้าของสหรัฐมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 701,115 ล้านบาท) และจะเก็บในอีก 21 วันกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)   ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ในแคนาดาต่างพร้อมใจกันเก็บเหล้าและไวน์ที่นำเข้าจากสหรัฐออกจากชั้นวางและยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทน  ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า จะเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แทนวัตถุดิบที่เคยนำเข้าจากสหรัฐ  แต่วัตถุดิบจำเป็นบางอย่างต้องนำเข้าจากเยอรมนี ส่วนกระป๋องอลูมิเนียมสำหรับบรรจุเบียร์ที่เคยนำเข้าจากสหรัฐเพราะแคนาดาไม่ได้ผลิตนั้น จะเปลี่ยนไปซื้อจากจีนแทนซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้านเม็กซิโก ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแถลงว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐไม่มีความชอบธรรม เพราะที่ผ่านมาเม็กซิโกให้ความร่วมมือกับสหรัฐมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องผู้อพยพและยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลเม็กซิโกจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ  โดยจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้อีกครั้งในวันที่ 9 […]