กรุงเทพฯ 17 ก.พ.-กรมควบคุมมลพิษขยายผลตรวจสอบแหล่งล้างถังสารเคมีโดยไม่ได้รับอนุญาต เบื้องต้นพบมีหลายพื้นที่ในภาคอีสาน ส่วนที่เข้าตรวจสอบแล้วใน อบต.หนองหญ้าขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา กำชับสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 11 ติดตามตรวจสอบและแก้ไขคุณภาพน้ำที่ความสกปรกและโลหะหนักตกค้างเกินมาตรฐาน
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า คพ. ตรวจสอบแหล่งประกอบการล้างถังสารเคมีหลายพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือพบว่า มีรูปแบบการทำเป็นครัวเรือน ซึ่งต้องติดตามว่า ส่งผลกระทบให้เกิดการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมหรือไม่ ดังเช่นในพื้นที่ อบต.หนองหญ้าขาว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมาซึ่งผู้ประกอบการที่มีถึง 13 รายนำถังสารเคมีมาล้างในชุมชน ทำให้ประชาชนในหมู่บ้านและพื้นที่ใกล้เคียงไม่สามารถใช้น้ำในคลองอีสานเขียวและอ่างเก็บน้ำบ้านซับชุมพลได้
ล่าสุดสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 11 รายงานว่า นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาระงับกิจการของผู้ประกอบการล้างถังที่ไม่มีใบอนุญาตแล้ว ทั้งยังบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน
นายอรรถพลกล่าวว่า ผู้ประกอบการยื่นขออนุญาตจดทะเบียนพาณิชย์ที่อบต.หนองหญ้าขาว แต่ยังไม่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพภายใต้พ.ร.บ. การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 เนื่องจากข้อบัญญัติของอบต.หนองหญ้าขาว ว่าด้วยกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพที่ประกาศบังคับใช้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 ยังไม่ครอบคลุมถึงการประกอบการกิจการล้างถังสารเคมี
สำหรับลักษณะการประกอบกิจการเป็นกิจการในครัวเรือน ถังสารเคมีที่นำมาล่างส่วนใหญ่เป็นถังขนาด 200 และ 1,000 ลิตร รับซื้อมาจากจังหวัดสมุทรสาคร สมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร ลพบุรี และสระบุรี ซึ่งบางรายเป็นถังที่เคยบรรจุของเสียอันตราย หรือบรรจุสารเคมีอันตราย เช่นมีฤทธิ์กัดกร่อน เมื่อล้างแล้วนำไปจำหน่ายต่อไป โดยน้ำทิ้งจากการล้างสารเคมีถูกรวบรวมพักไว้ในบ่อดิน ถังพลาสติก และบ่อซีเมนต์
ผลการตรวจสอบตัวอย่างน้ำในบ่อกักน้ำทิ้งพบว่า มีค่าความสกปรกในรูปบีโอดี 6,630 มิลลิกรัมต่อลิตรและซีโอดี 26,800 มิลลิกรัมต่อลิตร (มก./ล.) เมื่อเทียบเคียงกับมาตรฐานควบคุมการระบายน้ำทิ้งจากโรงงาน พ.ศ. 2560 ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมที่กำหนดมาตรฐานค่าบีโอดีไม่เกิน 20 มก./ล. และซีโอดีไม่เกิน 120 มก./ล. ซึ่งค่าที่ตรวจพบเกินมาตรฐานดังกล่าว
สำหรับการตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำคลองอีสานเขียว 4 จุด ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่อยู่ใกล้เคียงสถานประกอบกิจการล้างถังบริเวณต้นน้ำก่อนไหลผ่านบริเวณพื้นที่ประกอบการ เมื่อเปรียบเทียบกับมาตรฐานคุณภาพแหล่งน้ำผิวดินตามประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 (พ.ศ.2537) พบว่า มีคุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์ดี จัดอยู่ในแหล่งน้ำผิวดินประเภทที่ 2 ส่วนคลองอิสานเขียวบริเวณใกล้กับสถานประกอบการล้างถัง มีคุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์พอใช้ถึงเสื่อมโทรมมาก จัดอยู่ในแหล่งน้ำผิวดินประเภทที่ 3 ถึง 5
จากการตรวจวิเคราะห์ปริมาณโลหะหนักของน้ำในคลองอิสานเขียวพบว่า บริเวณท้ายน้ำหลังจากไหลผ่านพื้นที่ประกอบการล้างถัง มีค่าแคดเมียมเท่ากับ 0.01 มก./ล. เกินค่ามาตรฐานน้ำดื่มที่กรมอนามัยกำหนดให้มีค่าไม่เกิน 0.005 มก./ล. บ่งชี้ว่า น้ำในคลองอิสานเขียวมีคุณภาพไม่เหมาะสมที่จะนำไปใช้เพื่อการเลี้ยงสัตว์หรือการบริโภคโดยที่ยังไม่ผ่านกระบวนการบำบัดเพื่อกำจัดสารโลหะหนักที่ตกค้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนคุณภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำบ้านซับชุมพลซึ่งเป็นบริเวณท้ายน้ำ มีคุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์พอใช้ จัดอยู่ในแหล่งน้ำผิวดินประเภทที่ 3 และถึงแม้ว่า ผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำบ้านซับชุมพลจะพบปริมาณโลหะหนักไม่เกินค่ามาตรฐาน แต่เป็นข้อบ่งชี้ได้ว่า อ่างเก็บน้ำบ้านซับชุมพลเป็นแหล่งน้ำที่มีความเสี่ยงต่อการสะสมสารปนเปื้อนโลหะหนักที่แพร่กระจายออกมาจากกิจการล้างถังสารเคมีในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 11 จะร่วมกับทางจังหวัดนครราชสีมาติดตามตรวจสอบและแก้ไขคุณภาพน้ำให้มีความปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย