เตือน 65,000 โรงงาน ส่งรายงานการกำจัดของเสียภายใน 1 มี.ค.

กรุงเทพฯ 17 ก.พ.-กรมโรงงานฯ เตือนผู้ก่อกำเนิดของเสีย ผู้รวบรวมและขนส่ง และผู้บำบัดและกำจัดของเสียทั่วประเทศกว่า 65,000 โรงงาน ส่งรายงานการกำจัดของเสียประจำปี ภายใน 1 มี.ค.นี้ ฝ่าฝืนปรับสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท


นายวันชัย พนมชัย อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีผู้ประกอบกิจการโรงงานจำนวนมากกว่า 65,000 โรงงาน ทำให้เกิดของเสียอุตสาหกรรมหรือวัสดุไม่ใช้แล้วจากกระบวนการผลิต จำแนกเป็นของเสียอันตราย ประมาณ 1.5 ล้านตัน และของเสียไม่อันตราย ประมาณ 17 ล้านตัน ที่จะต้องได้รับการจัดการให้เป็นไปตามกฎหมาย และผู้ประกอบกิจการโรงงานจะต้องรายงานข้อมูลการผลิต การใช้วัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์ รวมถึงปริมาณของเสียที่เกิดขึ้นต่อ กรอ. ภายในวันที่ 1 มีนาคม ของทุกปี โดยพบว่าขณะนี้มีโรงงานอีกเป็นจำนวนมากที่ยังไม่ได้ส่งรายงานเกี่ยวกับการกำจัดของเสียประจำปี พ.ศ. 2564 ซึ่งมีกำหนดส่งภายในวันที่ 1 มีนาคม 2565 โดยผู้ประกอบกิจการโรงงานที่ตั้งอยู่ทั่วประเทศ รวมถึงโรงงานที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรม และเขตประกอบการอุตสาหกรรม มีหน้าที่ต้องส่งรายงานดังกล่าวตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว พ.ศ. 2548 ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามประกาศดังกล่าว จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.โรงงาน ต้องระวางโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 2 แสนบาท ซึ่ง กรอ.จะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

“ทั้งนี้ กรอ. อำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบกิจการโรงงาน สามารถส่งรายงานตามแบบฟอร์มใบแจ้งเกี่ยวกับรายละเอียดสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว สำหรับผู้ก่อกำเนิดสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว (แบบ สก.3) / ใบแจ้งเกี่ยวกับรายละเอียดสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว สำหรับผู้รวบรวมและขนส่งสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว (แบบ สก.4) / ใบแจ้งเกี่ยวกับรายละเอียดสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว สำหรับผู้บำบัดและกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว (แบบ สก.5) ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ที่ http://iwmb5.diw.go.th/e-license/login.asp หรือส่งเป็นเอกสารได้ที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศ” อธิบดีกรมโรงงานฯ กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง