ทส.-เอสซีจีเดินหน้า “ชิงเก็บ-ลดเผา” นำเชื้อเพลิงมาใช้ประโยชน์ ลดปัญหา PM2.5

กรุงเทพฯ 15 ก.พ. – หน่วยงานสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกับบริษัท เอสซีจี ซิเมนต์ จำกัด ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการบริหารจัดการวัสดุเชื้อเพลิงในพื้นที่ป่า เพื่อนำวัสดุซึ่งอาจเป็นเชื้อเพลิงไฟป่ามาใช้ประโยชน์ ตามโครงการ “ชิงเก็บ ลดเผา” ซึ่งที่ผ่านมาสามารถลดจุดความร้อนได้มาก


นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการบริหารจัดการวัสดุเชื้อเพลิงในพื้นที่ป่า พร้อมด้วยนายชนะ ภูมี ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เอสซีจี ซึ่งร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงดังกล่าวที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  

ทั้งนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และกรมควบคุมมลพิษจะร่วมกับเอสซีจี ซิเมนต์บูรณาการความร่วมมือในการบริหารจัดการและส่งเสริมการใช้ประโยชน์วัสดุเชื้อเพลิงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ป่า โดยการขับเคลื่อนการพัฒนาและถ่ายทอดองค์ความรู้ให้เกิดโครงการอย่างเป็นรูปธรรม 


ความร่วมมือดังกล่าวเป็นความมุ่งมั่นร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการช่วยกันป้องกันแก้ไข และบรรเทาสถานการณ์ปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองของประเทศ จากการเผาในที่โล่ง โดยการนำวัสดุเชื้อเพลิงมาใช้ประโยชน์ ลดการเผาป่า ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนอีกด้วย และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับวัสดุเชื้อเพลิง โดยรัฐบาลมีความห่วงใยและให้ความสำคัญกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง และสั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดดำเนินการตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ 

ที่ผ่านมากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินโครงการ “ชิงเก็บ ลดเผา” ซึ่งสามารถเก็บขนเชื้อเพลิงมาใช้ประโยชน์ได้มากกว่า 2,500 ตัน โดยในพื้นที่ชิงเก็บสามารถช่วยลดจุดความร้อนได้มากกว่าร้อยละ 60 ในปีนี้จึงได้ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 3,000 ตัน โดยจะต้องลดจุดความร้อน (Hotspot) ให้ได้ 20% การที่เอสซีจีมาทำงานร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะช่วยขับเคลื่อนความร่วมมือในครั้งนี้ไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืนต่อไป

นายจตุพรกล่าวต่อว่า การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองอย่างเคร่งครัด ส่งผลสถานการณ์ในปี 2564 ของพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ดีขึ้นกว่าปี 2563 ในช่วงเวลาเดียวกันอย่างมีนัยสำคัญ โดยจำนวนจุดความร้อน (Hotspot) ลดลงมากกว่าร้อยละ 52 จำนวนวันที่ค่า PM2.5 เกินค่ามาตรฐานลดลงมากกว่าร้อยละ 8 สำหรับสถานการณ์ในช่วงต้นปีนี้พบว่า ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาเช่นกัน แต่ยังคงพบจุดความร้อนจำนวนมากในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าและเกษตร จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับการใช้ประโยชน์เศษวัสดุเชื้อเพลิงเพื่อลดการเผา โดยในปี 2564


นายชนะ ภูมี Vice President – Cement and Green Solution Business ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจีกล่าวว่า เอสซีจี ตระหนักและทราบถึงปัญหา ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง PM2.5 รวมถึงความพยายามในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาของภาครัฐ ที่มีมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของสังคม และชุมชน เอสซีจี พร้อมจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวร่วมกับภาครัฐ

ทั้งนี้จะถ่ายทอดและพัฒนาองค์ความรู้ นวัตกรรม ในการบริหารจัดการเศษวัสดุทางการเกษตรและวัสดุเชื้อเพลิงในพื้นที่ป่าที่เป็นแหล่งเชื้อเพลิงทับถม นำมาแปรรูปเป็นพลังงานทดแทนในการผลิตปูนซีเมนต์ สอดคล้องกับแนวคิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

ทุจริตยาโรงพยาบาล

ปปป.เตรียมระดมพลร่วมทำคดีทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ปปป.เตรียมระดมพนักงานสอบสวนในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมทำคดีทุจริตยาและเวชภัณฑ์โรงพยาบาลทหารผ่านศึก พร้อมเตรียมลงพื้นที่ลพบุรี สอบผู้ป่วยกว่า 100 คน ว่าใช่ผู้ป่วยที่แท้จริง มีความจำเป็นต้องใช้ยาหรือไม่ ในเร็ว ๆ นี้

ตร.ไซเบอร์เร่งสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์

ตำรวจไซเบอร์อยู่ระหว่างสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์ พฤติการณ์เชื่อมโยง 46 คดี ที่มีผู้เสียหายแจ้งความในไทย พบข้อมูลผู้ต้องหาบางรายโพสต์โซเชียลหางานสีเทาเอง ส่วนเยาวชน 2 ราย อยู่ระหว่างรวบรวมออกหมายจับ หลังพบสมัครใจร่วมองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ