กรุงเทพฯ 15 ก.พ. – กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชส่งผู้เชี่ยวชาญจากสถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ อุทยานแห่งชาติห้วยขาแข้งตรวจสอบข้อมูลในบริเวณที่พบเสือโคร่งพิการ 3 ขา พร้อมติดตั้งกล้องดักถ่ายเพิ่มเพื่อติดตามพฤติกรรม ก่อนจะกำหนดแนวทางการช่วยเหลือที่เหมาะสม แต่เบื้องต้นยังไม่ดักจับเพื่อมาเลี้ยงในศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่า
นายสมปอง ทองสีเข้ม ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่ากล่าวว่า ได้ประชุมกับผู้เชี่ยวชาญเรื่องเสือของสถานีวิจัยสัตว์ป่าต่างๆ ของกรมอุทยานฯ พร้อมเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมและทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี โดยที่ประชุมเห็นร่วมกันว่า เสือโคร่ง 3 ขาตัวนี้เป็นเพศเมีย อายุประมาณ 3 ปี ยังไม่โตเต็มวัย รอยแผลที่ขาหลังขวาที่ขาดสมานดีแล้ว บ่งชี้ว่า เป็นบาดแผลที่เกิดขึ้นมาหลายเดือน ดังนั้นที่พบอุ้งตีนเสือ 1 ข้าง ลักษณะถูกบ่วงรัด แต่สภาพยังไม่เน่าเปื่อยมาก จึงมั่นใจว่า ไม่ใช่อุ้งตีนของเสือพิการตัวที่กล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่าบันทึกได้
เมื่อพิจารณาความสมบูรณ์ของร่างกายพบว่า ไม่ซูบผอมแสดงว่า สามารถจับเหยื่อเป็นอาหารได้ ดังนั้นจึงยังไม่ตัดสินใจดักจับเพื่อมาเลี้ยงในศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าหรือสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า แต่จะให้ผู้เชี่ยวชาญนำกล้องดักถ่ายไปติดตั้งเพิ่มเพื่อติดตามพฤติกรรมโดยละเอียด พร้อมเข้าตรวจสอบพื้นที่ที่เสือพิการตัวนี้ออกหากินว่าใกล้หรือไหลจากบ้านปิล็อกคี่เพื่อพิจารณาว่า เสือจะรบกวนชาวบ้านจนทำให้เกิดอันตรายได้หรือไม่ ขณะเดียวกันก็เพื่อความปลอดภัยของเสือซึ่งไม่ควรอยู่ใกล้ชุมชนเกินไป
ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญที่ประชุมกันเห็นพ้องว่า หากเสือยังดำรงชีพในป่าตามธรรมชาติได้ ย่อมดีกว่านำมาเลี้ยงในกรง โดยอาจจับมาติด GPS Collar แล้วนำเข้าไปอยู่ในป่าลึก ห่างไกลชุมชน โดยสามารถติดตามตำแหน่งของมันได้ แต่การนำเข้าไปอยู่ในป่าลึกต้องเป็นบริเวณที่ไม่มีเสือโคร่งอื่นซึ่งสภาพร่างกายสมบูรณ์อยู่เพราะจะทำให้เสือพิการถูกขับไล่ให้ออกมาจากพื้นที่หากินของเสือที่อยู่เดิม จึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบทุกด้าน.-สำนักข่าวไทย