ทำเนียบฯ 7 ก.พ.-นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าวพิธีมอบรางวัลองค์กรมีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง ครั้งที่ 7 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ย้ำให้ส่วนราชการใช้นโยบายการคลัง ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานพิธีมอบรางวัลองค์กรมีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง ครั้งที่ 7 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 โดยมี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ผู้บริหารกระทรวงการคลัง และผู้แทนส่วนราชการ มหาวิทยาลัย หน่วยงานอื่นของรัฐที่ได้รับรางวัลเข้าร่วม
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่าขอให้ส่วนรายการช่วยกันลดผลกระทบด้านการเงินการคลัง บริหารจัดการการเงินการคลังให้เป็นไปอย่างถูกต้อง เพื่อการขับเคลื่อนนโยบายทางเศรษฐกิจไทย โดยต้องบริหารจัดการภาครัฐที่ดี มีการตรวจสอบ ไม่ทุจริต มีความโปร่งใส ช่วยลดปัญหาและขจัดปัญหาด้านการเงินการคลังของประเทศ รัฐบาลให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการภาครัฐ ตามยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ อย่างเป็นระบบ และสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาประเทศในทุกมิติ
นายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ในโควิด-19 รัฐบาลมุ่งนโยบายการเงินและการคลังให้มีความสอดคล้องในทิศทางเดียวกัน เพื่อบรรเทาผลกระทบ ลดความเดือดร้อนของประชาชน จึงต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจกันของทุกหน่วยงานร่วมกันขับเคลื่อนการบริหารงานภาครัฐ
ขอให้ช่วยกันเร่งสร้างความเชื่อมั่น ถึงแม้จะมีการกล่าวให้ร้ายบิดเบือนข้อเท็จจริง ขอให้ช่วยกันชี้แจง สร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง อย่าให้การบิดเบือนมาบั่นทอนกำลังใจ ยอมรับความเห็นต่าง แล้วนำเอาความเห็นที่เป็นประโยชน์ที่ได้รับจากช่องทางต่างๆ มาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์
สำหรับรางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลังฯ พิจารณาประเมินตามขั้นตอนการบริหารด้านการเงินการคลัง 5 มิติ ประกอบด้วย มิติด้านการจัดซื้อจัดจ้าง มิติด้านการเบิกจ่าย มิติด้านการบัญชีภาครัฐ มิติด้านการตรวจสอบภายในภาครัฐ และมิติด้านปลอดความรับผิดทางละเมิด ซึ่งแต่ละมิติได้มีการปรับปรุงเกณฑ์ให้เหมาะสม และสอดคล้องกับสถานการณ์ โดยในปีนี้จัดพิธีมอบรางวัลฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 จำนวน 54 รางวัล แบ่งออก 9 ประเภท ได้แก่ 1. รางวัลประกาศเกียรติคุณด้านการจัดซื้อจัดจ้าง 2.รางวัลประกาศเกียรติคุณด้านการเบิกจ่าย 3.รางวัลประกาศเกียรติคุณด้านการบัญชีภาครัฐ 4.รางวัลประกาศเกียรติคุณด้านการตรวจสอบภายในภาครัฐ 5.รางวัลประกาศเกียรติคุณด้านปลอดความรับผิดทางละเมิด 6. รางวัลบุคคล/ทีมงานที่มีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง 7.รางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศรายด้าน 8.รางวัลประกาศเกียรติคุณหน่วยงานที่มีการพัฒนาการปฏิบัติงานด้านการเงินการคลัง และ 9.รางวัลประกาศเกียรติคุณส่งเสริมความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง.-สำนักข่าวไทย