ดัชนีเชื่อมั่น ธ.ค.ฟื้นสูงสุดรอบ 9 เดือน หลัง ศบค.คลายล็อก

กรุงเทพฯ 13 ม.ค.- ม.หอการค้าไทย เผยหลัง ศบค.คลายล็อก ดันดัชนีเชื่อมั่น ธ.ค.64 ฟื้นสูงสุดรอบ 9 เดือน แตะ 46.2 คาดโอไมครอนฉุดลงในเดือน ม.ค.65 แต่ไม่มาก


นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ประจำเดือนธันวาคม 2564 พบว่า ดัชนีมีการปรับตัวดีขึ้น มาอยู่ที่ระดับ 46.2 โดยเป็นดัชนีที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และสูงสุดในรอบ 9 เดือน เป็นผลมาจาก ศบค. ผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ เพื่อเป็นการรองรับการเปิดประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 รับนักท่องเที่ยวต่างชาติบินเข้ามาประเทศไทยโดยไม่ต้องกักตัว แม้ว่า ศบค. มีคำสั่งยกเลิก Test & Go และให้ใช้ระบบกักตัว พร้อมปิดรับลงทะเบียนนักท่องเที่ยวรายใหม่เข้าไทย ตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2564 จนถึง 4 มกราคม 2565 ก็ตาม

ทั้งนี้ ประกอบกับการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บาท/ลิตร ส่งผลทางจิตวิทยาในเชิงบวกต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่คาดว่าจะทำให้การจับจ่ายใช้สอยของคนไทยในการบริโภคและการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่จะเข้ามาหมุนเวียนเพิ่มเติมในระบบเศรษฐกิจกว่าแสนล้านบาท จะทำให้เศรษฐกิจไทยและการจ้างงานปรับตัวดีขึ้นในช่วงปลายปีนี้ ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทั้งในปัจจุบันและในอนาคตปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง


อย่างไรก็ตาม ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงเกิดขึ้นทั่วประเทศ โดยเฉพาะการระบาดของสายพันธุ์โอไมครอน ที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในอนาคต รวมถึงฉุดดัชนีความเชื่อมั่นในช่วงเดือนมกราคมให้ปรับตัวลดลง แต่เชื่อว่าจะไม่ลงแรง เพราะเชื่อว่าสถานการณ์การติดเชื้อจะเริ่มผ่อนคลายลงได้ภายในเดือนมกราคม และตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ตัวเลขจะค่อยๆ ปรับฟื้นตัวดีขึ้น ทำให้เศรษฐกิจของประเทศกลับมาฟื้นตัวได้ในช่วงไตรมาสที่ 2 โดยศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ ยังคงประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในปีนี้ไว้ที่ร้อยละ 4 อยากเป็นการขยายตัวในช่วงครึ่งปีแรกร้อยละ 2.5-3 และในช่วงครึ่งปีหลังขยายตัวร้อยละ 5-5.5 เป็นต้น

นอกจากนี้ ขณะที่ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย ประจำเดือนธันวาคม 2564 ดัชนีมีการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 มาอยู่ที่ระดับ 37.8 หลังจาก ศบค. มีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเข้าประเทศมากขึ้น คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวในเดือนธันวาคมจะอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 100,000 คน ส่งผลดีกับภาคธุรกิจบริการ การจ้างงาน รวมถึงเศรษฐกิจในภูมิภาค โดยมั่นใจว่า แม้จะมีการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน แต่รัฐบาลจะไม่ใช้มาตรการล็อกดาวน์อีก เพราะส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อความสูญเสียในระบบเศรษฐกิจ หลังจากเคยใช้มาตรการดังกล่าวมาแล้ว

อย่างไรก็ตาม ในปี 2563 การล็อกดาวน์ทั้งประเทศส่งผลทำให้เศรษฐกิจเสียหาย 8.1 แสนล้านบาท และการล็อกดาวน์บางพื้นที่ในปี 2564 ช่วง 2 เดือน ส่งผลทำให้เศรษฐกิจเสียหาย 3-5 แสนล้านบาท และเชื่อว่ารัฐบาลดูแลควบคุมการระบาดให้ผ่อนคลายได้ในช่วงไตรมาส 1 ของปี 2565 จึงไม่มีผลกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโดยรวมมากนัก เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลยังคงใช้อย่างต่อเนื่องช่วยพยุงไม่ให้ทรุดตัว ทั้งโครงการช้อปดีมีคืน และโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 เชื่อว่าจะส่งผลทำให้เศรษฐกิจเกิดการหมุนเวียนได้ดีอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“หมอพรทิพย์” เผย แผลศพบอกได้ ฆาตกรรม หรือ ฆ่าตัวตาย

“หมอพรทิพย์” อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยบาดแผลที่ศพ “ผกก.โจ้” จะบ่งชี้ได้ว่า ถูกฆาตกรรม หรือฆ่าตัวตาย

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก คาดฝีมือ นายอับดุลเลาะ บูละ แกนนำระดับสั่งการ ฝึกรบจากต่างประเทศ พบบางส่วนหนีขึ้นเขาตะเว บางส่วนข้ามชายแดนแล้ว

ชายแดนตึงเครียด ทหารเมียนมา-KNLA ยังปะทะเดือด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังตึงเครียด ทหารเมียนมากับกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ยิงปะทะดุเดือด ขณะที่ชาวเมียนมา อพยพเข้าไทยอีกครั้งแล้วหลายร้อยคน

เจอกระบะต้องสงสัยก่อเหตุหน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

พบแล้ว รถกระบะต้องสงสัยใช้ก่อเหตุยิงปืนและลอบวางระเบิด หน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อคืนนี้

ข่าวแนะนำ

เร่งล่าคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ซุ่มยิง อส.กรงปินัง เสียชีวิต

เจ้าหน้าที่เร่งล่าตัวคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ซุ่มยิง อส.กรงปินัง เสียชีวิต ก่อนเผารถ ฉกปืนพกสั้น 9 มม. หลบหนี ทั้งยังพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดในพื้นที่ยะลาอีกหลายจุด

ลวงมาฆ่า จัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน 14 ล้าน

สุดโหด หนุ่มสกลนครถูกญาติตัวเองร่วมมือกับอดีตตัวแทนจำหน่ายประกัน ลวงมาฆ่า ก่อนจัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน พ.ร.บ.รถยนต์ 3 คัน รวม 14 ล้านบาท แต่บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถพบพิรุธ แจ้งตำรวจตรวจสอบ ก่อนออกหมายจับเบื้องต้น 4 คน