ฝรั่งเศส 4 ก.ค. – ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ระบุเลือกประธานสภาฯ น่าจะจบลง “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” แต่ต้องจับตาเลือกนายกรัฐมนตรี จะเป็นชื่อ “พิธา” หรือไม่ หากใช่ทุกอย่างจบ แต่หากไม่ใช่ต้องดูต่อไปว่าเสนอใคร และสมาชิกวุฒิสภาจะเลือกด้วยไหม ย้ำอาจใช้เวลาแต่เศรษฐกิจไทยยังอยู่ในช่วงขาขึ้น
รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า การเลือกตั้งประธานสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ โดยรวมน่าจะเป็นไปตามข้อตกลงของทั้ง 2 พรรค ทั้งพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ที่จะนำเสนอต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ เป็นนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร และคิดว่าไม่น่าจะพลิกโผอะไร เพราะถือเป็นไปตามข้อตกลงทั้ง 2 พรรค และพรรคร่วมที่จะจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ก็คงต้องติอตามดูว่าในการนำเสนอแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนต่อไปให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณานั้น คงจะต้องจับตาดูว่าจะนำเสนอนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค หรือไม่ แต่เชื่อว่าการนำเสนอชื่อนายพิธาคงจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด เนื่องจากเป็นมติ 8 พรรคร่วมที่ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงกันไว้ แต่ยังไม่มั่นใจนายพิธาจะได้รับการคัดเลือกและลงคะแนนจากสมาชิกวุฒิสภาด้วยหรือไม่ เพราะตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา เสียงตอบรับจากสมาชิกวุฒิาสภาของบ้างท่านไม่เห็นด้วยและจะไม่โหวตให้กับนายพิธาให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ หากการเลือกนายกรัฐมนตรีไม่ผ่านในครั้งแรก ต้องมาดูว่าพรรคร่วมจะแก้ไขตรงนี้อย่างไร หากความคิดเห็นพรรคร่วมทั้ง 8 พรรค ให้พรรคเพื่อไทยเป็นคนจัดตั้งรัฐบาล ต้องมาติดตามดูว่าสมาชิกวุฒิสภาจะเลือกคนอื่นแทนนายพิธาด้วยหรือไม่ ดังนั้น คงต้องติดตามดูว่าหากไม่เป็นไปตามที่มีการนำเสนอในครั้งแรกที่เสนอนายพิธาไป คนที่ชอบพรรคก้าวไกลจะเกิดการก่อม็อบหรือไม่ และจะถึงขั้นรุนแรงแค่ไหน แม้จะใช้เวลานานกว่าที่กำหนดไว้ ซึ่งโดยภาพรวมขณะนี้เศรษฐกิจของประเทศและการค้าและการลงทุนเฝ้าจับตาดูในการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ แต่ด้วยขณะนี้เศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงขาขึ้นจากกรณีโควิดที่เบาลง การท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวขึ้นจะทำให้เศรษฐกิจไทยไม่ได้รับผลกระทบมากจนเกินไป แต่ไม่อยากให้ขั้นตอนการจัดตั้งรัฐบาลใช้เวลงนานมากจนเกินไป จึงมองว่ารัฐบาลใหม่น่าจะจัดตั้งได้โดยเร็ว เพื่อให้เศรษฐกิจไทยเดินหน้าต่อไปได้ โดยปีนี้ทางศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาลัยหอการค้าไทย มองว่าเศรษฐกิจไทยยังเติบโตอยู่ที่ 3-3.5% แต่หากเกิดความวุ่นวายทางการเมืองมากขึ้นเศรษฐกิจไทยอาจจะโตต่ำกว่า 3% ก็เป็นไปได้ แต่เชื่อว่าทุกฝ่ายไม่อยากให้เกิดความวุ่นวายอะไรเกิดขึ้น.-สำนักข่าวไทย