ราช กรุ๊ป ย้ำไม่เพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าถ่านหินอีก

กรุงเทพฯ 15 พ.ย.-ราช กรุ๊ป ย้ำไม่เพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าถ่านหินอีก จากที่มีอยู่ในแผนงานแล้วประกาศเพิ่มพอร์ตพลังงานทดแทนเป็นร้อยละ40ในปี 2573 


นางสาวชูศรี เกียรติขจรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้มีเป้าหมายจะเพิ่มการลงทุนใหม่ ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ คาดจะมีการจบข้อตกลงการเจรจาหรือดีลใหม่เพิ่มขึ้น และกำหนดเป้าหมายว่าในปี 2568 จะลงทุนในธุรกิจสร้างมูลค่าเพิ่มร้อยละ 20  และธุรกิจผลิตไฟฟ้าร้อยละ 80 โดยในส่วนของไฟฟ้าจะเป็นเชื้อเพลิงหลัก ร้อยละ 80 คาดจะมีกำลังผลิต 7,500  เมกะวัตต์ ซึ่งส่วนนี้จะมีโรงไฟฟ้าถ่านหินไม่เกิน 2,500 เมกะวัตต์ และ อีก 7,500 เมกะวัตต์ จะเป็นเชื้อเพลิงอื่นๆ โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติ ส่วนกำลังไฟฟ้าอีกร้อยละ 20 หรือราว 2,500 เมกะวัตต์ จะเป็นพลังงานทดแทน  และตั้งเป้าหมายว่าจะมีพลังงานทดแทนเพิ่มในพอร์ตเป็นร้อยละ 40 ในปี 2573

ส่วนการนำเข้าเชื้อเพลิงก๊าซชาติเหลวหรือแอลเอ็นจี สำหรับโรงไฟฟ้าหินกอง จ.ราชบุรี ในขณะนี้ยังเดินหน้าตามแผนคาดว่าจะนำเข้าล็อตแรกในปี 2566 โดยรอหลักเกณฑ์เรื่องราคาอ้างอิง ของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(สำนักงาน กกพ.) ที่ชัดเจน ในขณะที่เรื่องการลงทุนผลิตไฟฟ้าจากขยะชุมชนนั้น ทาง บริษัทได้มีการหารือกับชุมชนต่างๆไว้ 5 ปี ก็ต้องรอนโยบายรัฐบาลเช่นกันว่า จะยังคงเป้าหมายเดิมเรื่องการกำจัดขยะเพื่อแกปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องหลักหรือไม่ เพราะในขณะนี้รูปแบบ การส่งเสริมจะเป็นลักษณะการขายฟ้าเป็นหลัก ซึ่งอาจจะไม่ตอบโจทย์เป้าหมายแรกที่ตั้งไว้ว่าจะกำจัดขยะเป็นหลัก


นางสาวชูศรี กล่าวว่า ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรก (มกราคม-กันยายน) ของปี 2564 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิรวม 5,648.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.9% จากงวดเดียวกันของปีก่อน    การดำเนินงานที่ผ่านมามีความก้าวหน้าตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ การลงทุนเพิ่มกำลังผลิตใหม่ก็มีแนวโน้มดีกว่าเป้าหมาย 8,874 เมกะวัตต์  โดยคาดว่าจะรับรู้กำลังผลิตประมาณ 1,054 เมกะวัตต์ ซึ่งทำให้กำลังการผลิตรวมเพิ่มขึ้นเป็น 9,346.35 เมกะวัตต์ 

ทั้งนี้เป็นผลจากการเข้าซื้อหุ้น 45.515% จากบริษัท PT Paiton Energy ที่ดำเนินกิจการโรงไฟฟ้า 2 แห่ง กำลังผลิตรวม 2,045 เมกะวัตต์  และการซื้อหุ้นสามัญและหุ้นเพิ่มทุนของ บมจ. สหโคเจน (ชลบุรี) สัดส่วน 51% ซึ่งดำเนินกิจการโรงไฟฟ้าเอสพีพีระบบโคเจนเนอเรชั่น กำลังผลิตรวม 214 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าชีวมวล 2 แห่ง กำลังผลิตรวม 17.10 เมกะวัตต์ รวมทั้งธุรกิจโซลาร์รูฟด้วย ทั้งสองธุรกรรมคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในไตรมาส 1 ปี 2565 นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนลงทุนโครงการพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้    

“บริษัทฯ มุ่งเน้นการลงทุนด้วยวิธีเข้าซื้อหุ้นกิจการที่ดำเนินงานแล้วเพื่อให้รับรู้รายได้ทันทีและ ยังมีการลงทุนในธุรกิจอื่นๆ เพิ่มขึ้นจนถึงปัจจุบันมีมูลค่าลงทุนรวม 11,689 ล้านบาท โดยการลงทุนในปีนี้ ประกอบด้วย การเข้าซื้อหุ้นบมจ. บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ โครงการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพอัดแท่ง ในสปป.ลาว  การเข้าซื้อหุ้นบริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เวียงจันทน์ และบริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจสตาร์ทอัพด้านนวัตกรรมไฟฟ้าและพลังงาน ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้กำหนดสัดส่วนการลงทุนธุรกิจระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานและอื่นๆ ไว้ 20% ซึ่งจะเข้ามาช่วยผลักดันมูลค่ากิจการของบริษัทฯ ให้บรรลุเป้าหมาย 200,000 ล้านบาท ภายในปี 2568” นางสาวชูศรี กล่าว  


สำหรับภาพรวมธุรกิจผลิตไฟฟ้า บริษัทฯ รับรู้กำลังการผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการผลิตจากโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงหลัก รวม 6,874.14 เมกะวัตต์ คิดเป็นสัดส่วน 84% และกำลังโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน รวม 1,305.21 เมกะวัตต์ คิดเป็นสัดส่วน 16%  ในปีนี้ บริษัทฯ จะรับรู้กำลังการผลิตเดินเครื่องเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้นเป็น 7,321.44 เมกะวัตต์ ผลการดำเนินงานรอบ 9 เดือนแรกปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้รวม จำนวน 29,824.13 ล้านบาท และมีกำไร 5,648.81 ล้านบาท  คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 3.90 บาท. –สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กองทัพภาคที่ 2 แจงภาพระเบิดอาคารร้างฝั่งกัมพูชา

กทม. 28 ก.ค.-กองทัพภาคที่ 2 แจงภาพระเบิดอาคารร้างฝั่งกัมพูชา พบฝ่ายกัมพูชาตั้งอาวุธยิงสนับสนุนวิถีโค้งโจมตีพื้นที่พลเรือนฝ่ายไทย ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงกรณีมีภาพการระเบิดที่อาคารร้างฝั่งกัมพูชา ตามที่ปรากฏข่าวสารในสื่อสังคมออนไลน์ เหตุการณ์การระเบิดบริเวณอาคารร้างฝั่งกัมพูชาซึ่งอยู่ใกล้แนวชายแดนไทย ฝ่ายไทยมีการตรวจพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้ตั้งอาวุธยิงสนับสนุนวิถีโค้งไว้บริเวณพื้นที่พลเรือน และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับภารกิจทางทหารในหลายพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมากัมพูชาใช้อาวุธดังกล่าวในการโจมตีพื้นที่พลเรือนของฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่อง นำมาซึ่งความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย อันถือเป็นการกระทำที่เข้าข่าย “ใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์” (Human Shield) ซึ่งเป็นการละเมิดหลักมนุษยธรรมสากล ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 จึงขอยืนยันว่า การใช้กำลังทางทหารของกองทัพไทยมุ่งเป้าเฉพาะไปยังเป้าหมายทางทหารที่ตรวจพบว่ามีการโจมตี หรือคุกคามต่อความมั่นคงของชาติไทย เท่านั้น ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ยังคงยึดมั่นในหลักสันติวิธี การเคารพในอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน และไม่ใช้ความรุนแรงกับพลเรือนทุกกรณี แต่ต้องดำเนินมาตรการป้องกันตนเองจากภัยคุกคามที่เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ และอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย

เหตุปะทะชายแดนสุรินทร์รุนแรง ขยายวงกว้าง ยอดอพยพเพิ่ม

สุรินทร์ 27 ก.ค. – สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและขยายวงกว้าง โดยเฉพาะด้านปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ทำให้มีผู้อพยพตามศูนย์พักพิงชั่วคราวพุ่งทะลุกว่า 50,000 คน เวลาราว 04.30 น. วันนี้มีการเปิดฉากปะทะกันอย่างหนัก ทั้งปืนเล็ก และปืนใหญ่ บริเวณปราสาทตาควาย ต่อด้วยปราสาทตาเมือนธม ที่อยู่ไม่ไกลกัน พื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กระสุนจรวด BM 21 ตกใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ใกล้กัน ฟาร์มวัววากิว ยังมีวัวถูกสะเก็ดตาย 6 ตัว กระสุนยังตกกระจายตามทุ่งนารวม 9 ลูก ในพื้นที่ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท ส่วนตำบลตาเมียง และตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ก็มีกระสุนเข้าไปตกเป็นจำนวนมากเช่นกัน วิถีกระสุนที่มาตกไกลขึ้น ทำให้ศูนย์พักพิงชั่วคราวในตัวอำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ ต้องยุบเพิ่มเติมอีก 2 จุด ขณะที่ชาวอำเภอปราสาท ต่างแตกตื่นปิดบ้าน ปิดร้าน อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทำให้บรรยากาศในตลาดสดที่ปกติมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของจำนวนมาก วันนี้ลดลงถึง 80% โดยนายอำเภอปราสาท ให้ข้อมูลว่า […]

กต. ลั่นจะพูดคุยกัน เขมรต้องจริงใจก่อน ซัดพูดอย่างทำอย่าง แถมบิดเบือน

กระทรวงการต่างประเทศ 27 ก.ค.- กต. ขีดเส้นใต้ จะพูดคุยกันได้ “เขมร” ต้องจริงใจก่อน “นิกรเดช” ซัดพูดอย่างทำอย่าง นอกจากใช้พลเรือนเป็นโล่กำบังแล้ว ยังใช้โบราณสถานกำบังด้วย แถมบิดเบือน-สร้างข้อมูลเท็จ ผู้เชี่ยวชาญยังรู้เป็นภาพเก่า รับทราบพรุ่งนี้ “ภูมิธรรม” บินคุย “ฮุน มาเนต” หลัง “ทรัมป์” ต่อสายคุย เผย “มาริษ” ร่อนแล้ว เอกสารถึง UNICEF-OHCHR ยันกัมพูชาเริ่มก่อน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อเสนอหยุดยิงตามที่หลายท่านคงทราบอยู่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงจุดยืนของไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับกัมพูชาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะผ่านการเจรจาทวิภาคี ซึ่งฝ่ายไทยเราได้ย้ำมาโดยตลอดในทุกโอกาส ฝ่ายไทยจึงคาดหวังว่าจะเห็นความตั้งใจจริงจากกัมพูชา ในการยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมาย หากฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยก็พร้อมจะหารือด้วย เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนอย่างสันติและยั่งยืน นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยกองกำลังกัมพูชาบนแผ่นดินไทยเหตุการณ์เมื่อคืน กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีหลายจุดตามแนวชายแดนไทยอีกครั้ง […]