นนทบุรี 5 พ.ย.-อัตราเงินเฟ้อเดือน ต.ค.64 กลับมาบวกเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.38 จากสาเหตุราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง แถมเจอปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ส่งผลผักสดขาดแคลนจนราคาสูงขึ้นมาก ส่งผลให้เงินเฟ้อเฉลี่ย 10 เดือนเงินเฟ้ออยู่ที่ร้อยละ 0.99 แม้น้ำมันสูงเชื่อทั้งปีเป็นไปตามคาดอยู่ที่ร้อยละ 0.8 – 1.2 ขณะที่ผักสดโอกาสปลายปีนี้จะไม่สูงขึ้นไปกว่านี้
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้าเปิดเผยถึงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป หรือ เงินเฟ้อประจำเดือนตุลาคม 2564 เมื่อเเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน สูงขึ้นร้อยละ 2.38 จากร้อยละ 1.68 ในเดือนก่อนหน้า เป็นการสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ตามราคาสินค้าในกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาตลาดโลก ประกอบกับสินค้าในกลุ่มอาหารสดบางชนิด โดยเฉพาะผักสดได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในหลายพื้นที่ และไข่ไก่ราคายังคงอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่มีแนวโน้มชะลอตัวลง นอกจากนี้ อาหารบริโภคในบ้าน-นอกบ้าน และเครื่องประกอบอาหาร ปรับเพิ่มขึ้นตามต้นทุน อย่างไรก็ตาม ราคาสินค้าในกลุ่มอาหารสดอื่น ๆ ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว เนื้อสุกร ไก่สด และผลไม้สด สำหรับสินค้าอื่น ๆ ยังเคลื่อนไหวในทิศทางที่ปกติ สอดคล้องกับความต้องการและปริมาณผลผลิต ยกเว้น สินค้ากลุ่มอาหารสดราคาค่อนข้างผันผวนเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เงินเฟ้อที่สูงขึ้นในเดือนนี้ ปัจจัยสำคัญนอกจากสินค้าในกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นตามอุปสงค์โลกแล้ว ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ส่งผลให้ภาคธุรกิจและประชาชนมีกำลังซื้อและการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้น สอดคล้องกับเครื่องชี้วัดทางเศรษฐกิจสำคัญที่มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้น ด้านอุปสงค์สะท้อนได้จากยอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้า และมูลค่าการส่งออกที่ขยายตัวต่อเนื่อง รวมถึงดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างที่สูงขึ้นร้อยละ 10.0 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 43.4 จากระดับ 42.1 ในเดือนก่อนหน้า แม้ว่าจะยังไม่อยู่ในระดับความเชื่อมั่น แต่มีทิศทางที่ดีขึ้นตามลำดับ โดยเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ซึ่งปรับตัวดีขึ้นในทุกภาคและทุกอาชีพ สำหรับด้านอุปทานสะท้อนได้จากอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ปรับตัวดีขึ้น ส่วนดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเริ่มปรับตัวดีขึ้น แต่ยังต่ำกว่าปีก่อน สอดคล้องกับดัชนีราคาผู้ผลิตที่สูงขึ้นร้อยละ 6.9
อย่างไรก็ตาม สินค้าเกษตรที่ราคาปรับลดลง และได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ได้ส่งผลให้รายได้เกษตรกรปรับตัวลดลงในรอบ 15 เดือน ซึ่งอาจจะกระทบอุปสงค์ภายในประเทศและเงินเฟ้อของไทยได้ในระยะต่อไป เป็นประเด็นสำคัญที่ต้องเฝ้าระวังและดูแลอย่างใกล้ชิดส่งผลให้เงินเฟ้อพื้นฐาน (เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออกแล้ว) สูงขึ้นร้อยละ 0.21 จากร้อยละ 0.19 ในเดือนก่อน ซึ่งเป็นการสูงขึ้นอย่างมีเสถียรภาพและสอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจ สำหรับเงินเฟ้อทั่วไป เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 2564 สูงขึ้นร้อยละ 0.74 (MoM) และเฉลี่ย 10 เดือน (ม.ค.- ต.ค.) ปี 2564 สูงขึ้นร้อยละ 0.99
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มเงินเฟ้อทั่วไป เดือนพฤศจิกายน 2564 มีแนวโน้มขยายตัวสูงขึ้น โดยมีปัจจัยสำคัญจาก 1.สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลายในหลายพื้นที่จากการกระจายวัคซีนและการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ส่งผลให้ภาคธุรกิจสามารถดำเนินการได้มากขึ้น ประกอบกับมาตรการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 จะส่งผลดีต่อกำลังซื้อและการจับจ่าย ใช้สอยภายในประเทศ 2.น้ำมันเชื้อเพลิง ราคายังมีทิศทางที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจจะกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้า และบริการ รวมถึงการขนส่ง 3.อุทกภัยในหลายพื้นที่ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ปริมาณสินค้าเกษตรเข้าสู่ตลาดน้อยลง และส่งผลต่อระดับราคาต่อไป
สำหรับสินค้าในหมวดอื่น ๆ มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในทิศทางปกติตามปริมาณผลผลิตและความต้องการ อย่างไรก็ตาม สินค้าในหมวดอาหารสดส่วนใหญ่ โดยเฉพาะข้าว เนื้อสุกร ไก่สด และผลไม้สด ยังมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สถานการณ์โควิด-19 ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่เป็นตัวแปรสำคัญของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจซึ่งจะต้องเฝ้าระวังและส่งผลต่อเงินเฟ้ออย่างมีนัยสำคัญ ทำให้กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ว่า เงินเฟ้อเฉลี่ยในปี 2564 จะอยู่ระหว่างร้อยละ 0.8 – 1.2 ค่ากลางอยู่ที่ ร้อยละ 1.0 ซึ่งเป็นอัตราที่น่าจะช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้อย่างเหมาะสมและต่อเนื่อง หากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ จะมีการทบทวนอีกครั้ง แม้ว่าราคาน้ำมันมีแนวโน้นสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมาก็ตาม แต่ยังเชื่อว่าจะไม่สูงไปมากกว่านี้ จึงทำให้ยังไม่ปรับอัตราเงินเฟ้อทั้งปี แต่จะติดตามอย่างใกล้ชิด และคาดว่าในช่วงที่น้ำมันขาขึ้นภาครัฐจะมีมาตรการออกมาช่วยเหลือผู้ประกอบการขนส่ง ขณะที่ปัญหาน้ำท่วมที่คลี่คลายในหลายพื้นที่น่าจะทำให้ปัญหาผักสดที่สูงในช่วงนี้จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ในเร็วๆนี้ ดังนั้น อัตราเงินเฟ้อในช่วงที่เหลือปีนี้ 2 เดือน พ.ย.-ธ.ค.64 ยังเป็นเงินเฟ้อขาขึ้นแต่จะไม่สูงขึ้นเท่ากับเงินเฟ้อในเดือน ต.ค.64 แน่นอน.-สำนักข่าวไทย