‘รฟม.’เล็งขายซองชิงประมูล รถไฟฟ้าสายสีส้มรอบใหม่ ต.ค. นี้

กรุงเทพฯ 20 ส.ค. – รฟม.เร่งประมูลรถไฟฟ้า “สายสีส้ม” หลังศาลจำหน่ายคดี ลุ้น ต.ค.นี้ขายซองอีกครั้ง คาด มี.ค.65 ได้ตัวผู้ร่วมทุน พร้อมปรับแผนเร่งงานระบบเปิดด้านตะวันออกกลางปี 68 ส่วน “สีม่วงใต้” ซื้อซองแล้ว 8 ราย ทั้งไทย-ต่างชาติ


นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยถึง ความคืบหน้า การดำเนินงานโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) และโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูนราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) โดยระบุว่า หลังจาก รฟม.ได้เปิดขาย ซองเอกสารประกวดราคา (ทีโออาร์) โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ตั้งแต่ 5 ก.ค.-7 ต.ค.2564 ปัจจุบันมีเอกชนสนใจซื้อเอกสาร 8 ราย แบ่งเป็นเอกชนไทย 6 ราย และต่างชาติ 2 ราย

ทั้งนี้ รฟม.กำหนดให้เอกชนยื่น ข้อเสนอได้ในวันที่ 8 ต.ค.2564 โดย รฟม.จะใช้เวลาพิจารณาถึงปลายเดือน ธ.ค.2564 และคาดว่าจะได้ตัวผู้รับจ้าง งานโยธาทั้ง 6 สัญญา ภายใน ม.ค.2565 ทั้งนี้ รฟม.ยืนยันว่า การประกวดราคาครั้งนี้ ดำเนินการตาม พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ ไม่ได้กีดกันบริษัทต่างชาติ


ขณะที่ความคืบหน้าโครงการ รถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่ รฟม.ได้ยกเลิก ประกวดราคา และอยู่ระหว่างเตรียม ดำเนินการประกวดราคาครั้งใหม่นั้น ปัจจุบันเปิดรับฟังความเห็นเอกชนไปแล้ว แต่เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ ไม่สามารถจัดประชุมคณะกรรมการ ม.36 เพื่อพิจารณาร่างทีโออาร์ใหม่ได้ เหตุ เพราะการประชุมด้วยสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ไม่บังคับใช้กับกรณีโครงการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน

“รฟม.ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี ที่ให้เข้าร่วมการใช้ข้อตกลงคุณธรรม เราจึงมีหนังสือไปยังกระทรวงการคลัง เพื่อบรรจุสายสีส้มเข้าข้อตกลงคุณธรรม และกำลังรอหนังสือตอบกลับ เพื่อนำตัวแทนเข้ามาร่วมสังเกตการณ์ จากนั้น จะประชุมคณะกรรมการ ม.36 และพิจารณาทีโออาร์ครั้งใหม่”นายภคพงศ์ กล่าว

ทั้งนี้ จากการประเมินกรอบ การดำเนินงาน คาดว่าเมื่อสามารถ เข้าร่วมข้อตกลงคุณธรรมได้แล้ว จะมี การจัดประชุมคณะกรรมการ ม.36 พิจารณาร่างทีโออาร์ฉบับใหม่ใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน และออกประกาศเชิญชวนเอกชน โดยเบื้องต้นจะเชิญชวนเอกชนภายใน ต.ค.นี้ และให้เวลาเอกชนทำข้อเสนอ 60 วัน คาดว่าปลายไตรมาส 1 ปีหน้า ราว มี.ค.-เม.ย.2565 จะได้เอกชน ร่วมลงทุน แต่ทั้งนี้ขึ้นกับโควิด -19


นายภคพงศ์ กล่าวด้วยว่า หลังจาก ได้ตัวเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม รฟม.จะเร่งรัดให้เอกชนเริ่ม ดำเนินโครงการให้เร็วที่สุด เพราะโครงการนี้ ล่าช้าจากโควิด และการใช้สิทธิตามกระบวนการศาล โดย รฟม.จะเร่งรัดให้เอกชนเริ่มติดตั้งงานระบบรถไฟฟ้าช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี ที่กำลังก่อสร้าง งานโยธาทันที เพื่อให้เปิดบริการ ในกลางปี 2568 ส่วนช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ- บางขุนนนท์ จะเปิดให้บริการปี 2571 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ครู-ผู้ปกครอง ห่วงยกเลิก “ทรงผมนักเรียน” กระทบระเบียบวินัย

ครูและผู้ปกครองใน จ.ขอนแก่น แสดงความกังวล หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งยกเลิกกฎกระทรวง ข้อกำหนด “ผมทรงนักเรียน” ห่วงการปล่อยเสรีอาจกระทบต่อระเบียบวินัยและความเรียบร้อยของนักเรียน ขณะที่นักเรียนจำนวนมากพอใจคำตัดสินดังกล่าว

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุด

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุดจากร้านแอร์ กลางเมืองสมุทรสงคราม เชื่อคนร้ายมีความรู้เรื่องแอร์ เพราะเลือกหยิบชุดเดียวกัน

นายกฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย บนเวที “ITB Berlin 2025”

นายกฯ ชู soft power ไทย บนเวทีท่องเที่ยวโลก “ITB Berlin 2025” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัด มุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

Trudeau tells Trump that tariffs are 'very dumb,' says Canada striking back

ประเทศคู่ค้าตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

ออตตาวา 5 มี.ค.- ประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทั้งแคนาดา เม็กซิโก และจีน ออกมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทั้งนี้หลังจากมาตรการของสหรัฐที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นมาตรการที่โง่เขลาอย่างยิ่ง และแคนาดาได้มีมาตรการโต้กลับด้วยการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทันทีกับสินค้าของสหรัฐมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 701,115 ล้านบาท) และจะเก็บในอีก 21 วันกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)   ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ในแคนาดาต่างพร้อมใจกันเก็บเหล้าและไวน์ที่นำเข้าจากสหรัฐออกจากชั้นวางและยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทน  ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า จะเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แทนวัตถุดิบที่เคยนำเข้าจากสหรัฐ  แต่วัตถุดิบจำเป็นบางอย่างต้องนำเข้าจากเยอรมนี ส่วนกระป๋องอลูมิเนียมสำหรับบรรจุเบียร์ที่เคยนำเข้าจากสหรัฐเพราะแคนาดาไม่ได้ผลิตนั้น จะเปลี่ยนไปซื้อจากจีนแทนซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้านเม็กซิโก ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแถลงว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐไม่มีความชอบธรรม เพราะที่ผ่านมาเม็กซิโกให้ความร่วมมือกับสหรัฐมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องผู้อพยพและยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลเม็กซิโกจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ  โดยจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้อีกครั้งในวันที่ 9 […]