ธปท. ชี้พักชำระหนี้ 2 เดือน แก้ปัญหาตรงจุด

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – ธปท. ชี้พักชำระหนี้ 2 เดือน แก้ปัญาหาตรงจุด พร้อมพิจารณาข้อดีข้อเสียการปรับลดดอกเบี้ยบัตรเครดิต สินเชื่อจำนำทะเบียนและสินเชื่อบุคคล


นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงมาตรการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้แก่ลูกหนี้ SMEs และรายย่อย เป็นระยะเวลา 2 เดือน เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่ต้องปิดกิจการจากมาตรการทางการ ทั้งใน 10 จังหวัด และพื้นที่อื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกันว่า มาตรการนี้เป็นมาตรการช่วยเหลือเพื่อเยียวยาด้านรายได้อย่างเร่งด่วนให้กับผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งเป็นการช่วยเหลือที่ตรงจุด โดยลูกหนี้สามารถติดต่อกับสถาบันการเงินเจ้าหนี้เพื่อแสดงความประสงค์ขอรับความช่วยเหลือได้ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2564

ส่วนการพิจารณาขยายระยะพักหนี้เกิน 2 เดือนหรือไม่นั้น มองว่าทุกแบงก์มีมาตรการต่อเนื่องในการดูแลลูกค้าอยู่แล้ว สิ่งสำคัญที่ช่วยเหลือลูกหนี้ได้คือ การสร้างรายได้ให้กับประชาชนอย่างยั่งยืน ดังนั้น ควรสนับสนุนการสร้างรายได้เสริมให้กับผู้ประกอบการและลูกจ้าง การเร่งฉีดวัคซีน การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และเสริมสภาพคล่อง


ด้านความคืบหน้าการปล่อยสินเชื่อฟื้นฟูแก่ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ภายใต้วงเงิน 2.5 แสนล้านบาท ปัจจุบันในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา มีวงเงินที่ได้รับอนุมัติแล้ว 72,391 ล้านบาท คิดเป็นผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับความช่วยเหลือแล้ว 23,687 ราย โดยมีวงเงินช่วยเหลือเฉลี่ยรายละ 3.1 ล้านบาท

ขณะที่การพิจารณาปรับลดเพดานอัตราดอกเบี้ยสำหรับบัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล และสินเชื่อจำนำทะเบียนนั้น อยู่ระหว่างการพิจารณาถึงข้อดีและข้อเสีย โดยมองว่าอาจไม่เหมาะสมกับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในปัจจุบัน เพราะเชื่อว่าหากลดเพดานดอกเบี้ยลงจะผลักให้กลุ่มลูกหนี้ที่มีความเสี่ยงสูงยิ่งเข้าไม่ถึงดอกเบี้ยในระบบ และมีความเสี่ยงต้องไปกู้ยืมนอกระบบ ส่วนการปรับลดเงินนำส่งกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) อยู่ระหว่างการพิจารณาเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ดี ยอมรับว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า ส่งผลกระทบรุนแรงกว่าที่ ธปท.คาดการณ์เอาไว้ ซึ่ง ธปท. ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยได้มีการหารือกับกระทรวงการคลังอย่างต่อเนื่อง เพื่อพิจารณาเงื่อนไขการดูแลลูกหนี้และผู้ประกอบการอย่างเหมาะสมต่อไป. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจ ลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร ด้านบริษัท 9PK นำเอกสารชี้แจง พร้อมขอให้บริษัทจีนช่วยอนุมัติเงินมาจ่ายให้กลุ่มผู้รับเหมาก่อน

จับแล้วโจรบุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่

จับแล้วโจรมาเลย์บุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่ จนมุมสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เผยมาหาลูกชายที่ จ.นนทบุรี แต่ลูกไม่ให้เข้าบ้าน

ปิดล้อมจับชายวัย 43 ยิงเพื่อนบ้าน-ตร.เจ็บ 4

ตำรวจปิดล้อมนานถึง 11 ชั่วโมง จับชายวัย 43 ปี ใช้ปืนยิงเพื่อนบ้านและตำรวจที่เข้าระงับเหตุ บาดเจ็บรวม 4 ราย หลังโมโหเพื่อนบ้านติดกล้องวงจรปิดหันส่องไปทางบ้านผู้ก่อเหตุ ยิงแก๊สน้ำตา-ญาติเกลี้ยกล่อม ยังไม่เป็นผล

แผ่นดินไหวขนาด 5.8 ในไต้หวัน-ไม่มีรายงานความเสียหาย

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไต้หวันรายงานวันนี้ว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดด 5.8 ที่เทศมณฑลอี้หลาน (Yilan) ซึ่งเป็นพื้นที่ชนบทห่างไกลทางตจะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

ข่าวแนะนำ

บขส.เสริมรถอีก 1,000 คัน รองรับผู้โดยสารขาออกวันนี้

การเดินทางขาออกในเทศกาลสงกรานต์ 2568 ถือว่ารถโดยสารของ บขส. ยังมีบทบาทสำคัญ เพราะเป็นวันหยุด มีผู้โดยสารเดินทางแน่นตลอดวัน วันนี้ บขส.เสริมรถอีก 1,000 คัน รองรับผู้โดยสาร

นายกฯ เปิดงาน “Maha Songkran World Water Festival 2025”

นายกรัฐมนตรี เปิดงาน “Maha Songkran World Water Festival 2025” ณ ท้องสนามหลวง ฉลองปีใหม่ไทย จัดเต็มปรากฏการณ์สาดความสุขครั้งยิ่งใหญ่ หนุนมรดกไทยสู่ World Event ระดับโลก

สงกรานต์หาดใหญ่ คาดเงินสะพัด 780 ล้านบาท

สงกรานต์หาดใหญ่ จ.สงขลา ปีนี้คึกคัก ททท. คาดมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาร่วมกิจกรรมกว่า 7 หมื่นคน เงินสะพัดทั่วจังหวัดกว่า 780 ล้านบาท

สงกรานต์เชียงใหม่วันแรกชุ่มฉ่ำทั่วทั้งเมือง

สงกรานต์ จ.เชียงใหม่ วันแรกคึกคัก ชาวเชียงใหม่-นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ แห่ร่วมกิจกรรม เล่นสาดน้ำชุ่มฉ่ำทั่วทั้งเมืองตลอดวันจนถึงช่วงค่ำ