อุทัยธานี 9 ก.ค. – เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติวางแผนจับเสือโคร่งที่ออกจากป่าห้วยขาแข้ง มาทำร้ายแพะของราษฎร โดยจัดเหยื่อล่อ แล้วจะให้ชุดเจ้าหน้าที่ยิงยาสลบจับ จากนั้นเคลื่อนย้ายด้วยเฮลิคอปเตอร์ไปยังเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร
นายธนิตย์ หนูยิ้ม ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ชุดเฝ้าระวัง 3 ชุด ออกลาดตระเวนหาร่องรอยของเสือโคร่งที่ออกจากอุทยานแห่งชาติห้วยขาแข็ง จ. อุทัยธานีมากัดแพะของชาวบ้านที่บ้านบึงเจริญ ต.ระบำ อ.ลานสัก ตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม แต่ไม่พบตัว แต่ชาวบ้านระบุว่า ได้ยินเสียงเสือโคร่ง เป็นเหตุทำให้สัตว์เลี้ยงแตกตื่น เจ้าหน้าที่สถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำยังตรวจสอบสัญญาณวิทยุที่ติดกับปลอกคอเสือ (GPS Collar) เพื่อจะได้ทราบตำแหน่ง และผลักดันกลับเข้าป่า แต่รับสัญญาณไม่ได้
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่คาดว่า เสือโคร่งยังวนเวียนอยู่ตามชายขอบป่า แม้จะไม่พบร่องรอยก็ตาม ดังนั้นเพื่อความไม่ประมาทจึงหารือเพื่อวางแผนการปฏิบัติงานจับเสือคืนป่า โดยกำหนดมาตรการดังนี้ 1.จัดชุดเฝ้าระวัง 7 ชุด เพื่อเฝ้าระวังตามจุดเสี่ยงในพื้นที่ป่ารอยต่อกับชุมชน และลาดตระเวนกดดันเสือตามพื้นที่รอยต่อป่าและชุมชนกับบริเวณจุดเลี้ยงสัตว์ของชาวบ้านในหมู่บ้าน 3 ชุดและเพิ่มเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังบริเวณคอกปศุสัตว์ในหมู่บ้าน 4 ชุด 2. ให้สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้งจัดเตรียมเหยื่อล่อและจัดทำสถานที่ดักจับเสือ ร่วมกับสถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ โดยทำคอกวางเหยื่อล่อไว้ 2 จุด 3.ประสานและจัดเตรียมสัตวแพทย์เพื่อยิงยาสลบ 5 ชุด พร้อมปฏิบัติการในวันนี้
4.ให้สถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งตรวจสอบร่องรอยและตรวจสอบกล้องดักถ่ายภาพ ในช่วงเช้าทุกวันจนกว่าจะปฏิบัติงานเสร็จ โดยขยายพื้นที่ตรวจสอบให้ครอบคลุมพื้นที่กว้างขึ้นกว่าเดิม และ 5. เมื่อดักจับได้ กำหนดจะเคลื่อนย้ายเสือโคร่งตัวนี้ไปยังพื้นที่ใหม่ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันออกด้วยเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งขณะนี้ติดต่อประสานงานกับผู้ประสานงานแผนบินเป็นการเบื้องต้นแล้ว รวมทั้งได้ประสานงานกับหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันออกพิจารณาเลือกพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับปล่อยเสือตัวดังกล่าวแล้ว. – สำนักข่าวไทย