นนทบุรี 13 พ.ค.-กรมการค้าต่างประเทศเผยช่วง 4 เดือนแรกปี 2564 มียอดขอ Form E ส่งออกผลไม้เพิ่ม เตรียมให้ใช้ระบบ Electronic Signature and Seal (ESS) อำนวยความสะดวกจุดเดียวแบบเบ็ดเสร็จ
นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2564 (มกราคม – เมษายน) กรมฯ ออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า Form E ภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) จำนวน 80,528 ฉบับ คิดเป็นมูลค่าการส่งออก 7,760 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในจำนวนนี้เป็นการขอหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า Form E สำหรับการส่งออกสินค้าผลไม้ จำนวน 30,412 ฉบับ คิดเป็นมูลค่าการส่งออกกว่า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.21 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีมูลค่า 1,390 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยผลไม้ที่มีการส่งออกสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1.ทุเรียนสด ร้อยละ 71.07 อันดับ 2.มะพร้าวทั้งกะลา ร้อยละ 5.25 และ 3.มังคุด ร้อยละ 2.08
อย่างไรก็ดี ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ที่จำเป็นต้องมีการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) กรมการค้าต่างประเทศจึงได้ร่วมมือกับจีนในการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการโดยผลักดันการใช้ระบบการลงลายมือชื่อและตราประทับอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Signature and Seal: ESS) สำหรับการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า Form E ซึ่งระบบดังกล่าวเป็น 1 ใน 85 รายการของบริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียวของกระทรวงพาณิชย์ (MOC Online One Stop Service) ที่จะช่วยลดขั้นตอน ลดระยะเวลา และลดการสัมผัสเอกสารเนื่องจากไม่จำเป็นต้องมีการประทับตราและลงนามแบบสด รวมทั้งระบบ ESS ยังช่วยลดการตรวจสอบย้อนกลับ (Verify) จากประเทศปลายทาง เนื่องจากลายมือชื่อและตราประทับเป็นมาตรฐานเดียวกัน
โดยผู้ประกอบการสามารถยื่นคำขอผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมฯ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และหลังจากที่เจ้าหน้าที่พิจารณาอนุมัติคำขอแล้ว ระบบ ESS จะนำลายมือชื่อและตราประทับอิเล็กทรอนิกส์จากฐานข้อมูลของกรมฯ มาพิมพ์บนฟอร์มโดยอัตโนมัติ ช่วยให้ผู้ประกอบการได้รับความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และสามารถลดเวลาในการขอรับฟอร์มเหลือเพียง 10 นาที/ฉบับ จากเดิมที่เจ้าหน้าที่และผู้ประกอบการต้องลงลายมือชื่อและประทับตราแบบสด ซึ่งใช้เวลากว่า 30 นาที/ฉบับ
ทั้งนี้ กรมฯ จะสามารถเริ่มออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า Form E ด้วยระบบ ESS สำหรับการส่งออกไปจีนได้ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม จึงขอเชิญชวนให้ผู้ประกอบการยื่นคำขอจดทะเบียนเพื่อส่งตัวอย่างลายมือชื่อของกรรมการหรือผู้รับมอบอำนาจ และตราประทับของนิติบุคคล (ถ้ามี) ผ่านระบบ Registration Database ของกรมฯ (http://reg-users.dft.go.th) ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ยกเว้นผู้ประกอบการที่เคยจดทะเบียนลายมือชื่อและตราประทับอิเล็กทรอนิกส์สำหรับหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าฟอร์มอื่นที่ใช้ระบบ ESS แล้ว ไม่จำเป็นต้อง จดทะเบียนใหม่อีกครั้งได้ต่อไป-สำนักข่าวไทย