สตง. 13 พ.ค.-สตง. เข้าตรวจสอบการจัดเก็บรายได้ค่าธรรมเนียมการเก็บและขนมูลฝอยขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) พบไม่มีประสิทธิภาพและไม่เป็นไปตามกฎหมายทำให้รัฐต้องจัดสรรงบประมาณในการบริหารการจัดเก็บและขนมูลฝอยเพิ่มขึ้นทุกปี และอาจส่งผลต่อสภาวะแวดล้อมและสุขอนามัยของประชาชน
นายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินเปิดเผยว่า สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)ได้ตรวจสอบการจัดเก็บรายได้ค่าธรรมเนียมการเก็บและขนมูลฝอยขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)ในปีงบประมาณ 2562 โดยสุ่มตรวจสอบ อปท. จำนวน 71 แห่งในพื้นที่ 70 จังหวัดและกรุงเทพมหานคร เพื่อให้อปท.ให้ความสำคัญและเพิ่มความสามารถในการจัดเก็บรายได้ค่าธรรมเนียมการเก็บและขนมูลฝอยได้อย่างครบถ้วน ทั่วถึง และเป็นธรรมรวมถึงเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และหนังสือสั่งการที่เกี่ยวข้อง
จากการตรวจสอบพบว่า อปท. จำนวน 67 แห่งคิดเป็นร้อยละ 94.37จัดทำประมาณการรายได้ค่าธรรมเนียมไม่ครอบคลุมจำนวนครัวเรือนที่ให้บริการเก็บและขนมูลฝอยโดยรายได้ที่จัดเก็บได้จริงไม่สัมพันธ์กับการจัดทำประมาณการรายได้ เช่น อปท. จำนวน 35 แห่ง ตั้งประมาณการรายได้ในปีงบประมาณ 2562 ไว้เท่ากับปีงบประมาณ 2561 แต่จัดเก็บรายได้จริงได้ต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ถึง 13 แห่ง นอกจากนี้ ยังพบว่า อปท. จำนวน 51 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 71.83 สามารถระบุข้อมูลจำนวนครัวเรือนที่ให้บริการเก็บและขนมูลฝอยได้ แต่ไม่สามารถจัดเก็บค่าธรรมเนียมฯ จากครัวเรือนที่ให้บริการได้อย่างครบถ้วน
นอกจากนี้ การจัดเก็บรายได้ค่าธรรมเนียมการเก็บและขนมูลฝอยของ อปท. ไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด อาทิ การจัดทำฐานข้อมูลทะเบียนคุมเกี่ยวกับการจัดเก็บรายได้ไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วนและไม่เป็นปัจจุบันจำนวน 57แห่งคิดเป็นร้อยละ80.28 นอกจากนี้ ยังพบกรณีการจัดเก็บรายได้ค่าธรรมเนียมการเก็บและขนมูลฝอยไม่ครบถ้วนครอบคลุมทุกครัวเรือนที่ให้บริการการจัดทำหลักฐานการรับเงินมีรายละเอียดไม่ครบถ้วนและการนำส่งเงินไม่เป็นไปตามระเบียบหรือมีการบันทึกรายการบัญชีไม่ถูกต้องและไม่เป็นปัจจุบัน ตลอดจนการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมไม่ครอบคลุมทุกประเภทของผู้รับบริการ
ขณะเดียวกัน อปท. ส่วนใหญ่มีการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมแนบท้ายประกาศแตกต่างกันและไม่เหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจและการจัดเก็บรายได้ค่าธรรมเนียมไม่สอดคล้องกับค่าใช้จ่ายด้านการบริหารจัดการมูลฝอย จากการตรวจสอบพบว่า อปท.จำนวน 64 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 90.14 ใช้เทศบัญญัติที่ประกาศไว้ก่อนปี 2559ทั้งที่กฎกระทรวงว่าด้วยอัตราค่าธรรมเนียมการให้บริการเก็บขนและกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยและอัตราค่าธรรมเนียมอื่น พ.ศ.2538 และ 2545ที่ อปท. ใช้อ้างอิงดังกล่าวได้ถูกยกเลิกไปแล้ว และยังพบความแตกต่างในการกำหนดค่าธรรมเนียมเ
ทั้งนี้เพื่อให้การจัดเก็บรายได้ค่าธรรมเนียมการเก็บและขนมูลฝอยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด สตง. จึงมีข้อเสนอแนะให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณานำร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย พ.ศ…..เสนอผู้มีอำนาจเพื่อให้มีการบังคับใช้รวมถึงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการจัดเก็บขนและกำจัดมูลฝอยให้สอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริง แจ้งให้อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นพิจารณาดำเนินการส่งเสริม สนับสนุนและให้ความรู้กับผู้บริหาร อปท. ให้ทราบถึงความสำคัญในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่2)พ.ศ.2560 โดยจัดให้มีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำและช่วยเหลือข้าราชการในส่วนท้องถิ่นในการจัดทำแผนงานโครงการในการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาจังหวัด
แจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดพิจารณาดำเนินการเร่งรัดให้ อปท. ออกข้อบัญญัติ/เทศบัญญัติ การจัดการขยะมูลฝอยของ อปท. เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวกับการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยและกิจการอื่นใดที่จำเป็นเกี่ยวข้องและกำชับให้บันทึกข้อมูลด้านการบริหารจัดการขยะมูลฝอยลงในระบบสารสนเทศของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นให้ครบถ้วนถูกต้องและเป็นปัจจุบันเพื่อประโยชน์ในการวางแผนการบริหารจัดการการเก็บและขนมูลฝอยให้มีประสิทธิภาพรวมถึงแจ้งให้ผู้บริหารอปท.ให้ความสำคัญกับการจัดทำประมาณการรายรับ ทุกประเภทพร้อมทั้งเร่งรัดการประเมินค่าธรรมเนียม เพื่อให้เป็นฐานข้อมูลในการจัดเก็บค่าธรรมเนียมให้ครบถ้วนถูกต้องและครอบคลุมเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ประชาชนที่ชำระค่าธรรมเนียมอย่างถูกต้อง-สำนักข่าวไทย