กรุงเทพฯ 12 พ.ค.- ชาร์จ แมเนจเม้นต์ ผู้นำด้านการสร้าง EV Charging Ecosystem เปิดตัวเลขตลาดอุปกรณ์ชาร์จรถ EV แตะ 1.4 หมื่นล้านบาท แนวโน้มเติบโตไปพร้อมกับรถ EV มอง 3 ปัจจัยหลัก นโยบายภาครัฐ ราคารถ EV ถูกลง และเทคโนโลยีทันสมัยขึ้น
นายพีระภัทร ศิริจันทโรภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นต์ จำกัด (SHARGE) ผู้นำด้านการสร้าง EV Charging Ecosystem เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน เปิดเผยว่า จากการสำรวจข้อมูลของ SHARGE พบว่าปัจจุบันตลาดอุปกรณ์ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า(EV Charging) เป็นตลาดที่กำลังได้รับความสนใจไม่ต่างจากตลาดของรถ EV เพราะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สนับสนุนให้ผู้ใช้รถ EV เกิดความมั่นใจในการเปลี่ยนมาใช้รถ EV มากขึ้น ปัจจุบันตลาด EV Charging ในประเทศไทยมีประมาณ 2,100 หัวชาร์จ และพบว่าผู้ประกอบการรายใหญ่ต่างหันมาจับตลาด EV Charging จึงทำให้ให้คาดว่าภายใน 4 ปี มูลค่าการตลาดจะเติบโตขึ้นไปแตะ 1.4 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มกว่า 170 เท่าตัวจากปัจจุบัน ซึ่งสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับเป้าหมายของคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ที่คาดว่าจะมีการใช้รถ EV รวมทุกประเภทในปี 2568 ที่ 1,055,000 คัน
ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่จะสนับสนุนให้การเติบโตของตลาด EV Charging ในประเทศไทย ให้เป็นไปตามโรดแมปของคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติได้นั้น SHARGE วิเคราะห์ว่า มาจากปัจจัยหลัก 3 ประการ ได้แก่1. จากนโยบายการลดคาร์บอนให้เป็นศูนย์และรัฐบาลมีแผนแม่บทที่ชัดเจนในการพัฒนารถ EV โดยเฉพาะการตั้งเป้าให้ไทยเป็นฐานการผลิตรถ EV 2. ค่ายรถยนต์หันมาผลิตรถ EV ในตลาดรถยนต์ราคาประหยัดที่ราคาจับต้องง่ายมากขึ้น 3. นวัตกรรมการชาร์จที่รวดเร็วขึ้นแต่วิ่งได้ไกลขึ้น จากการแข่งขันทางเทคโนโลยีของค่ายรถที่ผลิตรถ EV รุ่นใหม่ให้ชาร์จเร็วได้ภายในระยะเวลาสั้นลงและขับไปได้ไกลขึ้น การพัฒนานี้จะสนับสนุนการเปิดสถานีบริการชาร์จเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น
“SHARGE มองว่าในอนาคตจะเกิดการแข่งขันที่สูงในตลาด EV Charging ตามการคาดการณ์ว่าตลาดรถ EV จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่ปีข้างหน้า และความต้องการเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นตาม ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้บริโภค ทำให้เกิดการแข่งขันสมบูรณ์ ผู้บริโภคเข้าถึงเครื่องชาร์จในราคายุติธรรม ทั้งนี้ราคาของอุปกรณ์การชาร์จรถ EV ถือว่าปรับลดลงไปในทิศทางเดียวกับราคาของรถ EV โดยในช่วงที่นำเข้าแรกๆ ราคาจะอยู่ในหลักแสนบาทขึ้นไป แต่ในปัจจุบันราคาได้ปรับลดลงมาค่อนข้างมาก เริ่มต้นที่ 40,000 บาท ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดี” นายพีระภัทร กล่าว.-สำนักข่าวไทย