เมืองสีเขียวแลนด์มาร์กแห่งใหม่

กรุงเทพฯ 11 พ.ค. – ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ ยกระดับศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ สร้างเป็นอาคารอัจฉริยะต้นแบบเมืองสีเขียว


นายนาฬิกอติภัค แสงสนิท กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด หรือ ธพส. เปิดเผยว่า แผนการก่อสร้างพื้นที่ส่วนขยายศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ โซนซี มูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท ที่มีกำหนดแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2566 เป็นโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานและที่จอดรถ 11 ชั้น ชั้นใต้ดิน 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอยอาคารรวม 660,000 ตารางเมตร แบ่งเป็นอาคารสำนักงานของส่วนราชการ สโมสรศูนย์ราชการ และลานอเนกประสงค์ เน้นออกแบบสวนบนอาคาร และสวนสาธารณะ เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว ตั้งเป้าเป็นเมืองต้นแบบการอนุรักษ์พลังงานอย่างยั่งยืน แลนด์มาร์กแห่งใหม่ของกรุงเทพมหานคร

นอกจากนี้ยังเตรียมก่อสร้างอาคารที่จอดรถ และศูนย์ซ่อมบำรุง (DEPOT) เพื่อเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะ ช่วยลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว แก้ไขปัญหาการจราจรที่ติดขัด และเพื่อเป็นตัวอย่างเมืองต้นแบบของการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ประมาณเดือนพฤษภาคม 2564 ธพส. เตรียมก่อสร้างพื้นที่ส่วนขยาย โซนซี ในส่วนของอาคารทางด้านทิศเหนือ พร้อมกับทำการก่อสร้างอาคารจอดรถชั้นใต้ดินให้แล้วเสร็จ คาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในเดือนพฤศจิกายน 2564 ส่วนการก่อสร้างในส่วนของอาคารทิศตะวันตก ทิศตะวันออก และอาคารสนับสนุน จะเริ่มก่อสร้างในเดือนพฤศจิกายน 2564 โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2566 ซึ่งเป็นไปตามแผนงบประมาณที่กำหนดไว้


สำหรับการบริหารจัดการพื้นที่ภายในศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ จะให้ความสำคัญใน 2 เรื่องหลัก คือ การจัดการด้านจราจร และการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม โดยในเรื่องของการจราจร ธพส. จะสนับสนุนให้ใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากยิ่งขึ้น โดยการสร้างที่จอดรถขนาดใหญ่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า พร้อมจัดให้มีช่องจอดรถเมล์ไฟฟ้าจำนวน 12 คัน คอยวิ่งให้บริการประชาชน

โดยเปิดให้เอกชนเข้ามารับสัมปทานเส้นทางการเดินรถใน 3 เส้นทางคือ 1. ภายในศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ 2. สถานีรถไฟฟ้าทุ่งสองห้อง (สายสีแดง) – ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ และ 3. รถไฟฟ้าสถานีศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ (สายสีชมพู) – ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาจราจรติดขัดโดยรอบ ขณะเดียวกัน ธพส. จะประสานความร่วมมือตัดถนนหมายเลข 10 เพื่อให้รถยนต์สามารถวิ่งเลาะรั้วการประปานครหลวงไปออกยังถนนประชาชื่น เพื่อช่วยให้การจราจรคล่องตัวยิ่งขึ้น

ส่วนด้านสิ่งแวดล้อมนั้น ธพส. พร้อมเนรมิตพื้นที่โดยรอบให้เป็นเสมือนปอดอีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร ด้วยการปลูกต้นไม้กว่า 1,200 ต้น พร้อมก่อสร้างลานกิจกรรม และสถานที่ออกกำลังกาย ให้ประชาชนโดยรอบได้ใช้ประโยชน์เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และมุ่งหวังให้เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของกรุงเทพมหานคร ด้วยพื้นที่กว่า 21 ไร่ บนถนนแจ้งวัฒนะ หวังยกระดับให้ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ กลายเป็นโมเดลของเมืองต้นแบบที่มีความทันสมัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ลดมลพิษในอากาศ เมืองสีเขียวแลนด์มาร์กแห่งใหม่.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง