WINMED เปิดเทรดวันแรกที่ 7.30 บาท สูงกว่าราคาขาย IPO 135.48%
กรุงเทพฯ 11 พ.ค. – หุ้น WINMED เปิดเทรดวันแรกที่ 7.30 บาท เพิ่มขึ้น 4.20 บาท (+135.48%) จากราคาขาย IPO ที่ 3.10 บาท/หุ้น
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้รับหลักทรัพย์ บมจ.วินเนอร์ยี่ เมดิคอล ชื่อย่อหลักทรัพย์ WINMED เริ่มทำการซื้อขายในตลาด mai ในวันที่ 11 พ.ค.ในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค
กลุ่มบริษัท WINMED ดำเนินธุรกิจเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายเครื่อง และชุดอุปกรณ์เพื่อการตรวจวิเคราะห์ วินิจฉัยและ/หรือบำบัดรักษาทางการแพทย์ รวมถึงเครื่องมือและอุปกรณ์เพื่อการเก็บรักษาโลหิตและผลิตภัณฑ์ของโลหิต ซึ่งบริษัทได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิต 23 บริษัท ใน 12 ประเทศ โดยได้รับการแต่งตั้งเป็น Exclusive Distributor จากบริษัทผู้ผลิตชั้นนำจากทั่วโลก เช่น ประเทศเยอรมนี ประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศสเปน เป็นต้น รวมถึงเป็นตัวแทนของบริษัทผู้ให้บริการตรวจวินิจฉัยด้านพันธุศาสตร์จากต่างประเทศสำหรับการให้บริการตรวจสารพันธุกรรมและความผิดปกติของทารกในครรภ์
นอกจากนี้ มีบริษัทย่อยดำเนินธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ที่เกี่ยวกับสุขภาพและสุขอนามัย โดยในปี 2563 บริษัทมีสัดส่วนกลุ่มลูกค้าผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ ได้แก่ หน่วยงานและห้องปฏิบัติการฯของรัฐบาล ร้อยละ 63 โรงพยาบาล คลินิคและห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ของเอกชน ร้อยละ 26 และองค์กรการกุศล เช่น ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ร้อยละ 11
นายนันทิยะ ดารกานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วินเนอร์ยี่ เมดิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ WINMED กล่าวว่า การเข้าซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรกถือว่าได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างดี โดยการระดมทุนของบริษัทในครั้งนี้ บริษัทพร้อมเดินหน้าลงทุนก่อสร้างห้องปฏิบัติการตรวจหาเชื้อไวรัส HPV ผ่านชุดเก็บเซลล์จากช่องคลอดด้วยตนเอง (Self Collect) เริ่มก่อสร้าง ไตรมาส 2/64 คาดรับรู้รายได้ไตรมาส 3/64 และห้องปฏิบัติการที่ครอบคลุมด้านงาน การเตรียมผลิตภัณฑ์เซลล์เพื่อการรักษาด้วยวิธีเซลล์บำบัด (Cell Therapy) เริ่มก่อสร้างไตรมาส 3/64 คาดรับรู้รายได้ไตรมาส 1/65
“ภาพรวมตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องมือ-อุปกรณ์ทางการแพทย์ยังมีแนวโน้มที่จะขยายตัว โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก ผู้บริโภคให้ความสำคัญและใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น และได้รับการสนับสนุนจากโครงการภาครัฐ ตรวจหาเชื้อ HPV เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการคัดกรองมะเร็งปากมดลูก หนุนความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อีกทั้งผลิตภัณฑ์ของบริษัทเป็นกลุ่มนวัตกรรมทางการแพทย์ ทำให้มีผู้แข่งขันน้อยราย เน้นการแข่งขันในด้านคุณภาพมากกว่าราคา” นายนันทิยะ กล่าว . – สำนักข่าวไทย