ASW เปิดเทรดวันแรก 11.80 บาท จากราคา IPO ที่ 9.82 บาท

กรุงเทพฯ 28 เม.ย. – “แอสเซทไวส์” หรือ ASW เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัยพ์ฯ วันแรก เปิดทำการซื้อขายที่ 11.80 บาทต่อหุ้น ราคาพุ่ง 20.16% จากราคาจอง 9.82 บาทต่อหุ้น


 บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันนี้ (28 เม.ย.2564) เป็นวันแรก พบว่า ราคาหุ้นเปิดการซื้อขายที่ 11.80 บาทต่อหุ้น ปรับขึ้น 1.98 บาท หรือปรับขึ้น 20.16% จากราคาจองซื้อที่ 9.82 บาทต่อหุ้น

ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทที่ประกอบด้วย ASW และบริษัทย่อยทั้งหมด 15 บริษัท แบ่งเป็น ธุรกิจหลัก คือ พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ทั้งโครงการอาคารชุดที่พักอาศัยประเภทคอนโดมิเนียม และโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทแนวราบ ได้แก่ บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮมและโฮมออฟฟิศ จำนวน 12 บริษัท และบริษัทย่อยอีก 3 บริษัท ประกอบธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย เช่น ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เช่าและธุรกิจรับฝากขายฝากเช่าอสังหาริมทรัพย์ฃ


นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอสเซทไวส์ เปิดเผยว่า การนำหุ้นสามัญของบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับบริษัทฯ และเสริมความแข็งแกร่งด้านการเงินของบริษัททั้งในแง่ของต้นทุนทางการเงินที่ลดลง ความเชื่อมั่นของคู่ค้า และผู้บริโภค รวมถึงเพิ่มโอกาสในการขยายลงทุนและพัฒนาโครงการใหม่ ผลักดันผลการดำเนินงานให้เติบโตตามแผนงานที่วางไว้ในอนาคต พร้อมใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และถึงชำระคืนหนี้สถาบันการเงิน

สำหรับผลการดำเนินงานสิ้นปี 2563 บริษัทมียอดขายรอโอนกว่า 7,800 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในปี 2564 – 2566  และปัจจุบันมีโครงการอยู่ระหว่างการก่อสร้างและเปิดขาย 8 โครงการ มูลค่า 11,377 ล้านบาท และโครงการในอนาคตอีก 11 โครงการ มูลค่ารวม 21,202 ล้านบาท ซึ่งจะพัฒนาและขายใน 4 – 5 ปีข้างหน้า ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตได้ในระยะยาว

ขณะที่ ปี 2563 ที่ผ่านมาบริษัทมีกำไรสุทธิ 873.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 169.1% จากปี 63 ที่มีกำไร 324.74 ล้านบาท มีรายได้จากการขายและบริการ 4,205.02 ล้านบาท โดยรายได้หลักๆมาจากการขายอสังหาริมทรัพย์  ซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้น เพราะมีโครงการที่เริ่มโอนกรรมสิทธิ์ในระหว่างปี อย่างไรก็ดีเชื่อว่าในปีนี้จะเติบโตต่อเนื่อง


ทั้งนี้ ในปี 2564 บริษัทเตรียมเปิด 6 โครงการใหม่ มูลค่า 10,850 ล้านบาท และมีโครงการในอนาคตพร้อมพัฒนาและ ขายใน 4-5 ปีข้างหน้าจำนวน 11 โครงการมูลค่า 21,202 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี ยอมรับว่า มีความกังวลกับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดระลอกใหม่ที่ส่งผลกระทบกับการเข้าชมโครงการ และซื้ออสังหาริมทรัพย์ ซึ่งได้มีการปรับตัวอยู่ตลอด ทั้งมาตรการดูแลความสะอาดและปลอดภัยตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข  พร้อมปรับกลยุทธ์การตลาดเน้นสื่อสารผ่านทางออนไลน์มากขึ้น เน้นการนัดเข้าชมโครงการล่วงหน้า รวมถึงการจองและโอนจะมีการพูดคุยและนัดล่วงหน้ากับลูกค้าก่อน  เชื่อว่าหากลูกค้าคลายความกังวลแล้วจะกลับเข้ามาชมโครงการอีกครั้ง และยอดขายก็จะดีขึ้นตามลำดับ . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด