กรมสรรพสามิต 29 ม.ค.- กรมสรรพสามิต บุกทลายโกดังบุหรี่เถื่อน อ.หัวหิน เงินค่าปรับ 169 ล้านบาท เดินหน้าปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิต ลดแรงจูงใจบุหรี่เถื่อน เสนอคลังพิจารณา มี.ค.นี้ ผลักดันเสนอภาษีเพิ่มแรงจูงใจผลิตรถยนต์ไฟฟ้า
นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า สรรพสามิตบุกทลายโกดังเก็บบุหรี่เถื่อน ในเขตพื้นที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังได้รับแจ้งเบาะแสผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิต ผ่านสายด่วน 1713 ผู้แจ้งให้ข้อมูลว่า มีผู้ใช้ Line เพื่อจำหน่ายบุหรี่หนีภาษี โดยใช้ไอดีไลน์ “@Jackkee” มีการลักลอบนำเข้ามาจากชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน จึงได้สืบสวนหาข่าว ทั้งจากทางออนไลน์ของศูนย์ปราบปรามสินค้าออนไลน์ กรมสรรพสามิต จับกุมผู้กระทำผิด 2 จุด ค้นพบบุหรี่ไม่ได้เสียภาษี 200,000 ซอง มูลค่าของกลาง 16 ล้านบาท แต่มูลค่าภาษีที่รัฐเสียหายเงินค่าปรับ 10 เท่าของมูลค่าสินค้า เป็นเงิน 169 ล้านบาท
อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวเพิ่มเติมว่า การปราบปรามในงบประมาณปี 2564 รอบ 4 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 – 28 มกราคม 2564 พบว่ามีการกระทำผิด จำนวน 9,595 คดี เป็นเงินค่าปรับ 177 ล้านบาท ขณะนี้กรมสรรพสามิตอยู่ระหว่างการศึกษาโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ เพื่อลดแรงจูงใจในการลักลอบนำเข้าบุหรี่เถื่อน โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบ ผลกระทบต่อสุขภาพ ลดแรงจูงใจในการหลีกเลี่ยงภาษีนำสินค้าเถื่อนเข้าประเทศ และไม่กระทบต่อรายได้ภาครัฐ หารือกับกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเบื้องต้นแล้ว เตรียมเสนอกระทรวงคลัง และ ครม.พิจารณาในเดือนมีนาคมนี้ สำหรับรายได้ภาษีกรมสรรพสามิต ในปี 2564 อาจต่ำกว่าเป้าหมายงบประมาณ 530,000 ล้านบาท เพราะในช่วงนั้นคาดการณ์จีดีพีขยายตัวร้อยละ 4-5 แต่ปัจจุบันคาดว่าจีดีพีขยายตัวเพียงร้อยละ 2.8
“หากประชาชนท่านใดทราบเบาะแสการกระทำความผิดเกี่ยวกับสินค้าที่ต้องเสียภาษีสรรพสามิต สามารถแจ้งโดยตรงได้ที่กรมสรรพสามิต หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ทุกแห่งทั่วประเทศ หรือ Call center 1713 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่ www.excise.go.th ซึ่งกรมสรรพสามิตจะปกปิดข้อมูลของผู้แจ้งเบาะแสเป็นความลับ และจะมอบสินบนนำจับให้ ภายหลังจากคดีเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว” อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าว.-สำนักข่าวไทย