กรุงเทพฯ 4 มิ.ย.-กรมสรรพสามิต เดินหน้าขับเคลื่อนโครงการ “1 ชุมชน 1 สรรพสามิต แชมเปี้ยน” ประจำปี 2568 ส่งเสริมผู้ประกอบการสุราชุมชนทั่วประเทศให้ยกระดับการผลิตด้วยแนวคิด ESG หวังสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งและยั่งยืน
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธานมอบรางวัลโครงการ “1 ชุมชน 1 สรรพสามิต แชมเปี้ยน” ประจำปี 2568 ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการสุราชุมชนทั่วประเทศให้ยกระดับการผลิตด้วยแนวคิด ESG (Environment, Social, Governance) โครงการดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก โดยกรมได้ปรับลดภาษีสุราแช่พื้นบ้านจากร้อยละ 10 เหลือร้อยละ 0 ตั้งแต่ปี 2567 เพื่อลดต้นทุนผู้ผลิต พร้อมผลักดันกฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ. 2565 ฉบับใหม่ ซึ่งครม.ให้ความเห็นชอบเมื่อ 13 พ.ค. 2568 ช่วยลดข้อจำกัดด้านกฎหมาย เช่น ผ่อนปรนระยะห่างจากแหล่งน้ำ เปิดโอกาสขอใบอนุญาตผลิตสุราขนาดกลาง และอนุญาตจำหน่ายเบียร์สดแบบถังนอกสถานที่ผลิตได้
โครงการนี้เป็นก้าวสำคัญในการยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการสุราชุมชนไทยให้เติบโตอย่างมั่นคง พร้อมสร้างสมดุลด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ควบคู่กับการปรับปรุงกฎหมายและนโยบายภาษีให้เอื้อต่อการพัฒนา Soft Power ของประเทศในระยะยาว
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพสามิตกล่าวว่า สำหรับปีนี้ กรมสรรพสามิตได้ขยายขอบเขตการประกวดให้ครอบคลุมผู้ผลิตคราฟต์เบียร์ โดยมีสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษาผู้ประกอบการในทุกมิติ ตั้งแต่การจัดการสิ่งแวดล้อม พัฒนาแรงงาน ดูแลสุขภาพแรงงาน ตลอดจนส่งเสริมธรรมาภิบาลและการเข้าถึงแหล่งทุน
การประกวดมีผู้ผ่านรอบจังหวัด 26 ราย แบ่งเป็นภาคเหนือ 4 ราย อีสาน 6 ราย ตะวันออก 2 ราย ตะวันตก 2 ราย กลาง 7 ราย และใต้ 5 ราย โดยมีผู้ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ 15 ราย แบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่
สุรากลั่นชุมชน: บริษัท เสือเต้น 22 (แพร่), ที เค กรุ๊ป โฮลดิ้ง (นนทบุรี), มหาโอสถ (นครปฐม), ดิเคน เอ็กซ์เชนจ์ (กระบี่), ยอดข้าวสุราทิพย์ (ตรัง)
สุราแช่ชุมชน: วิสาหกิจฯ บ้านไร่รุ้งตะวัน (ยโสธร), อี.เอช.ไอ.โตไก (ลำพูน), วิสาหกิจฯ บ้านตอไม้แดง (กาญจนบุรี), เต็มสิบพลัส (ระนอง), ดื่มได้ดื่มดีย์ (กรุงเทพฯ)
คราฟต์เบียร์: คอลมี ปาป๊า (นนทบุรี), โรงเบียร์สาลิกาลิ้นทอง (นครนายก), คราฟต์ โซไซตี้ (ขอนแก่น), นรสิงห์บริวเวอรี่ (สมุทรสาคร), สหประชาชื่น (กรุงเทพฯ)
ผลการตัดสิน ผู้ชนะเลิศประเภทสุรากลั่น ได้แก่ บริษัท มหาโอสถ จ.นครปฐม
ประเภทสุราแช่ ได้แก่ บริษัท อี.เอช.ไอ.โตไก จ.ลำพูน
และประเภทคราฟต์เบียร์ ได้แก่ บริษัท สหประชาชื่น จ.กรุงเทพมหานคร.-512.-สำนักข่าวไทย