ทำเนียบรัฐบาล 25 ธ.ค. – กพช. สวมบท ซานต้า อนุมัติเพิ่มราคาซื้อไฟโซลาร์ภาคประชาชนเป็น 2.20บาท/หน่วย พร้อมขยายการรับซื้อไปหน่วยงาน โรงเรียน/โรงพยาบาล/พื้นที่เกษตรค่าไฟฟ้า1บาท/หน่วย คาด ปี 64 ลงทุนได้กว่า 3,000 ล้านบาท
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมว่า ที่ประชุมเห็นชอบรับซื้อไฟฟ้า ในโครงการพลังงานแสงอาทิตย์โซลาร์ภาคประชาชน เป็นการรับซื้อไฟฟ้าส่วนเกินความต้องการใช้รวม 100 เมกะวัตต์เริ่มตั้งแต่ 1ม.ค.64 แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่
1.ปรับเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้าส่วนเกินจากกลุ่มบ้านผู้อยู่อาศัย (โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ภาคประชาชน) ที่จำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเป็น 2.20 บาท/หน่วย จากเดิมรับซื้อในราคาไม่เกิน 1.68 บาทหน่วยเป้าหมายการรับซื้อ 50 เมกะวัตต์ ระยะเวลารับซื้อ 10 ปี ทั้งนี้ ให้ครอบคลุมทั้งประชาชนที่เข้าร่วมโครงการใหม่และที่ได้ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าหรือได้เริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบแล้ว 2.20 เมกะวัตต์ ซึ่งการปรับเพิ่มอัตรารับซื้อไฟฟ้าให้ผลตอบแทนดีขึ้น สามารถคืนทุนภายใน 8 – 9 ปี เพื่อสร้างแรงจูงใจในการลงทุนและช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนประเภทบ้านอยู่อาศัย
2.ขยายผลการดำเนินโครงการฯ ไปยังกลุ่มโรงเรียนสถานศึกษา โรงพยาบาล และสูบน้ำเพื่อการเกษตร (โครงการนำร่อง) โดยกำหนดราคารับซื้อไฟฟ้าส่วนเกินที่จำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบ ในอัตรา 1.00 บาท/หน่วย แบ่งเป็นกลุ่มโรงเรียน สถานศึกษา 20 เมกะวัตต์ กลุ่มโรงพยาบาล 20 เมกะวัตต์ และแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร 10 เมกะวัตต์
หน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้จะต้องมีกำลังผลิตติดตั้งมากกว่า 10 กิโลวัตต์ แต่น้อยกว่า 200 กิโลวัตต์ระยะเวลารับซื้อ 10 ปี เพื่อให้เหมาะสมกับปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าและศักยภาพพื้นที่ สำหรับติดตั้งระบบโดยเฉลี่ย และส่งเสริมระบบผลิตไฟฟ้าแบบกระจาย
ในกรณีการลงทุนโดยภาครัฐในส่วนของกลุ่มโรงเรียนและโรงพยาบาล มอบหมายให้กระทรวงพลังงาน โดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานรับไปหารือกับกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาปรับปรุงกฎหมาย และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคาสามารถดำเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรม
” คาดว่าโครงการพลังงานแสงอาทิตย์โซลาร์ภาคประชาชนและโครงการนำร่องในกลุ่มโรงเรียนและโรงพยาบาล จำนวน 100 เมกะวัตต์ จะสามารถสร้างการลงทุนได้กว่า 3,000 ล้านบาทเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ จูงใจให้เกิดการลงทุนมากขึ้น” นายกุลิศกล่าว
ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน150 เมกะวัตต์คาดว่าจะมีการประกาศรับซื้อได้ประมาณเดือน มกราคม-กุมภาพันธ์2564 . – สำนักข่าวไทย