“เฉลิมชัย” สั่งด่วนให้ออกหนังสือรับรองส่งหมูไปกัมพูชา

กรุงเทพฯ 24 ธ.ค. – รมว. เกษตรฯ สั่งการด่วนให้กรมปศุสัตว์ออกหนังสือรับรองสุขอนามัยสัตว์ พร้อมเปิดด่านชายแดนกัมพูชา ให้ส่งออกสุกรไปยังกัมพูชาได้ตามปกติ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรไม่ให้ได้รับผลกระทบจากราคาตกต่ำ ด้านอธิบดีกรมปศุสัตว์แจง เร่งขอให้กัมพูชาเพิ่มการอนุญาตให้ผู้ประกอบการส่งสุกรได้มากขึ้น

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า สั่งการให้กรมปศุสัตว์ออกหนังสือรับรองสุขอนามัยสัตว์ (Health Certificate : HC) พร้อมทั้งมีคำสั่งให้ทุกด่านพรมแดนสามารถส่งออกสุกรไปยังกัมพูชาได้ตามปกติ ตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรโดยเร่งด่วน

ทั้งนี้เนื่องจากสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาการส่งออกสุกรมีชีวิตไปประเทศกัมพูชาว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถส่งออกได้ จากความขัดแย้งระหว่างโบรกเกอร์กลุ่มที่ได้รับสิทธิ์ทำการค้ากับประเทศกัมพูชากับอีกกลุ่มที่ไม่ได้รับสิทธิ์ โดยกลุ่มที่ไม่ได้รับสิทธิ์ใช้รถยนต์และรถบรรทุกปิดกั้นถนนไม่ให้รถขนสุกรผ่านจุดผ่านแดนได้ ปัญหาดังกล่าวยืดเยื้อนานกว่า 1 เดือน ส่งผลให้ปริมาณสุกรล้นตลาดจนกระทบต่อราคาหมูที่ตกต่ำลงอย่างมาก

พร้อมกันนี้กำชับให้กรมปศุสัตว์เร่งประสานงานกับทางการกัมพูชาให้พิจารณาเห็นชอบร่างหนังสือรับรองรับรองสุขอนามัยสัตว์ (HC) และใบอนุญาตนำสัตว์ออกนอกราชอาณาจักร ตามประกาศกรมปศุสัตว์ เรื่อง การขออนุญาต การออกใบอนุญาต วิธีการนำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านราชอาณาจักรสัตว์หรือซากสัตว์ พ.ศ. 2558 และพ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 วิธีการนำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านราชอาณาจักรสัตว์หรือซากสัตว์ พ.ศ.2558 ฉบับใหม่ ตามที่กัมพูชาเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดการนำเข้าใหม่ ทำให้ผู้ประกอบการซึ่งกัมพูชาอนุมัติให้ส่งสุกรเข้าได้มี 10 บริษัท จากเดิมที่เคยอนุมัติให้ผู้ประกอบการส่งเข้าได้จำนวนมากกว่านี้

นายสัตวแพทยสรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ชี้แจงกรณีที่นายสัตวแพทย์วิวัฒน์ พงษ์วิวัฒนชัย อุปนายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติระบุว่า ได้เรียกร้องให้รัฐบาลช่วยแก้ปัญหาผ่านนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และกรมปศุสัตว์ แต่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ อีกทั้งโยนความรับผิดชอบไปมาระหว่างกระทรวงพาณิชย์ กรมปศุสัตว์ รวมทั้งกระทรวงการต่างประเทศ โดยหากปัญหาดังกล่าวไม่ได้รับการแก้ไข เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรทั่วประเทศจะนัดรวมตัวกันครั้งใหญ่ เพื่อทวงถามคำตอบจากนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาลในวันนี้ (24 ธ.ค.)

นายสัตวแพทย์สรวิศกล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา หน่วยงานสุขภาพสัตว์และการผลิตราชอาณาจักรกัมพูชา (General Directorate of Animal Health and Production: GDAHP) มีจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ สงถึงกรมปศุสัตว์ แจ้งข้อกำหนด (requirement) การนำเข้า/นำผ่านสุกรมีชีวิตไปยังกัมพูชา/เวียดนามฉบับใหม่ พร้อมกับแจ้งอนุญาตให้ผู้ประกอบการ 5 บริษัทให้เป็นผู้ส่งออกได้ โดยให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 พฤศจิกายน ทำให้กลุ่มผู้ประกอบการที่เคยส่งออกได้มาก่อนอีก 24 บริษัทได้รับผลกระทบเนื่องจากไม่สามารถส่งออกได้ตามปกติ จึงเข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล รวมถึงได้รวมกลุ่มกันไปปิดกั้นถนนไม่ให้รถขนสุกรมีชีวิตเพื่อการส่งออกทางด่านช่องจอม จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ร่วมกับ สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการต่างประเทศ เร่งแก้ไขปัญหาให้กับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง จนเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ที่ผ่านมา ทาง GDAHP แจ้งอนุญาตให้ผู้ประกอบการส่งสุกรไปยังกัมพูชาเพิ่มอีก 5 บริษัท รวมเป็น 10 บริษัท

ปัจจุบัน GDAHP ได้ผ่อนปรนให้ใช้หนังสือรับรองฉบับเดิมไปก่อนได้ กรมปศุสัตว์จึงสามารถออกหนังสือรับรองและใบอนุญาตให้ผู้ประกอบการได้ทันที หากมีผู้ประกอบการยื่นขออนุญาตพร้อมหลักฐานครบถ้วนถูกต้อง ซึ่งวานนี้ (23 ธ.ค.) มีผู้ประกอบการ ที่ GDAHP อนุญาตให้ส่งออกสุกรมีชีวิตไปยังประเทศกัมพูชาได้มายื่นขอหนังสือรับรองและใบอนุญาต ณ ด่านกักกันสัตว์ โดยกองสารวัตรและกักกัน กรมปศุสัตว์ ได้ตรวจสอบหลักฐานครบถ้วนถูกต้อง จึงได้ออกหนังสือรับรอง และใบอนุญาตแล้ว 4 ฉบับ

ทั้งนี้กรมปศุสัตว์ช่วยเหลือเต็มที่ ด้วยการส่งหนังสือขอเพิ่มรายชื่อผู้ส่งออกเพื่อให้ฝ่ายกัมพูชาพิจารณาแล้ว โดยกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ กระทรวงการต่างประเทศ ะเร่งติดตามการเจรจาขอเพิ่มรายชื่อผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตให้ส่งออก/นำผ่านไปกัมพูชา กับหน่วยงานภาครัฐของกัมพูชาด่วนที่สุด ตามมติที่ประชุมติดตามความคืบหน้าเพื่อแก้ไขปัญหาการส่งออกสุกรไปยังราชอาณาจักรกัมพูชา
อย่างไรก็ดี ทางกรมปศุสัตว์ได้ทำความเข้าใจกับสมคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติแล้วว่า เร่งช่วยเจรจากับทางการกัมพูชาอย่างเต็มที่ ทำให้ทางสมาคมฯ และเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรไม่มาประท้วงที่ทำเนียบตามที่แจ้งไว้ . – สำนักข่าวไทย