นนทบุรี 23 ธ.ค. – ปลัดพาณิชย์เผยประชาชนกังวลโควิดรอบใหม่หาซื้อหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ทุกพื้นที่เพียบ วอนใช้หน้ากากทางเลือกป้องกันได้ เร่งติดตามเจอร้านใดโกงราคาฟันด้วยกฎหมายจริง
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า หลังจากได้ให้พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศได้ออกตรวจสอบร้านขายยาและแหล่งจำหน่ายหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ทั่วประเทศในช่วงที่ผ่านมาหลังจากประชาชนมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการระบาดโควิด-19 กลับมาระบาดรอบใหม่ จึงได้หันมาหาซื้อหน้ากากอนามัยทางการแพทย์เพื่อปัองกันโควิด-19 นั้น โดยพาณิชย์จังหวัดแต่ละพื้นที่ได้ทำการตรวจเช็คร้านขายยาและพื้นที่ขายหน้ากากอนามัยของตนเอง ได้รายงานให้ทราบทุกพื้นที่ประชาชนมีการหาซื้อหน้ากากอนามัยทางการแทพย์ตามร้านขายยาและแหล่งขายทั่วไปกันมากขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมากันเป็นจำนวนมาก ทำให้ปริมาณสตอกหน้ากากอนามัยของแต่ละพื้นที่น้อยลงและบางพื้นที่หมดไป ซึ่งอยู่ระหว่างสั่งซื้อและจัดส่งจากทางโรงงานผลิตอยู่ คาดว่าภายใน 1-2 สัปดาห์ของจะส่งถึงทุกพื้นที่อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าร้านขายยาในพื้นที่ต่างๆจะมีปริมาณหน้ากากอนามัยน้อยลงไปบ้าง จึงได้ใช้วิธีจำกัดการซื้อของประชาชนต่อคนละไม่เกิน 4 ชิ้น 10 บาท หรือบางพื้นที่ให้ซื้อเพียง 1 กล่องในราคากล่องละ 120 บาทเท่านั้น ซึ่งร้านขายยาและแหล่งจำหน่ายหน้ากากอนามัยส่วนใหญ่ทั่วประเทศหลังจากพาณิชย์จังหวัดเข้าไปซื้อแบบไม่แจ้งล่วงหน้าทุกร้านจะขายในราคาไม่เกินกว่าราคาที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศควบคุมไว้ทั้งสิ้น โดยขายชิ้นละ 2.50 บาทหรือ 1 กล่อง 50 ชิ้น ราคาอยู่ที่ 120-125 บาท ดังนั้น ขณะนี้ ก็มีการร้องเรียนจากประชาชนอยู่บ้างว่ามีการขายหน้ากากอนามัยในราคาแพงต่อกล่องสูงเกินกว่า 300 บาทในจังหวัดชลบุรี แต่ได้ตรวจสอบร้านขายยาแล้วก็ไม่พบว่าร้านขายยาขายเกินราคาแต่อย่างใด จึงขอให้ประชาชนที่พบเห็นการกระทำของร้านขายยาหรือร้านค้าทั่วไปที่ขายหน้ากากเกินกว่าราคาที่ควบคุมไว้ร้องเรียนมาที่สายด่วน 1569 ได้ โดยขอให้ถ่ายรูปหรือหลักฐานที่พบให้กับทางเจ้าหน้าที่พาณิชย์จังหวัดจะได้ตรวจสอบและเอาผิดกับร้านค้าที่กระทำผิดต่อกฎหมายกันต่อไป
ทั้งนี้ จากปริมาณหน้ากากอนามัยในช่วงนี้จากเดิมไทยมีโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยเพียง 9 โรงผลิตต่อวันได้ 1.2 ล้านชิ้นต่อวัน แต่ตอนนี้ไทยมีโรงงานผลิตถึง 30 โรง ผลิตต่อวันได้ถึง 5 ล้านชิ้น ซึ่งใช้เพียงพอต่อบุคคลกรทางการแพทย์หรือกลุ่มเสี่ยงเพื่อป้องกันเชื้อโควิด-19 ได้ อีกทั้งยังมีหน้ากากอนามัยทางเลือกหรือหน้ากากผ้าที่กระทรวงสาธารณสุขยอมรับใช้ปัองกันโควิด-19 ได้จริง ทำให้ประชาชนไม่ต้องกังวลจะไม่มีหน้ากากใช้ป้องกัน แต่หากประชาชนจะไล่ซื้อหน้ากากอนามัยทางการแพทย์แบบสตอกกักตุนไว้จะทำให้การผลิตหน้ากากจะไม่เพียงพอในระบบแน่นอน ดังนั้ง จึงขอให้ประชาชนไม่ต้องเร่งซื้อหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ไว้มากจนเกินไป
ส่วนกลุ่มที่จะค้ากำไรเกินควรฉวยโอกาสขายหน้ากากให้กับประชาชนแพงเกินไป โดยมีโทษทางกฎหมายแรงมาก คือ ไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายถูกปรับ 10,000 บาท หรือจำหน่ายในราคาเกินกว่าที่กำหนด จะมีโทษ จำคุกไม่เกิน 7 ปีปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับต่อไป.-สำนักข่าวไทย