ปรับกรมทรัพย์สินทางปัญญาสู่ Smart DIP

นนทบุรี 16 พ.ย. – “วุฒิไกร” ปรับโฉมกรมทรัพย์สินทางปัญญา สู่ Smart DIP เตรียมเปิดตัว 3 โปรเจคตอบโจทย์ยุคดิจิทัล


นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญาให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อตอบโจทย์การให้บริการในยุคดิจิทัล โดยวางแผนขับเคลื่อนองค์กรสู่การเป็น Smart DIP ตั้งเป้าปรับโฉมงานบริการประชาชนให้อยู่บนแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างเบ็ดเสร็จครบวงจร เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการของกรมทรัพย์สินทางปัญญาในรูปแบบที่ง่ายขึ้นเพียงปลายนิ้วสัมผัส

สำหรับโครงการแรก e-Certificate จะนำเทคโนโลยีมาตอบโจทย์ประชาชนในการออกหนังสือสำคัญแสดงการรับจดทะเบียนรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Certificate จากเดิมที่ต้องรอหนังสือสำคัญฯ ในรูปแบบกระดาษ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 45-60 วัน หากนำระบบ e-Certificate มาใช้ ประชาชนจะได้รับ e-Certificate ภายใน 15 วันนับจากวันรับจดทะเบียน ส่งผลให้ประชาชนเจ้าของสิทธิสามารถนำทรัพย์สินทางปัญญาที่ได้รับจดทะเบียนไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์และทำธุรกิจได้เร็วขึ้น ทั้งนี้ ในระยะแรกจะให้บริการ e-Certificate กับการรับจดสิทธิบัตรในช่วงเดือนมกราคม 2564 และเครื่องหมายการค้าในช่วงเดือนมีนาคม 2564


นอกจากนี้ การบริการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทออนไลน์ (ODR) เดิมหากเกิดข้อพิพาทด้านทรัพย์สินทางปัญญา และต้องการให้กรมฯ ดำเนินการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท คู่กรณีจะต้องเดินทางมาที่กรมฯ เพื่อเจรจาหาข้อยุติ เสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย หากนำระบบ ODR มาใช้ โดยส่งคำร้องขอไกล่เกลี่ยไปทางอีเมลของคู่กรณี เพื่อนัดหมายผ่านระบบออนไลน์ และเจรจาไกล่เกลี่ยผ่านระบบ Video Call โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ระบบดังกล่าวช่วยลดการเผชิญหน้าของคู่กรณี และเกิดการประนีประนอมระหว่างคู่พิพาทส่งผลให้ลดจำนวนคดีสู่ศาล ทำให้ประชาชนประหยัดค่าใช้จ่ายและประหยัดเวลา โดยคาดจะเปิดให้บริการได้ภายในต้นปี 2564 และหนึ่งโครงการ คือ การวิเคราะห์เทรนด์เทคโนโลยีและใช้ประโยชน์จาก Big Data ฐานข้อมูลสิทธิบัตรทั่วโลก โดยระยะแรกจะวิเคราะห์แนวโน้มการยื่นคำขอจดทะเบียนสิทธิบัตรในไทยช่วง 5 ปีย้อนหลัง (ปี 2558 – 2562) เพื่อให้ผู้ประกอบการ นักธุรกิจไทย นักวิจัย และประชาชนได้ทราบถึงเทรนด์ของเทคโนโลยีโลกในอนาคต สะท้อนการเติบโตของเทคโนโลยีในแต่ละอุตสาหกรรม สามารถนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจในการพัฒนาต่อยอดงานวิจัยให้ตรงกับแนวโน้มของตลาด ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ โดยจะเผยแพร่ข้อมูลเทรนด์เทคโนโลยี

อย่างไรก็ตาม จากฐานข้อมูลดังกล่าวในช่วงต้นปี 2564 กรมฯ จะจัดทำระบบแสดงสถานะอายุการคุ้มครองสิทธิบัตร เพื่อให้นักธุรกิจ ผู้ประกอบการไทย นักประดิษฐ์คิดค้น และนักวิจัย ใช้ประโยชน์ และจากฐานข้อมูลสิทธิบัตรที่หมดอายุหรือกำลังจะหมดอายุการคุ้มครองในการพัฒนาต่อยอดสร้างนวัตกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สร้างเม็ดเงินให้กับธุรกิจไทย โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เช่น อุตสาหกรรมอาหารและยา เภสัชภัณฑ์ ปิโตรเคมี และบรรจุภัณฑ์ชีวภาพ เป็นต้น ซึ่งจากการตรวจสอบในฐานข้อมูลเบื้องต้น พบว่ามีสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตรที่หมดอายุหรือกำลังจะหมดอายุกว่า 13,000 รายการที่อาจนำไปพัฒนาต่อยอดได้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เครื่องบินภูเก็ตมุ่งหน้ามอสโก ขอลงจอดฉุกเฉินที่สุวรรณภูมิ

เที่ยวบิน 777-300ER สายการบิน Aeroflot ขึ้นจากภูเก็ตไปมอสโก เตรียมลงสุวรรณภูมิ หลังบินวนกลางทะเลอันดามันหลายชั่วโมง จากปัญหาระบบลงจอดขัดข้อง

ไข้หวัดใหญ่ระบาด

ไข้หวัดใหญ่ระบาดในสหรัฐ-เสียชีวิตแล้ว 13,000 ราย

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี รายงานว่า พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในฤดูกาลนี้อย่างน้อย 24 ล้านคนแล้วทั่วสหรัฐ

ตัดไฟเมียนมา

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันปลดพนักงานแล้วกว่าร้อยคน

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันออนไลน์และกลุ่มสแกมเมอร์ที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ปลดพนักงานแล้วกว่า 100 คน เนื่องจากขาดแคลนกระแสไฟฟ้า ทำให้พนักงานทยอยเดินทางออกจากท่าขี้เหล็ก กลับมาทางด่าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย อย่างต่อเนื่อง

ข่าวแนะนำ

เข้มทางบก แก๊งลักลอบเข้าเมือง หนีไปทางน้ำ

หลังมาตรการ Seal Stop Safe ชายแดนของรัฐบาล ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 30 มกราคม เพื่อเข้มงวด ตั้งจุดตรวจ จุดสกัดตามเส้นทางต่างๆ พบขบวนการลักลอบเข้าเมืองด้านชายแดนกาญจนบุรี ซึ่งฝั่งตรงข้ามคือ เมืองพญาตองซู ของเมียนมา เลี่ยงไปใช้เส้นทางน้ำแทน

ทองไทยใกล้เป้าหมายบาทละ 5 หมื่น

ทองไทยเข้าภาวะกระทิง เปลี่ยนแปลงคึกคักวันนี้ (11 ก.พ.) ปรับเปลี่ยน 27 รอบ เข้าใกล้ 48,000 บาทต่อบาททองคำ มองเป้าหมายถัดไปที่ 50,000 บาทต่อบาททองคำ ด้านสภาทองคำโลก ชี้การซื้อทองเป็นการลงทุนมากกว่าการใช้เป็นเครื่องประดับ ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นตลาดทองคำที่แข็งแกร่งในปี 67 สูงเป็นอันดับ 7 ของโลก