กรุงเทพฯ 15 ต.ค. – เอสโซ่ชะลอปิโตรฯคอมเพล็กซ์ในไทย พร้อมปรับแผนศึกษากลั่นเบนซินเพิ่มขึ้นหลังมาร์จิ้นดีเซลต่ำเพราะโควิด – 19 กดดันเดินทางเครื่องบินยังซบเซา
นายอดิศักดิ์ แจ้งกมลกุลชัย ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บมจ.เอสโซ่ (ประเทศไทย) (ESSO) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าที่บริษัท เอ็กซอน โมบิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (เอ็กซอนโมบิล) บริษัทแม่ ได้ชะลอแผนลงทุนปิโตรเคมีในไทยเพราะจากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว
“ส่วนตัวยังมีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์การเมืองในประเทศ และโควิด-19 อาจจะทำให้มีผลต่อการลงทุนของต่างชาติในประเทศไทยได้” นายอดิศักดิ์กล่าว
ส่วนการลงทุนธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน และขยายสถานีบริการน้ำมันปี 64 ตั้งไว้ที่ราว 1.2-1.5 พันล้านบาท ใกล้เคียงกับปีนี้ ปัจจุบันมีสถานีบริการ 676 แห่งและจะเพิ่มเป็น 690 แห่งในสิ้นปีนี้ โดยมีเป้าหมายจะเพิ่มเป็นกว่า 700 แห่งในปี 64 ซึ่งปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาดราว 11-12% เป็นอันดับ 4 ของประเทศ ขณะเดียวกันยังมุ่งสร้างรายได้อื่นผ่านพันธมิตรทางธุรกิจที่เข้มแข็ง ด้วยการขยายความร่วมมือกับพันธมิตรในการเพิ่มร้านค้าและบริการในสถานีบริการน้ำมัน โดยล่าสุดร่วมเป็นพันธมิตรกับกลุ่มไมเนอร์ฟู้ด เปิดร้านกาแฟใหม่ภายใต้ชื่อ Coffee Journey ซึ่งวางเป้าหมายจนถึงสิ้นปีนี้จะมีสาขาทั้งสิ้น 12-15 แห่ง
“แม้ยอดใช้น้ำมันของประเทศจะลดลงตามเศรษฐกิจแต่ยอดขายของเอสโซ่เมื่อรวมปริมาณการขายผ่านธุรกิจพาณิชยกรรมยังเป็นช่องทางการขายที่สร้างรายได้ได้ดี และยังสามารถเพิ่มยอดขาย 4% จากกลุ่มลูกค้าสำคัญ เช่น กลุ่มอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรม และกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดธุรกิจน้ำมันโดยรวมของเอสโซ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ” นายอดิศักดิ์กล่าว
ทั้งนี้เอสโซ่ได้หยุดการกลั่นน้ำมันอากาศยานตั้งแต่เดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา จากเดิมกลั่นอยู่ 1.1-1.2 หมื่นบาร์เรล/วัน และหันมากลั่นน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น จากเดิมที่กลั่นอยู่ 4.5-5.0 หมื่บาร์เรล/วัน ขณะที่กลั่นน้ำมันเบนซิน ระดับ 2.2-2.5 หมื่นบาร์เรล/วัน
อย่างไรก็ตาม การที่ความต้องการใช้น้ำมันอากาศยานที่หายไป ส่งผลให้โรงกลั่นหลายแห่งหันมากลั่นน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มาร์จิ้ดีเซลลดลง บริษัทจึงศึกษาที่จะหันมากลั่นเป็นน้ำมันเบนซินทดแทน และเตรียมความพร้อมปรับปรุงโรงกลั่นเพื่อรองรับการผลิตน้ำมันตามมาตรฐานยูโร 5 ยืนยันว่า จะสามารถผลิตน้ำมันได้ตามมาตรฐานดังกล่าวที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค.67 . – สำนักข่าวไทย