กรุงเทพฯ 8 ต.ค. – บล.เอเซียพลัสมองหุ้นไทยไตรมาส 4 ยังเหนื่อย แต่พอมีโอกาสทำกำไรหุ้นกลาง เล็ก มองเป้าหมายหุ้นไทยปี 64 อยู่ที่ 1,450 จุด
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนปรับขึ้นได้ยาก เพราะถูกกดดันจากภาวะเศรษฐกิจไทยปีนี้ที่คาดหดตัว 8.4% และการปรับลดกำไรของบริษัทจดทะเบียนปีนี้คาดอยู่ที่ 613,000 ล้านบาท หรือ 56.65 บาทต่อหุ้น แต่แนวโน้มเศรษฐกิจเริ่มทยอยดีขึ้น หลังการคลายล็อกดาวน์ ทำให้สำนักวิเคราะห์เริ่มปรับเพิ่มคาดการณ์จีดีพีปีนี้ ขณะที่งบประมาณปี 2564 ไม่ล่าช้าเหมือนที่คาด รวมทั้งการมีมาตรการการคลังช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ ทำให้คาดการณ์ว่าการปรับลงของจีดีพีและกำไรบริษัทจดทะเบียนถึงจุดสิ้นสุดแล้ว และปี 2564 กำไร บจ.จะกลับมาขยายตัว 25% อยู่ที่ 785,000 ล้านบาท หรือ 72.51 บาทต่อหุ้น ส่วนจีดีพีปี 2564 ขยายตัว 3-4 %
อย่างไรก็ตาม ยังมี 5 ปัจจัยที่กดดัน คือ จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกยังสูง ทำให้เกิดการล็อกดาวน์บางประเทศ, การเลือกตั้งสหรัฐอเมริกาวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563, สถานการณ์การเมืองในประเทศ, การปรับพอร์ตเพื่อเตรียมซื้อหุ้นบริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP ก่อนเข้าตลาดของนักลงทุนสถาบัน มีโอกาสกดดันหุ้นขนาดใหญ่ระยะสั้น, การปรับเกณฑ์ Celling&Floor และ Short Sell กลับมาปกติ
นายเทิดศักดิ์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นยังมีปัจจัยหนุนจากสภาพคล่องที่ล้นระบบ โดยมีเงินฝากถึง 15.5 ล้านล้านบาท และรอเข้ามาในตลาดหุ้น หากปัจจัยที่กดดันเริ่มผ่อนคลาย โดยวางเป้าหมายดัชนีปี 2564 อยู่ที่ 1,450 จุด แต่ถ้าคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.ลดดอกเบี้ยอีก 0.25% เงินจะไหลเข้าตลาดหุ้นมากขึ้น ดัชนีมีโอกาสปรับขึ้นถึง 1,526 จุด โดยถือเป็นจังหวะสะสมหุ้นพื้นฐานดี ราคาถูก แนะลงทุนหุ้นขนาดกลาง เล็ก เช่น ASK, DOHOME, INSET, MTC NOBLE และ STGT และให้ระมัดระวังหุ้นที่ราคาเกินมูลค่าพื้นฐานไปมาก เช่น MINT และ LPN และให้กระจายการลงทุนไปต่างประเทศในกลุ่ม New Economy เช่น กลุ่มเทคโนโลยีและสินค้าบริโภค.-สำนักข่าวไทย