กรุงเทพฯ 29 ก.ย.- ยอดใช้น้ำมันตามท้องถนน ส.ค.ขยายตัว เหตุคนแห่ขับรถเที่ยวตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนยอดรวม 8 เดือนแรกปีนี้ดิ่งร้อยละ 13.6
นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวถึงภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยต่อวันรอบ 8 เดือนของปี 2563 (ม.ค.-ส.ค.) ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 13.6 โดยกลุ่มเบนซินลดลงร้อยละ 4.3 กลุ่มดีเซลลดลงร้อยละ 4.0 น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) ลดลง ร้อยละ 56.6 น้ำมันเตาลดลงร้อยละ 18.6 น้ำมันก๊าดลดลงร้อยละ 17.8 LPG ลดลงร้อยละ 16.4 และ NGV ลดลงร้อยละ 30.8 โดยยังคงมีสาเหตุสำคัญมาจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้การเดินทางด้วยรถยนต์ เครื่องบิน การขนส่งสินค้า และการดำเนินธุรกิจลดน้อยลง ประกอบกับความกังวลต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่
“หากดูเฉพาะเดือนสิงหาคม 2563 เปรียบเทียบ 2562 จะเห็นได้ว่าการใช้น้ำมันบนท้องถนนเพิ่มขึ้นกลุ่มเบนซินโตร้อยละ 9.7 มียอดใช้ 33.23 ล้านลิตร/วัน กลุ่มดีเซลโตร้อยละ 4.7 มียอดใช้ 60.40 ล้านลิตร/วันเพราะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจส่งเสริมคนไทยท่องเที่ยว ทำให้ยอดใช้น้ำมันขยายตัว” นางสาวนันธิกากล่าว
สำหรับภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยต่อวันรอบ 8 เดือนของปี 2563 แยกเป็นรายผลิตภัณฑ์ดังนี้ กลุ่มเบนซินยอดใช้เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 30.8 ล้านลิตร/วัน ลดลงร้อยละ 4.3 แยกเป็นน้ำมันเบนซินยอดใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 0.8 ล้านลิตร/วัน ลดลงร้อยละ 18.7 กลุ่มแก๊สโซฮอล์ยอดใช้เฉลี่ย 30.0 ล้านลิตร/วัน ลดลงร้อยละ 3.8 แยกเป็นอี 85 ยอดใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 0.9 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 28.9 รองลงมาเป็นแก๊สโซฮอล์ 91 มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 8.2 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 14.9 อี 20 มีปริมาณการใช้ลดลงน้อยที่สุดเฉลี่ยอยู่ที่ 6.3 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 2.5 ขณะที่แก๊สโซฮอล์ 95 มีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 14.6 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.7
ขณะที่การใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 65.1 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนคิดเป็นร้อยละ 4.0 โดยน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา (บี7) มีปริมาณการใช้ลดลงเฉลี่ยอยู่ที่ 45.3 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 27.0 น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี10 มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 13.3 ล้านลิตร/วัน (เริ่มมีการจำหน่ายตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม 2562) และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 4.3 ล้านลิตร/วัน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายภาครัฐที่กำหนดให้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี10 เป็นน้ำมันดีเซลฐานของประเทศ จึงส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี10 มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ส่วนการใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 8.4 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 56.6 เนื่องจากอยู่ในช่วงมาตรการที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) อนุญาตให้บุคคลเฉพาะกลุ่มเดินทางเข้าออกประเทศได้และต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดการควบคุมโรคติดต่ออย่างเคร่งครัด จึงส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ลดลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าพบว่าความต้องการใช้ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ
การใช้ LPG เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 15.0 ล้าน กก./วัน ลดลงร้อยละ 16.4 ภาคขนส่งลดลงมากที่สุด มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 2.1 ล้าน กก./วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 27.2 รองลงมาเป็นภาคปิโตรเคมี มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 5.9 ล้าน กก./วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 20.8 ถัดมาเป็นภาคอุตสาหกรรมมีปริมาณการใช้ลดลงเฉลี่ยอยู่ที่ 1.6 ล้าน กก./วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 13.3 และภาคครัวเรือนมีปริมาณการใช้ลดลงน้อยที่สุดเฉลี่ยอยู่ที่ 5.4 ล้าน กก./วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 6.2
การใช้ NGV เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 3.8 ล้าน กก./วัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 30.8 เนื่องจากภาครัฐมีนโยบายการปรับราคาขายปลีก NGV สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลทั่วไปเพื่อสะท้อนต้นทุน ทำให้ราคา NGV ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคหันไปใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์หรือน้ำมันดีเซลหมุนเร็วแทน
ส่วนการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงมีปริมาณรวมลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เฉลี่ยอยู่ที่ 900,063 บาร์เรล/วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 9.6 โดยมีปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบเฉลี่ยอยู่ที่ 869,358 บาร์เรล/วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 5.0 คิดเป็นมูลค่าเฉลี่ย 39,024 ล้านบาท/เดือน เนื่องจากเดือน สิงหาคม 2563 ยังคงอยู่ในช่วงหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่น และโรงแยกก๊าซธรรมชาติ ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศลดลง จึงส่งผลให้ปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบลดลงไปด้วย สำหรับน้ำมันสำเร็จรูป เป็นการนำเข้าน้ำมันเบนซินพื้นฐาน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน และ LPG โดยมีปริมาณนำเข้าลดลงเฉลี่ยอยู่ที่ 30,705 บาร์เรล/วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 61.5 คิดเป็นมูลค่านำเข้าเฉลี่ยรวม 1,444 ล้านบาท/เดือน
การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป เป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยานและก๊าด และ LPG โดยมีปริมาณส่งออกเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เฉลี่ยอยู่ที่ 197,684 บาร์เรล/วัน คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.9 คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวมเฉลี่ย 8,770 ล้านบาท/เดือน.-สำนักข่าวไทย