คปภ. ติวเข้ม สอบขึ้นทะเบียนผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านประกันภัย


กรุงเทพฯ 23 ก.ย. – เลขาธิการ คปภ. แนะผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านประกันภัยยุค Digital Disruption พัฒนาความรู้ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง และให้ความสำคัญในการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ประชาชนด้านประกันภัยเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและเป็นธรรม


นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เป็นประธานเปิดการอบรมหลักสูตรสำหรับผู้ประสงค์ที่จะสมัครขึ้นทะเบียนรายชื่อผู้ชำนาญการ (บุคคลภายนอก) ชุดที่ 3 เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัยตามระเบียบสำนักงาน คปภ. ว่าด้วยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัย พ.ศ. 2559 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมาย กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัย ให้กับบุคคลภายนอกที่มีความประสงค์จะขึ้นทะเบียนรายชื่อผู้ชำนาญการ จำนวนทั้งสิ้น 91 คน ซึ่งจัดระหว่างวันที่ 22-24 กันยายน 2563 ณ โรงแรมสวิสโฮเต็ล กรุงเทพมหานคร

เลขาธิการ คปภ. กล่าวว่า กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัยของสำนักงาน คปภ. ดำเนินการภายใต้ระเบียบสำนักงาน คปภ. ว่าด้วยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัย พ.ศ. 2559 ซึ่งกำหนดให้มีกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทโดยผู้ชำนาญการซึ่งเป็นบุคคลภายนอก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ประชาชนด้านการประกันภัย ให้ได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัย และเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการด้านสินไหมทดแทนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด รวมทั้งเป็นการเพิ่มทางเลือกอีกทางหนึ่งให้กับประชาชนที่จะระงับข้อพิพาทด้านการประกันภัยให้เป็นไปด้วยความรวดเร็วโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ซึ่งเป็นการระงับข้อพิพาทที่เกิดจากความพึงพอใจของคู่กรณีทั้งสองฝ่าย (win-win) ประกอบกับผู้ขึ้นทะเบียนไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ชุดที่ 1 และชุดที่ 2 ที่ได้แต่งตั้งครบอายุ 2 ปี ตามระเบียบดังกล่าว ดังนั้น สำนักงาน คปภ. จึงได้จัดอบรมบุคคลภายนอกที่ประสงค์ขึ้นทะเบียนผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทโดยผู้ชำนาญการ ชุดที่ 3 ให้มีความรู้พื้นฐานด้านการประกันภัยก่อนเข้ารับการสอบคัดเลือก เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัย


สำหรับการคัดเลือกบุคคลภายนอกเพื่อขึ้นทะเบียนรายชื่อผู้ชำนาญการ ชุดที่ 3 มีผู้สนใจสมัครเข้ารับการอบรมเพื่อคัดเลือกจากหลายสาขาอาชีพ อาทิ ผู้ประนีประนอมของศาล ทนายความ อาจารย์ เจ้าของธุรกิจ ข้าราชการบำนาญ เป็นต้น ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุดใน 60 ลำดับแรก จะเป็นผู้มีสิทธิขึ้นทะเบียนรายชื่อผู้ชำนาญการ (บุคคลภายนอก) เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัย ซึ่งการคัดเลือกผู้ชำนาญการในครั้งนี้ จะมีความพิเศษแตกต่างจากครั้งที่ผ่านมา โดยกำหนดให้มีการอบรมที่เน้นทักษะความรู้ด้านกฎหมายประกันภัย กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัย และความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ประกันภัย เพื่อเป็นพื้นฐานความรู้ทางด้านประกันภัยให้กับผู้สมัครที่มีทักษะทางด้านไกล่เกลี่ยอยู่แล้ว จากนั้นจึงจัดให้มีการสอบทั้งข้อเขียนและสัมภาษณ์ ก่อนที่จะมีการประกาศขึ้นทะเบียนรายชื่อผู้ชำนาญการต่อไป ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการปฏิบัติหน้าที่ของการเป็นผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท และส่งผลให้เกิดข้อดี 2 ประการ คือ ประการแรก ผู้เข้ารับการอบรม จะได้รับความรู้ด้านการประกันภัย และมีความพร้อมในการปฏิบัติงานได้ทันทีภายหลังจากการได้รับคัดเลือก และประการที่ 2 เกิดความร่วมมือเป็นภาคีเครือข่ายและพันธมิตรระหว่างสำนักงาน คปภ. และผู้เข้ารับการอบรมที่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสำนักงาน คปภ. มากยิ่งขึ้น

เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า นับตั้งแต่เปิดศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัย เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2559 ซึ่งถือเป็นศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัยแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียน ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา มีเรื่องร้องเรียนที่เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยโดยผู้ชำนาญการทั้งสิ้น 1,154 เรื่อง ไกล่เกลี่ยสำเร็จเป็นจำนวน 920 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 79.72 โดยงานไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านประกันภัย (Insurance Mediation Center) ได้รับรางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 2562 จากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (สำนักงาน ก.พ.ร.) ทั้งนี้ จากสถิติประเด็นข้อพิพาทเกี่ยวกับการประกันวินาศภัยที่มีการร้องเรียนมากที่สุด คือ ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ซึ่งคิดเป็นจำนวนมากกว่าร้อยละ 80 ของเรื่องร้องเรียนทั้งหมดที่เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย รองลงมา คือ ค่าซ่อมรถ และค่าสินไหมทดแทนกรณีบาดเจ็บ ส่วนประเด็นข้อพิพาทเกี่ยวกับการประกันชีวิตที่มีการร้องเรียนมากที่สุด คือ การบอกล้างสัญญาประกันชีวิต กรณีไม่แถลงข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 865 การเรียกร้องเงินผลประโยชน์ตามเอกสารเสนอขายซึ่งแตกต่างจากเงื่อนไขตามกรมธรรม์ และการเสนอขายโดยไม่ได้อธิบายเงื่อนไขและความคุ้มครองให้ชัดเจน ทำให้ผู้เอาประกันภัยหลงเชื่อหรือเข้าใจผิดในการทำสัญญาประกันชีวิตตามลำดับ ซึ่งจำนวนข้อพิพาทที่เกิดขึ้น อาจเป็นผลจากการที่ประชาชนนำระบบประกันภัยเข้ามาบริหารความเสี่ยงมากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จากยอดจำหน่ายกรมธรรม์ประกันภัยโควิด-19 หรือการนำระบบประกันภัยมาใช้รองรับนโยบายภาครัฐ อย่างไรก็ดี การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเป็นกระบวนการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ดังนั้น จึงต้องดำเนินการควบคู่ไปกับการสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ประชาชน เพื่อลดปัญหาข้อพิพาทด้วยเช่นกัน

“การทำหน้าที่ผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทของสำนักงาน คปภ. ต้องสามารถปรับตัวเข้าสู่ยุค Digital Disruption ต้องมีความเข้าใจด้านข้อกฎหมาย และจำเป็นต้องพัฒนาความรู้ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของกฎกติกาด้านการประกันภัย ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับคู่กรณีทั้งสองฝ่ายที่เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท และที่สำคัญต้องปฏิบัติตนให้เป็นกลาง มีความซื่อสัตย์สุจริต ให้ความเป็นธรรมแก่คู่กรณีทั้งสองฝ่าย อันจะส่งผลให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นในกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทโดยผู้ชำนาญการ และเพิ่มประสิทธิภาพการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนด้านการประกันภัยได้อย่างถูกต้องและเป็นธรรม” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร