เปิดเวทีระดมความเห็นแก้ปัญหาสลากเกินราคา

สำนักงานสลากฯ 11 ก.ย. – สำนักงานสลากฯ เปิดเวทีระดมความเห็นจากหลายฝ่าย หวังแก้ปัญหาสลากเกินราคา มุ่งดูแลผู้ซื้อและผู้ขาย บรรดาผู้ค้ายังต้องการจัดพิมพ์สลากเพิ่มจาก 100 ล้านฉบับ รองรับความต้องการ หนุนสลากออนไลน์ เพิ่มทางเลือกให้กับนักเสี่ยงโชค


นายพชร อนันตศิลป์ ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล พร้อมด้วยนายธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ร่วมเสวนากับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เรื่อง “การปรับโครงสร้างกระจายสลาก รวมถึงการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา” เพื่อต้องการระดมความเห็นอย่างหลากหลายจากทุกภาคส่วนที่มีส่วนได้เสีย ทั้งนักวิชาการ สื่อมวลชน มูลนิธิ สมาคมคนพิการหลายองค์กร รวมทั้งผู้ค้าสลากรายย่อย ผู้ซื้อสลาก หวังนำไปสู่การปัญหาสลากเกินราคา และดูแลผู้ค้าได้รับสลากอย่างทั่วถึง ดูแลผู้ซื้อสลากไม่เกินราคา 80 บาท

หลังพบว่าโควิด-19 ทำให้ประชาชนตกงานหันมาเป็นผู้ค้ารายย่อยหน้าใหม่ จึงมีแรงซื้อสลากเพิ่มเติม เพราะเป็นอาชีพเข้ามาง่าย ส่งผลให้มีแรงซื้อในตลาดค้าส่งเพิ่มขึ้น และเมื่อรวมชุดราคาพุ่งใบละ 150 บาท สำนักงานสลากฯ จึงต้องการจัดระเบียบโควตาใหม่ หรือการศึกษาแนวทางการออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มเติม เพื่อจำหน่ายสลากออนไลน์ราคา 80 บาท ซึ่งทั้ง 2 แนวทาง ต้องการเปิดให้มีการรับฟังความคิดเห็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากทุกฝ่าย 


ปัจจุบันจัดพิมพ์สลากฯ เกิน 100 ล้านฉบับต่องวด แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ สลากโควตา 33 ล้านฉบับ แจกจ่ายให้กับองค์ต่าง ๆ ทั้งผู้พิการ ผู้มีรายได้น้อย ให้มีอาชีพในการจำหน่ายสลากฯ และ 67 ล้านฉบับ เปิดให้มีการซื้อจอง โดยมีผู้ลงทะเบียนซื้อจอง 150,000 ราย สำหรับการรับสลากทั้งระบบไปจำหน่ายรวม 190,000 ราย ในปี 2563 ยอด 11 เดือน ยังเป็นรัฐวิสหากิจนำส่งเงินเข้าคลังสูงสุดอันดับ 1 เป็นเงิน 42,000 ล้านบาท

ขณะที่สมาคมคนพิการ ผู้ค้ารายย่อย เรียกร้องให้จำหน่ายสลากโควตาส่งให้กับองค์กร มูลนิธิ สมาคมต่าง ๆ ราคา 70.40 บาท เพื่อช่วยเหลือกลุ่มคนพิการที่ได้รับโควตา สำหรับการจัดสรรสลากให้กับประชาชนทั่วไป ซึ่งได้ลงทะเบียนกับสำนักงานสลากฯ สั่งจองทางตู้เอทีเอ็มและจัดส่งไปไปรษณีย์ อาจต้องเปิดลงทะเบียนเพิ่มเติม เพราะเปิดลงทะเบียนมาแล้วหลายปี การป้องกันสลากเกินราคาจึงต้องหาทางกำหนดให้มีผู้จำหน่ายจริงเป็นอาชีพขายทั้งระบบโควตาและผู้สั่งจอง

โดยขณะนี้เปิดให้ประชาชนแสดงความเห็นผ่านเว็บไซต์สำนักงานสลากฯ ภายใน 15 กันยายนนี้  แบบสอบถามครั้งนี้ มี 10 ข้อ ได้แก่ 1.ปัจจุบันสำนักงานฯ พิมพ์สลากงวดละ 100 ล้านฉบับ คิดว่าเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนหรือไม่ 2.อยากให้มีการปรับปรุง หรือเปลี่ยนแปลงโครงสร้างระบบการจำหน่ายสลากปัจจุบันหรือไม่ 3.ต้องการให้สำนักงานสลากฯ กำหนดคุณสมบัติของผู้จำหน่ายสลากเป็นอย่างไร 4.อยากให้สำนักงานสลากฯ ใช้วิธีคัดเลือกผู้จำหน่ายสลากอย่างไร เวทีสัมมนาวันนี้เสนอแนะความเห็นอย่างหลากหลาย


ขณะที่ ร.อ.นิย์ชาญ สุปินะ ประธานกลุ่มสหภาพฯ และเครือข่ายองค์กรคนพิการ ให้ความเห็นว่าราคาสลากขึ้นอยู่กับความต้องการของสลาก หากคนต้องการซื้อมาก ราคาจะสูงขึ้น การห้ามรวมชุด ห้ามขายส่ง จะควบคุมไม่ได้ แม้จะเปลี่ยนคน ตัดสิทธิ์ แต่พฤติกรรมไม่ต่างจากเดิม เพียงแต่เปลี่ยนคน ปัญหาจึงวนกลับมาที่เดิม จึงเสนอแนวทางเพิ่มจัดพิมพ์สลากเพิ่มให้เพียงพอเพิ่มอีก 4 ล้านฉบับ จัดสรรโดยตรงให้กับผู้รับโควต้าให้เพียงพอ รูปแบบสลากขอจัดพิมพ์ใบคู่แบ่งราคาคู่ละ 160 บาท  หรือแบ่งขายใบละ 80 บาท เพื่อจัดพิมพ์จำนวน 50 ล้านฉบับแทน หรือเปลี่ยนเลขจาก 6 หลัก เพิ่มเป็น 8 หลัก และเสนอให้สำนักงานสลากจัดชุด ด้วยการเลิกการออกรางวัล 3 ตัวหน้า หมุน 2 ครั้ง แล้วกลับมาใช้แบบเดิม คือ การออกรางวัลเลขท้าย 3 ตัว หมุน 4 ครั้ง

นายประสาน น้อมจันทึก หัวหน้ากลุ่มผู้ค้าสลาก 5 ภาค กล่าวว่า ผู้ค้าสลากปัจจุบันเดือดร้อนมาก จึงเสนอให้ซื้อสลากวันที่ 18 ของทุกเดือน จากนั้นรับสลากไปจำหน่ายวันที่ 20 ของทุกเดือน ยอมรับว่าต้นทุนสลากราคา 70.40 บาทต่อใบ หากได้  5 เล่ม ต้นทุน 35,200 บาทต่องวด หากขายหมด เมื่อหักค่าใช้จ่าย ค่าเดินทาง ค่าเช่าบ้านเมื่อไปขายต่างจังหวัดได้กำไรเพียง 4,000 บาทต่องวด จึงเสนอให้จัดโต๊ะจำหน่ายของสมาคม องค์กร มูลนิธิ ราคา 80 บาท ทุกอำเภอ ทุกจังหวัด เพื่อตรวจสอบได้ชัดเจน และขอให้ยกเลิกการรวมชุดของสำนักงานสลาก 2-2-1 ยกเลิกคนลงทะเบียน ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ ได้สิทธิ์แล้วนำไปขายต่อโดยไม่ได้เป็นผู้ค้าตัวจริง

นายคำดี สารวิทย์ กล่าวว่า ขอให้ดูแลมูลนิธิคนพิการ องค์กรต่าง ๆ เมื่อนำระบบออนไลน์มาใช้ เพื่อแยกการค้าสลากใบรวมกับการค้าสลากผ่านออนไลน์ เพื่อมีทั้ง 2 ระบบในการจำหน่ายสลาก เพราะว่าคนพิการ เข้าถึงแอปพลิเคชั่น ระบบออนไลน์ได้ไม่เท่ากับคนปกติธรรมดา

นายวิษณุ วงศ์สินศิริกุล กรรมการการแข่งขันทางการค้า กล่าวว่า สำนักงานสลากฯ ได้จัดพิมพ์สลากเพิ่มตั้งแต่ 34 ล้านฉบับ เป็น 100 ล้านฉบับในปัจจุบัน แต่ผู้เสี่ยงโชคจริง ๆ ยังเลือกซื้อเฉพาะเลขท้าย 2-3 ตัว จึงเสนอให้เพิ่มผลิตภัณฑ์ เพื่อเพิ่มตัวเลือกรองรับนักเสี่ยงโชค ทั้งหวยออนไลน์ และสลากรูปแบบอื่น เหมือนกับต่างประเทศ โดยดูแลทั้งใบแบบเดิมและสลากแบบใหม่ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดปมสามียิงภรรยาดับคารถ ปัญหาเรื่องเงิน

กทม. 11 มิ.ย. – เปิดปมเหตุสามียิงภรรยาดับคารถ พี่ชายกับเพื่อนรุ่นน้องเผยว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาเรื่องเงิน พบช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป จากกรณีนายมีนาพัฒน์ อายุ 40 ปี ก่อเหตุยิงนางสาวนันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยาของตัวเอง แล้วทิ้งศพไว้ในรถ ในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เขตบางแค และหลังก่อเหตุปิดล็อกประตูเงียบอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่ล้อมจับนาน 4 ชั่วโมง จนยอมมอบตัวเมื่อคืนวานนี้ (10 มิ.ย.) ต่อมาพี่ชายของนายมีนาพัฒน์ มาเยี่ยมผู้ก่อเหตุที่ สน.เพชรเกษม เปิดใจยอมรับว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัญหาเรื่องเงิน เมื่อช่วงเดือนเมษายน น้องสะใภ้ (ผู้ตาย) บอกว่า น้องชายนำบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดกไปเข้าธนาคาร 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งผิดจากปกติที่น้องไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินมาก่อน เพราะแม่ยกสมบัติให้เยอะมาก ครั้งสุดท้ายที่คุยกับน้องชายคือเมื่อวานนี้ช่วง 19.30 น. น่าหลังจากก่อเหตุฆ่าภรรยาแล้ว คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงสังเกตได้ว่าน้องชายมีอาการสับสน พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มีบางประโยคที่น้องชายพูดออกมาแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ เรื่องบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดก บอกว่า “บ้านหลังนี้ครอบครัวเราจะต้องได้อยู่” […]

ตำรวจภาค 8 รวบ 3 ราย ขบวนการส่งยาขนมากับรถทัวร์

กระบี่ 11 มิ.ย. – รวบขบวนการค้ายาบ้า ขนมากับรถทัวร์ สายเชียงใหม่-ภูเก็ต 3 แสนเม็ด แวะลงกระบี่ ส่งให้เอเย่นต์สาขาสุราษฎร์ฯ ตำรวจรวบทีเดียวทั้งคนส่งและคนรับ นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผบช.ภ.8 รักษาการ ผบ.ภ.จ.กระบี่ แถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ได้ผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 300,000 เม็ด ประกอบด้วย นายสัมพันธ์ อายุ 54 ปี นายสุรพล อายุ 30 ปี และนางสาวสุนารี อายุ 27 ปี พร้อมยึดรถเก๋ง 1 คัน และแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน การจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการส่งมอบยาบ้ากันบริเวณสามแยกเขาต่อ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เมื่อถึงเวลาก็มีรถทัวร์สายเชียงใหม่-ภูเก็ต […]

‘ฮุน มาเนต’ ย้ำทหารกัมพูชาไม่ได้ถอยออกจากพื้นที่

ปารีส 10 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งสารจากฝรั่งเศสถึงชาวกัมพูชา ยืนยันจุดยืนกองทัพไม่ได้ถอนออกจากพื้นที่ภายใต้อธิปไตย พร้อมร่วมมือกับไทยปักปันเขตแดน ตามกลไกเจบีซี ยกเว้น 4 จุดที่จะส่งศาลโลกตัดสิน ฮุน มาเนต ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุมว่าด้วยมหาสมุทรของสหประชาชาติ ครั้งที่ 3 ที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Hun Manet ส่งสารถึงชาวกัมพูชา มีใจความดังนี้ กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางแก้ไขปัญหานี้โดยสันติ แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการพยายามรุกรานใดๆ กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะเข้าร่วมสนับสนุนกลไกการเจรจาชายแดนกับไทยที่มีคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม เพื่อดำเนินงานรังวัดและปักปันเขตแดนที่เหลือระหว่าง 2 ประเทศต่อไป ยกเว้นประเด็นที่กัมพูชาจะส่งให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ไอซีเจ (ICJ) พิจารณา

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

ข่าวแนะนำ

ร่างตัวประกันไทยรายสุดท้ายที่เสียชีวิตในกาซา ถึงไทยแล้ว

11 มิ.ย. – ร่างแรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันและเสียชีวิตในฉนวนกาซา ถึงไทยแล้ว ด้านกระทรวงแรงงาน เผยเร่งช่วยเหลือครอบครัวและทายาท ร่างของนายณัฐพงษ์ ปินตา แรงงานไทยที่ถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกันและเสียชีวิตในฉนวนกาซา ที่ถูกส่งกลับมาด้วยสายการบินอิสราเอลแอร์ไลน์ ออกเดินทางจากกรุงเทลอาวีฟ ได้เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เรียบร้อยแล้ว เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (11 มิ.ย.) โดยมี นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และ น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ ที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงผู้แทนเอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย มารอรับ และร่วมวางพวงหรีดหน้าหีบศพเพื่อแสดงความอาลัย โดยนายณัฐพงษ์ เป็นตัวประกันแรงงานไทยรายสุดท้ายที่ค้นพบร่างและสามารถส่งกลับไทยได้ สำหรับการช่วยเหลือเยียวยาที่ทายาทจะได้รับ คือ 1.ในส่วนของสถาบันประกันภัยอิสราเอล กรณีแรงงานเสียชีวิต ครอบครัวหรือทายาทจะได้รับเงินชดเชย ได้แก่ ค่าทำศพ ประมาณ 79,000 บาท, ค่าใช้จ่ายในการฝังศพเท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 47,000 บาท (1,300 USD), เงินช่วยเหลือการเป็นม่าย (หากมีภรรยา) ประมาณ 57,000 บาท, เงินชดเชยรายเดือนและรายปีอื่นๆ […]

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

นายกฯ ดูบังเกอร์หลบภัย ถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ มท.

11 มิ.ย.- นายกฯ ดูชาวบ้านทำบังเกอร์ ร้องโถ่ ก่อนถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ ก.มหาดไทย หลังรายงานขอรับบริจาคมาใช้แทนยางรถยนต์ วันนี้ (11 มิ.ย. 68) เวลา 13.40 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ต่อมายังหมู่บ้านสกลพัฒนา ตำบลตะเคียน อำเภอกาบเชิง เพื่อพบปะชาวบ้าน มอบสิ่งของ และตรวจดูการทำบังเกอร์หลบภัย โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้มีชาวบ้านนำผ้าขาวม้ามามอบให้ ซึ่งนายกฯ รับมาก่อนจะหันไปหานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า “ผูกกันเป็นทีม” ก่อนจะมอบสิ่งของอุปโภค – บริโภค เพื่อให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่ จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมการสร้างบังเกอร์ โดยมีนายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านสกลพัฒนา รายงาน โดยนายกรัฐมนตรี ถามผู้ว่าฯ ว่า ขอเข้าไปดูได้หรือไม่ และถามชาวบ้านบ้านว่า “ทำมานานหรือยัง” โดยชาวบ้านบอกว่า […]

คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา-ค้านประกันตัว

กรุงเทพฯ 11 มิ.ย. – คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ ตำรวจคัดค้านการประกันตัว ส่วนผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวฝากขังพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 1 ควบคุมตัวหมอแอร์ ไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากการกระทำความผิดมีอัตราโทษสูง เกรงว่าจะมีการหลบหนีและยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ในระหว่างควบคุมตัว หมอแอร์สวมหมวก แว่นตาดำ และแมสก์ปิดบังใบหน้า พยายามแอบอยู่หลังเจ้าหน้าที่ โดยไม่ตอบคำถามของสื่อมวลชนแต่อย่างใด สำหรับผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ วันพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) .-สำนักข่าวไทย