ธปท.ยกระดับการดูแลให้บริการแก่ลูกค้า

กรุงเทพ ฯ 11 ก.ย.  – ธปท. ยกระดับการกำกับดูแลการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างเป็นธรรม ให้ครอบคลุมถึงสถาบันการเงินเฉพาะกิจ บริษัทบริหารสินทรัพย์ และนาโนไฟแนนช์ ตลอดจนเพิ่มแนวทางการบริหารจัดการระบบงานให้ชัดเจนและเหมาะสมกับลักษณะธุรกิจของผู้ให้บริการทางการเงินมากขึ้น พร้อมทั้งกำชับผู้ให้บริการทางการเงินดูแลลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 อย่างเหมาะสม


ตามที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ผลักดันการกำกับดูแลเรื่องการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างเป็นธรรม ตั้งแต่ต้นปี 2561 โดยออกประกาศ เรื่อง การบริหารจัดการด้านการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างเป็นธรรม (market conduct) ให้สถาบันการเงิน บริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงิน ผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิต และผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับถือปฏิบัติ ในครั้งนี้ ธปท. ได้ปรับปรุงประกาศ market conduct ดังกล่าวให้มีความชัดเจนและเหมาะสมกับลักษณะธุรกิจของผู้ให้บริการทางการเงินมากขึ้น รวมทั้งขยายการกำกับดูแลให้ครอบคลุมถึงสถาบันการเงินเฉพาะกิจ บริษัทบริหารสินทรัพย์ และผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ (นาโนไฟแนนช์) ด้วย โดยประกาศฉบับใหม่นี้มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน 2563

นางธัญญนิตย์ นิยมการ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน 2 ธปท. เปิดเผยว่า การผลักดันให้เกิดการให้บริการทางการเงินที่โปร่งใสและเป็นธรรม เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญของ ธปท. ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยประกาศ market conduct ฉบับใหม่นี้ นอกจากจะยังคงเน้นให้ผู้ให้บริการทางการเงินต้องให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการระบบงาน 9 ระบบที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการลูกค้าตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการแล้ว จะเพิ่มแนวทางการนำหลักเกณฑ์ไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับผู้ให้บริการทางการเงินแต่ละประเภท (proportionality approach) เพื่อให้สอดคล้องกับลักษณะธุรกิจ ขนาดองค์กร ประเภทผลิตภัณฑ์ และกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย รวมทั้งปรับปรุงให้มีความชัดเจนมากขึ้นในทางปฏิบัติ โดยเพิ่มตัวอย่างที่ควรและไม่ควรปฏิบัติ เช่น การกำหนด KPI ควรพิจารณาปัจจัยคุณภาพการขายและเรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมจากยอดขายด้วย สำหรับการขายผลิตภัณฑ์ที่ไม่รับประกันเงินต้น เช่น กองทุนรวมและประกันชีวิต ต้องชี้แจงและย้ำให้ลูกค้าทราบถึงกรณีที่อาจไม่ได้รับคืนเงินต้นเต็มจำนวนด้วย


นอกจากนี้ ยังได้ปรับแนวทางการขอความยินยอมกรณีเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการให้บริการที่ทำให้ลูกค้ามีภาระหรือความเสี่ยงเพิ่มเติม เช่น การปรับเพิ่มวงเงินบัตรเครดิต โดยเปลี่ยนแนวทางจากเดิมที่หากลูกค้าไม่ปฏิเสธจะถือว่าลูกค้ายอมรับการเพิ่มวงเงินนั้น (opt out) เป็นต้องให้ลูกค้าแจ้งยืนยันยอมรับการเพิ่มวงเงิน (opt in) แล้วเท่านั้น หรือในการออกบัตรเครดิตให้ลูกค้า ผู้ให้บริการทางการเงินไม่สามารถแถมบัตรกดเงินสดให้ลูกค้าโดยที่ลูกค้าไม่ได้ขอสมัครบัตรกดเงินสดดังกล่าว ตลอดจนยังกำหนดให้ ธปท. สามารถเปิดเผยรายชื่อกรรมการ และ/หรือผู้บริหารระดับสูงที่ถูกเปรียบเทียบปรับจากการที่ไม่สามารถปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ market conduct ได้ด้วย

นางธัญญนิตย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงวิกฤตโควิด 19 ที่ภาคธุรกิจและประชาชนจำนวนไม่น้อยได้รับผลกระทบ บางกลุ่มตกงานจนขาดรายได้ บางกลุ่มอาจมีรายได้ลดลง และประสบปัญหาในการชำระหนี้ ธปท. จึงได้ผ่อนคลายหลักเกณฑ์ ออกมาตรการ และขอความร่วมมือจากผู้ให้บริการทางการเงินทุกกลุ่มมาเป็นระยะ เช่น การปรับลดอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ การพักชำระหนี้เงินต้น และ/หรือดอกเบี้ย ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลด้าน market conduct อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนยังคงได้รับบริการทางการเงินอย่างเป็นธรรม อย่างไรก็ดี ในด้านของผู้ให้บริการทางการเงิน ควรมีการดูแลปัญหาของลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม โดยเฉพาะการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ ธปท. ติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะความสำเร็จจากการปรับโครงสร้างหนี้อย่างจริงจัง จะมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป

หากประชาชนท่านใดได้รับบริการที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งปัญหาเข้ามาที่ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงินของ ธปท. โทร.1213 ได้ตั้งแต่วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-16.30 น. หรือสามารถส่งเรื่องร้องเรียนมาที่ www.1213.or.th ตลอด 24 ชั่วโมง และสำหรับท่านที่ไม่สามารถหาข้อยุติเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างหนี้กับผู้ให้บริการทางการเงินได้ สามารถส่งคำร้องมาที่ทางด่วนแก้หนี้ของ ธปท. www.1213.or.th/App/DebtCase ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่ง ธปท. จะประสานงานนำส่งคำขอปรับโครงสร้างหนี้ของท่านไปยังผู้ให้บริการทางการเงินต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลักพุ่งเหินฟ้าคารถ 6 ล้อ

รอดตายปาฏิหาริย์! วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลัก ก่อนพุ่งเหินฟ้าติดคาบนรถ 6 ล้อ พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถ ปลอดภัย

กกต.สั่งเอาผิดอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ

กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายเลือกตั้งไม่ตรงความเป็นจริง โทษหนักทั้งจำคุก-ตัดสิทธิ 5 ปี

ข่าวแนะนำ

สีสันคริสต์มาสอีฟ ย่านราชประสงค์

บรรยากาศเทศกาลคริสต์มาสอีฟ ย่านราชประสงค์ ท่ามกลางอากาศสบายๆ ยามเย็น อบอวลด้วยรอยยิ้มและความสุข ททท. มั่นใจตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2567 จนถึงวันที่ 1 มกราคม 2568 จะมีนักท่องเที่ยวร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ ทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ ทั่วไทย มากกว่า 1.5 ล้านคน สร้างเม็ดเงินกว่า 62,000 ล้านบาท

นายกฯ​ ขอบคุณสื่อร่วมทำงาน บอกเป็นคนตรงๆ ไม่ค่อยคิดร้าย

นายกฯ​ ขอบคุณสื่อร่วมทำงาน บอกอายุน้อยที่สุดต้องสร้างความสดใสทุกวงการ​ ขอให้เข้าใจคาแรคเตอร์ส่วนตัวเป็นคนตรง-โผงผาง​ ไม่ค่อยคิดร้ายกับใคร

เลขาฯ กฤษฎีกา ยันยังไม่มีข้อสรุปปม “กิตติรัตน์”

“เลขาฯ กฤษฎีกา” ยันยังไม่ปัดตก “กิตติรัตน์” นั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ เผยเตรียมประชุมคณะกรรมการร่วม สอบคุณสมบัติพรุ่งนี้

“กิตติรัตน์” เคารพการพิจารณา หลังไม่ผ่านคุณสมบัตินั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ

“กิตติรัตน์” โพสต์ข้อความ หลังไม่ผ่านคุณสมบัตินั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ลั่นไม่มีอะไรค้างคาใจ-ไม่เคยขลาดกลัวหนีหายเอาตัวรอด ระบุได้อาสาทำงานให้ประเทศแล้ว ยันเคารพการพิจารณา