กรุงเทพฯ 27 ส.ค. – รมว.เกษตรฯ เชิญชวนเกษตรกรสมัครร่วม “โครงการ 1 ตำบล 1 กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่” วันนี้ถึง 9 ก.ย. ย้ำเป็นโครงการที่น้อมนำหลักทฤษฎีใหม่และเกษตรยั่งยืนมาถ่ายทอดให้เกษตรกรปฏิบัติ หวังฟื้นฟูภาคเกษตร แก้ปัญหาหนี้สินในสถานการณ์โควิด-19 เน้นสร้างแหล่งน้ำในพื้นที่เกษตรกร เพื่อให้ประกอบอาชีพได้ตลอดทั้งปี
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ขอเชิญชวนเกษตรกรที่สนใจเข้าร่วมโครงการ 1 ตำบล 1 กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่ โดยตรวจสอบคุณสมบัติและยื่นใบสมัครผ่านระบบออนไลน์ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ http://ntag.moac.go.th หรือยื่นใบสมัครกับเจ้าหน้าที่เกษตรตำบลและสำนักงานเกษตรอำเภอตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม – 9 กันยายน 2563 โครงการนี้เป็นไปตามนโยบายพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืน ซึ่งเป็นการวางรากฐานภาคเกษตรครั้งใหญ่ที่สุด โดยหวังว่าจะแก้ปัญหาเกษตรกรรายย่อย ซึ่งเป็นเกษตรกรส่วนใหญ่ของประเทศที่ยากจนและมีหนี้สินได้อย่างยั่งยืน
สำหรับโครงการ 1 ตำบล 1 กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่ได้รับความเห็นชอบจาก ครม. ซึ่งอนุมัติงบประมาณ 9,805 ล้านบาท ภายใต้โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของรัฐบาลในสถานการณ์โควิด-19 โดยเปิดรับสมัครเกษตรกรทั่วประเทศ 4,009 ตำบล ๆ ละ 16 ราย รวม 64,144 ราย อีกทั้งการจ้างแรงงานอีกตำบลละ 8 คน รวม 32,072 คน ซึ่งผู้ได้รับการคัดเลือกจะต้องผ่านการอบรมบ่มเพาะให้เข้าใจปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่
นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า การจัดการพื้นที่ตามทฤษฎีใหม่เป็นไปตามพระราชดำริ คือ แบ่งเป็น 4 ส่วน ได้แก่ พื้นที่แหล่งน้ำและประมง 30% พื้นที่ทำนา 30% พื้นที่เกษตรผสมผสานไม้ผลไม้เศรษฐกิจ 30% พื้นที่อยู่อาศัยและทำปศุสัตว์ 10% โดยเกษตรกรนำพื้นที่ 3 ไร่เข้าร่วมโครงการ ทั้งนี้ มีเป้าหมายให้มีแปลงเกษตรทฤษฎีใหม่ 64,144 แปลง เพิ่มพื้นที่เกษตรกรรมยั่งยืนขึ้น 192,432 ไร่ และมีแหล่งน้ำใหม่ในทุกจังหวัดอีก 64,144 แห่ง คิดเป็นพื้นที่กักเก็บน้ำเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 2,100 ลูกบาศก์เมตร/ราย โดยแปลงต้นแบบจะใช้เป็นศูนย์เรียนรู้เพื่อขยายวิถีแห่งเกษตรทฤษฎีใหม่ในระดับหมู่บ้านทั่วประเทศ เพื่อให้เกษตรกรรายย่อยซึ่งเป็นเกษตรกรส่วนใหญ่ 6.8 ล้านครัวเรือนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีความเข้มแข็งที่จะก้าวพ้นความยากจนและหนี้สินได้ ที่สำคัญดำรงชีวิตด้วยความสุขอย่างยั่งยืน
คุณสมบัติผู้สม้ครเข้าร่วมโครงการต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงเกษตรฯ หรือเกษตรกรทั่วไป หรือทายาทเกษตรกร หรือแรงงานคืนถิ่น หรืออาสาสมัครเกษตรกรในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ อายุระหว่าง 18 – 60 ปี และมีสัญชาติไทย พื้นที่ที่ใช้สมัครเข้าร่วมโครงการฯ ต้องเป็นพื้นที่ที่เป็นผืนเดียวกันไม่น้อยกว่า 3 ไร่ และมีเอกสารสิทธิถูกต้องตามกฎหมาย โดยเอกสารสิทธิต้องเป็นของผู้สมัครหรือเป็นของทายาทของผู้สมัคร (บิดากับบุตร มารดากับบุตร สามีกับภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย) และผู้สมัครต้องมีที่พักอาศัยในพื้นที่ที่ใช้สมัครเข้าร่วมโครงการ ต้องยินยอมให้กระทรวงเกษตรฯ ใช้ประโยชน์จากที่ดินเพื่อดำเนินโครงการฯ เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 7 ปี โดยมีการลงลายมือชื่อหรือประทับลายนิ้วมือในหนังสือยินยอม โดยผู้สมัครและพื้นที่ที่ใช้สมัครเข้าร่วมโครงการฯ ต้องไม่อยู่ในโครงการส่งเสริมเกษตรทฤษฎีใหม่ของกระทรวงเกษตรฯ ที่ดำเนินการมาก่อนหน้า
อีกส่วนหนึ่ง คือ ผู้รับจ้างงานต้องเป็นเกษตรกรทั่วไป หรือทายาทเกษตรกร หรือแรงงานคืนถิ่น หรืออาสาสมัครเกษตรกรในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ อายุระหว่าง 18 – 60 ปีบริบูรณ์ และมีสัญชาติไทย วุฒิการศึกษาไม่ต่ำกว่าระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 หรือเทียบเท่า มีที่พักอาศัยอยู่ในตำบลที่สมัครเข้าร่วมโครงการฯ ต้องมีอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น โทรศัพท์เคลื่อนที่ ไม่เป็นข้าราชการประจำ หรือข้าราชการบำนาญ รวมทั้งข้าราชการการเมือง ลูกจ้างของกระทรวง กรมที่มีฐานะเทียบเท่าพนักงานส่วนท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น และไม่เป็นลูกจ้างเอกชน ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ของพรรคการเมือง ต้องไม่เป็นเกษตรกรที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมกิจกรรมปรับปรุงแปลงตามโครงการ 1 ตำบล 1 กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่ และไม่เป็นคนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ คนวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน ไม่สมประกอบ หรือเป็นโรคติดต่อร้ายแรง
“โครงการนี้สิ้นสุดเดือนกันยายน 2564 ซึ่งปลัดกระทรวงเกษตรฯ จัดทำแผนปฏิบัติงานเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรรับทราบต่อไป ยืนยันว่า กระทรวงเกษตรฯ จะดำเนินโครงการเพื่อประโยชน์ในการสร้างรายได้เพิ่มของเกษตรกรและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ โดยทุกขั้นตอนโปร่งใส ตรวจสอบได้ และไร้ทุจริตแน่นอน” นายเฉลิมชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย