นายกฯ เปิดส่วนต่อขยายมอเตอร์เวย์หมายเลข 7 เป็นทางการแล้ว

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- เปิดอย่างเป็นทางการแล้ว!! มอเตอร์เวย์หมายเลข 7 ช่วงพัทยา- มาบตาพุด “ศักดิ์สยาม” ลุยสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารสนามบินอู่ตะเภา พร้อมเผยข่าวดี ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ไม่รีบประกาศจัดเก็บค่าผ่านทาง หากฐานะกองทุนมอเตอร์เวย์ยังเข้มแข็ง


พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หรือมอเตอร์เวย์หมายเลข 7 ช่วงพัทยา- มาบตาพุด โดยนายกรัฐมนตรีย้ำว่า การพัฒนาถนนมอเตอร์เวย์ ไม่ได้ทำเพื่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้ทางทุกคน และในอนาคตรัฐบาลจะเดินหน้าพัฒนาเส้นทางมอเตอร์เวย์อื่นๆ ให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาคอย่างครบถ้วน ทั้งแนวเหนือ- ใต้ ,ตะวันออก -ตะวันตก

ขณะที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุถึงโครงการส่วนต่อขยาย ที่จะเร่งรัดดำเนินการ ขยายมอเตอร์เวย์หมายเลข 7 ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา โดยจะก่อสร้างทางยกระดับระยะทาง 3.5 กิโลเมตร วิ่งตรงไปถึงอาคารผู้โดยสาร ถือเป็นการเชื่อมต่อระหว่างระบบมอเตอร์เวย์และการเดินทางโดยอากาศยานอย่างสมบูรณ์ วงเงินการลงทุน 4,200 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าเวนคืน 260 ล้านบาท และค่าก่อสร้าง 3,940 ล้านบาท โดยหลังจากคณะรัฐมนตรีอนุมัติกรอบการดำเนินโครงการแล้ว จะเร่งศึกษาออกแบบ ศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม คาดว่าใช้เวลา 1 ปี เชื่อว่าจะสามารถเริ่มงานก่อสร้างได้ในปี 2565 แล้วเสร็จในปี 2568 โดยกำหนดเวลาแล้วเสร็จจะสอดคล้องกับกำหนดการแล้วเสร็จ การพัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาระยะต่อไปพอดี มีส่วนสำคัญต่อระบบคมนาคมเชื่อมโยงสู่พื้นที่ EEC


ส่วนการเก็บค่าผ่านทางของส่วนต่อขยาย มอเตอร์เวย์หมายเลข 7 ช่วงพัทยามาบตาพุด ซึ่งต้องมีออกประกาศกฎกระทรวงฯกำหนดอัตราการจัดเก็บนั้น เดิมคาดว่าจะเริ่มจัดเก็บได้ในเดือนตุลาคมปีนี้ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมยืนยันว่า ไม่ได้รีบเร่งเรื่องดังกล่าว เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในสถานการณ์ การระบาดของไวรัสโควิด 19 จึงต้องการผ่อนคลายภาระค่าผ่านทางให้แก่ผู้เดินทาง โดยการประกาศจัดเก็บนั้นจะขอพิจารณาฐานะของเงินกองทุนมอเตอร์เวย์อีกครั้ง โดยหากเงินกองทุนยังมีความเข้มแข็งก็จะยังไม่ประกาศจัดเก็บค่าผ่านทางส่วนต่อขยายนี้

ขณะเดียวกันกระทรวงคมนาคม ยืนยันถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหา การจราจรหน้าด่าน ที่จะครอบคลุมระบบทางด่วนของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย และมอเตอร์เวย์ของกรมทางหลวง โดยจะนำระบบเทคโนโลยีทางด่วนและมอเตอร์เวย์- ไร้ไม้กั้น หรือ Free-Flow มาใช้ ซึ่งจะเริ่มนำร่องกับโครงการมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 โดยนายศักดิ์สยามยืนยันว่า จะพยายามผลักดันให้ระบบทางด่วน ทั้งการทางพิเศษฯ และมอเตอร์เวย์ทั่วประเทศ ไม่ต้องใช้ไม้กั้นให้ได้ก่อนปีใหม่ 2564 เป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่คนไทย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

หวยอลวน12ล้าน

หวย 12 ล้านพาวุ่น “ผู้กองเข้ม” แจ้งความ “ยายแหล่”

หวยอลวนมาอีกแล้ว หลังยายแหล่ แม่ค้าร้านลาบก้อย ที่เพิ่งถูกสลากฯ เป็นเศรษฐีใหม่ 12 ล้านบาท แต่มีตำรวจรายหนึ่ง ไปแจ้งความ ว่าถูกยายแหล่ ยักยอกทรัพย์

แอปฯ “ล่าเหรียญ” ฟีเวอร์ ทำชาวบ้านเดือดร้อน

แอปพลิเคชัน “Jagat” ฟีเวอร์ ทำวัยรุ่นว้าวุ่น แห่ล่าเหรียญแลกเงินที่กระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทำชาวบ้านและผู้ประกอบการเดือดร้อน ตำรวจเตือนการแชร์พิกัดตำแหน่งอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเฝ้าติดตามและฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สินได้ และอาจเสี่ยงเจอข้อหาบุกรุก