fbpx

เอสเอ็มอีอยากให้รัฐขยายเวลาพักชำระหนี้

กรุงเทพฯ 18 ส.ค.- สสว.เผยหลังวิกฤติโควิด-19 เอสเอ็มอีส่วนใหญ่ 78.9% อยากให้รัฐขยายมาตรการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยไปอีกไม่เกิน 6 เดือน ส่วนใหญ่ 84.6% จะไม่ลดคนงาน


นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยผลสำรวจสภาพคล่องธุรกิจเอสเอ็มอี และสถานการณ์การจ้างงาน หลังวิกฤติโควิด-19 ทำการสำรวจวันที่ 20-27 มิถุนายนที่ผ่านมา ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี 2,582 ราย จาก 21 สาขาธุรกิจทั่วประเทศ พบว่าธุรกิจเอสเอ็มอี ส่วนใหญ่ยังไม่มีการกู้ยืม 1,434 ราย คิดเป็น 55.5%  และที่มีการกู้ยืมเงิน 1,148 ราย คิดเป็นร้อยละ 44.5 ซึ่งส่วนใหญ่กู้เงินจากสถาบันการเงิน คิดเป็น 87.8% และแหล่งเงินกู้นอกระบบคิดเป็น  12.2%   

ภายหลังวิกฤติโควิด-19 พบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ต้องการให้ภาครัฐขยายมาตรการต่อไปอีกมากถึง  78.9% ส่วนที่เห็นว่ายังไม่ควรขยายระยะเวลามาตรการ 21.1%  ในการขยายมาตรส่วนใหญ่ต้องการไม่เกิน 6 เดือน 48.1% รองลงมา คือ ควรขยายเวลาจากเดิมไม่เกิน 3 เดือน  26.7% แต่พบว่าระยะเวลาเฉลี่ยที่ควรขยายระยะเวลาของมาตรการต่อจากเดิม คือ 4.7 เดือน


ประเภทเงินกู้ที่ผู้ประกอบการมองว่าควรขยายระยะเวลามากที่สุด คือ  เงินกู้สินเชื่อธุรกิจ  39.8%  รองลงมา คือ สินเชื่อส่วนบุคคล  23.6%  สินเชื่อรถยนต์  11.1%  สินเชื่อบ้าน  8.7%  วงเงินกู้ประจำ  7.4%  สินเชื่อบัตรเครดิต 6.1% และที่ตรงตามความต้องการมากที่สุด คือ เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ 59.6% รองลงมา คือ การกู้โดยไม่ต้องมีหลักค้ำประกัน  31.2% วงเงินกู้ประจำ  4.3%  และการเบิกเงินเกินบัญชี  3.9% นอกจากนี้ พบว่าส่วนใหญ่ต้องการวงเงินกู้ 1,000 – 50,000 บาท  40.3% รองลงมา คือ วงเงินกู้ 100,001 – 500,000 บาท 19.2% และวงเงินกู้ 50,001 – 100,000 บาท 18.6% ส่วนระยะเวลาสินเชื่อที่ต้องการมากที่สุด คือ ไม่เกิน 6 เดือน 26.0% รองลงมา คือ ไม่เกิน 12 เดือน 25.6%  ไม่เกิน 3 เดือน 15.8% และไม่เกิน   24 เดือน คิดเป็น 15% 

สำหรับเอสเอ็มอีเป็นกลุ่มสำคัญในการจ้างแรงงานของประเทศที่มีจำนวนการจ้างงานเกือบ 14 ล้านคน จากการสำรวจสถานการณ์การจ้างงานหลังโควิด-19 จากผู้ประกอบการทั้งหมด 2,582 ราย พบว่ากิจการมีจำนวนแรงงานเฉลี่ยทั้งหมด 8 คน รวมสมาชิกในครอบครัวและเจ้าของธุรกิจ  ด้านประเด็นการเปลี่ยนแปลงด้านแรงงาน หลังโควิด-19 วิเคราะห์เฉพาะกิจการที่มีลูกจ้างประจำและลูกจ้างรายวันเท่านั้น พบว่า จำนวนแรงงาน และค่าจ้างแรงงาน กิจการส่วนใหญ่ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง คิดเป็น  84.6% และ 86.1% ตามลำดับ รองลงมา คือ มีการปรับลดจำนวนและค่าจ้างแรงงานลง  12.0%  และ  11.2% ตามลำดับ ในส่วนโบนัส และค่าอาหาร ค่าที่พัก และค่าเดินทางกิจการส่วนใหญ่ไม่มีให้อยู่แล้ว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลโรงงานย่านพระราม 2

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลในโรงงานย่านพระราม 2 ควันสีขาวลอยโขมง เบื้องต้นพบเป็นสารไทโอยูเรีย

อุตุฯ เผยไทยตอนบนร้อนจัด แนะเลี่ยงทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง

คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าหั่นศพ “ยากูซ่า” จ.นนทบุรี

คดีสะเทือนขวัญ พบชิ้นส่วนมือ ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ล่าสุดตำรวจจับกุมหนึ่งในผู้ต้องหาได้แล้ว และทราบว่าทั้งผู้ตายและผู้ลงมือฆ่าหั่นศพ เป็นแก๊งยากูซ่าชาวญี่ปุ่น

ชาวบ้านร้องโรงงานเก็บสารเคมีเร่งเยียวยาเหตุไฟไหม้

ชาวบ้านที่เดือดร้อนจากเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีอุตสาหกรรม จ.ระยอง เรียกร้องโรงงานช่วยเหลือ บอกน้ำสักขวดก็ไม่ได้