นโยบายพลังงานเดินอย่างไร หลังโควิด-19

กรุงเทพฯ 14 ส.ค. – ราชกรุ๊ป​รอ​นโยบาย​ รมว.พลังงานคนใหม่ตัดสินใจนโยบาย​ ภาพเศรษกิจพลังงานเปลี่ยนหลังโควิด-19​


นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)​ ​กล่าวว่า ​รอฟังนโยบาย​จากนายสุพัฒนพงษ์​ พันธ์​มีเชาว์ ​รองนายกรัฐมนตรี​และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน​ ในเรื่องการนำเข้าก๊าซแอลเอ็นจีว่าจะเปิดเสรีทั้งหมด​ หรือ ให้เอกชนจัดหาและขายให้​ ปตท.เป็นผู้ขายรายเดียว​ รวมทั้งรอการตัดสินใจเรื่องโรงไฟฟ้าชุมชน​และการรับซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ​ จากเดิมในแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้ายระยะยาว​ 20 ปี​ (PDP​ 2018) ระบุว่าจะเริ่มรับซื้อ​รอบใหม่ปี 2569  แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจ​ติดลบการใช้ไฟฟ้าลดลง ​ทำให้สำรองไฟฟ้าประเทศสูงถึงร้อยละ 40 ​ดังนั้น ​คงต้องฟังนโยบายว่าจะเลื่อนหรือชะลอโครงการโรงไฟฟ้าอย่างไร ​ซึ่งโครงการของบริษัทมีหลายโครงการเกี่ยวข้อง​กับนโยบายรัฐ

“โครงการโรงไฟฟ้าเซกอง ​4 ​สปป.ลาว​ที่เราร่วมทุนอยู่ระหว่างเจรจาค่าไฟฟ้า​ รอว่า นโยบายจะเลื่อนรับซื้อไฟฟ้า​จาก​ต่างประเทศหรือ​ ไม่​ การนำเข้าแอลเอ็นจีโดยโรงไฟฟ้า​หินกองก็รอแผนว่าโครงสร้างราคาก๊าซฯเป็นอย่างไร​ หากอนุมัตินำเข้าค่าผ่านท่อก๊าซฯ ของ​ ปตท.จะคิดเฉพาะท่อบนบกหรือ​ไม่​  ส่วนโรงไฟฟ้าชุมชนเตรียมแผนไว้​ 2​ แห่ง​ เมื่อโควิด-19 ​มา ทำให้สถานการณ์​เปลี่ยนแปลงไป​ รอดูว่านโยบายรัฐจะเป็นอย่างไร” นายกิจจา กล่าว


นายกิจจา​ กล่าวด้วยว่า บริษัทเตรียมร่วมกับพันธมิตรยื่นประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก (ศูนย์วัฒนธรรมฯ-บางขุนนนท์) ระยะทาง 13.4 กิโลเมตร,  โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง เส้น นครปฐม-ชะอำ ส่วนโครงการลงทุนในธุรกิจจัดหาเชื้อเพลิงชีวิมวล (Wood pellet) ที่จะลงทุนใน สปป.ลาวนั้น คาดว่าจะสัมปทานเช่าพื้นที่ได้ไตรมาส 3/2563 พื้นที่ 40,000 ไร่ แต่เบื้อต้นจะลงทุนก่อน 20,000 ไร่ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาขายเชื้อเพลิงให้กับลูกค้าในจีนและเกาหลีใต้ไว้หลายราย

นอกจากนี้ บริษัทฯ เดินหน้าลงทุนเพื่อบรรลุเป้าหมาย 780 เมกะวัตต์ในปีนี้ โดยในครึ่งปีแรกบริษัทฯ สามารถลงทุนขยายกำลังผลิตทั้งโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ 4 โครงการ และส่วนขยายของโรงไฟฟ้าเดิมอีก 1 โครงการ ส่งผลให้บริษัทฯ รับรู้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 242.62 เมกะวัตต์​ ส่งผลกำลังผลิตติดตั้งรวมทั้งสิ้นเป็น 8,177.68 เมกะวัตต์ ด้านธุรกิจระบบสาธารณูปโภค บริษัทฯ ได้ลงทุนเพิ่มทุน 280 ล้านบาทในบริษัท สมาร์ท อินฟราเนท จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโครงข่ายใยแก้วนำแสง (บริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 51) เพื่อใช้ซื้อสินทรัพย์จากบริษัท เอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะเป็นฐานธุรกิจในการสร้างรายได้นับจากนี้เป็นต้นไป

สำหรับผลประกอบการ 6 เดือนแรกของปี 2563  บริษัทฯ มีกำไรก่อนผลกระทบอัตราแลกเปลี่ยน 2,516.29 ล้านบาท และกำไรส่วนของบริษัทฯ  2,434.98  ล้านบาท ลดลงร้อยละ 34.1 จากงวดเดียวกันของปี 2562 ปัจจัยที่ส่งผลกระทบมาจากการรับรู้ขาดทุนทางบัญชีจากอัตราแลกเปลี่ยน การหยุดเดินเครื่องตามแผนการซ่อมบำรุงของโรงไฟฟ้าหงสา และโรงไฟฟ้าราชบุรี ซึ่งส่งผลให้รายได้ลดลง อย่างไรก็ตาม รายได้จากโรงไฟฟ้าราชโคเจนเนอเรชั่น ที่ลงทุนซื้อกิจการเมื่อปลายที่แล้ว และโรงไฟฟ้าเบิกไพรโคเจนเนอเรชั่น ที่เดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์เมื่อกลางปีที่แล้ว ยังส่งผลดีอย่างมีนัยสำคัญต่อรายได้รวมของบริษัทฯ ในครึ่งปีแรกนี้ด้วย        


ทั้งนี้ ครึ่งหลังของปีนี้บริษัทฯ จะเริ่มรับรู้รายได้จาก 3 โครงการ ได้แก่ โครงการส่วนขยายของโรงไฟฟ้านวนคร กำลังการผลิต 60 เมกะวัตต์ และกำลังผลิตไอน้ำ 10 ตันต่อชั่วโมง ซึ่งจะจำหน่ายไฟฟ้าให้กับลูกค้าในเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมนวนคร ปัจจุบันมีลูกค้าที่ได้เจรจาลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแล้ว 9 ราย โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมยานดิน กำลังการผลิต 214.2 เมกะวัตต์ ในออสเตรเลีย ซึ่งมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับบริษัท Alinta Sales Pty Ltd. รวมทั้งโรงไฟฟ้าพลังความร้อน Thang Long ในเวียดนามหลังจากที่บริษัทฯ ลงทุนในกองทุน An Binh Energy and Infrastructure Fund (ABEIF) นอกจากนี้ บริษัทฯ จะเดินหน้าเจรจาการร่วมลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงหลักและพลังงานทดแทนต่างประเทศที่มีอยู่ในมือขณะนี้ โดยเฉพาะอินโดนีเซียและเวียดนาม ซึ่งจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อีก 400 เมกะวัตต์ และบรรลุเป้าหมายปีนี้ 537 เมกะวัตต์ได้ตามแผน

“ตามแผนการลงทุนของบริษัทฯ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนโครงการใหม่และโครงการที่ได้ร่วมลงทุนแล้วประมาณ 15,000 ล้านบาท ในครึ่งปีแรกบริษัทฯ ได้ใช้เงินลงทุนแล้ว 3,700 ล้านบาท ส่วนที่เหลือ 11,300 ล้านบาท จะใช้ลงทุนโครงการที่ลงทุนช่วงครึ่งปีหลัง และยังมั่นใจจะเติบโตถึงเป้าหมายที่ 200,000 ล้านบาท ในปี 2566 ได้อย่างเต็มที่” นายกิจจา กล่าว. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่