เร่งช่วยเกษตรกรประสบอุทกภัยด้านพืช-ปศุสัตว์

กรุงเทพฯ 4 ส.ค. – กรมปศุสัตว์เตรียมเสบียงสัตว์และหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่เร็ว พร้อมดูแลสัตว์ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม ด้านกรมส่งเสริมการเกษตรระดมเจ้าหน้าที่ออกสำรวจความเสียหาย หากเข้าเกณฑ์ประสบภัยพิบัติจะได้รับค่าชดเชยตามระเบียบราชการ


นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า สั่งการหน่วยงานในสังกัดร่วมกับภาคีเครือข่ายต่าง ๆ ทั่วประเทศเตรียมความพร้อมรับมือฝนตกหนัก ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนประชาชนและที่ทำกินของเกษตรกรหลายจังหวัด ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อชีวิตและความเป็นอยู่รวมถึงผลผลิตของสัตว์ของเกษตรกร โดยเตรียมเสบียงอาหารสัตว์แห้ง 5,612.60 ตัน เวชภัณฑ์ ยานพาหนะ ทีมสัตวแพทย์และผู้ช่วยสัตวแพทย์ ตลอดจนชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว ให้พร้อมในการออกปฏิบัติการทันทีที่ได้รับการร้องขอหรือเมื่อเกิดสถานการณ์ และได้มอบหมายให้ปศุสัตว์เขต 1-9 จัดตั้งโดยมีศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านปศุสัตว์ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ ให้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์เร่งประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรทราบเกี่ยวกับการป้องกันดูแลปศุสัตว์ หากพบเหตุต้องให้การช่วยเหลือเกษตรกรอย่างรวดเร็วเพื่อลดความเสียหาย โดยมีศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านปศุสัตว์ในส่วนกลางที่พร้อมสนับสนุนทุกด้าน โดยมีเป้าหมายลดการสูญเสียด้านปศุสัตว์และสัตว์เลี้ยงให้น้อยที่สุด


นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง  อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า สั่งการให้เกษตรจังหวัดทุกจังหวัดที่เกิดน้ำป่าไหลหลาก สำรวจข้อมูลความเสียหายด้านพืชตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (5 ส.ค.) รายงานมายังกรม พร้อมระดมเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรกระจายลงพื้นที่ตามอำเภอต่าง ๆ เพื่อเยี่ยมเยียนให้กำลังใจเกษตรกรร รวมทั้งสอบถามความต้องการเพื่อฟื้นฟูอาชีพหลังน้ำลด เช่น การส่งเสริมปลูกพืชผักระยะสั้น หรืออาชีพอื่น ๆ ให้คำแนะนำด้านวิชาการ เพื่อดูแลพืชภายหลังจากน้ำลด ให้เกษตรกรใน 21 จังหวัดพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อผลผลิตทางการเกษตร ให้คำแนะนำแก่เกษตรกรในการดูแลข้าว พืชไร่ ไม้ผล เพราะบางพื้นที่เริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว นอกจากนี้ ยังได้เตรียมการให้ผลิตชีวภัณฑ์ เช่น ไตรโคเดอร์มาเพื่อเตรียมแจกจ่ายช่วยเหลือเกษตรกรหลังน้ำลดทันที หลังน้ำลดสารชีวภัณฑ์จะสามารถช่วยลดผลกระทบจากโรคพืชที่มากับน้ำได้

สำหรับมาตรการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรกรณีทางจังหวัดประกาศเป็นเขตประสบภัยพิบัติจะจ่ายให้เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรไว้ก่อนเกิดภัย จ่ายเงินช่วยเหลือตามจำนวนพื้นที่จริงที่ได้รับความเสียหาย รายละไม่เกิน 30 ไร่ ซึ่งกำหนดให้นาข้าวได้รับอัตราไร่ละ 1,113 บาท พืชไร่ได้รับอัตราไร่ละ 1,148 บาท และพืชสวนและอื่นๆ ได้รับอัตราไร่ละ 1,690 บาท ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง